เมื่อเราพูดถึงบริษัทที่มีมูลค่าบริษัทหลายแสนล้านบาท บริษัทที่เรานึกออก ก็มักจะเป็นบริษัทที่ถูกก่อตั้งขึ้นมานานหลายสิบปี หรือบางบริษัทก็อาจจะมีอายุเกิน 100 ปี

ถ้าคิดดี ๆ แล้ว เรื่องนี้ก็คงไม่แปลกอะไร เพราะกว่าที่บริษัทจะมีมูลค่ามหาศาลแบบนี้ ก็ต้องผ่านการลองผิด ลองถูก ใช้เวลาในการขยายธุรกิจมาอย่างยาวนาน

แต่บริษัทยุคใหม่หลายแห่ง กลับมีมูลค่าบริษัทมหาศาลได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ จากเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว

หนึ่งในบริษัทที่เราจะมาพูดถึงกันก็คือบริษัท Hims & Hers Health, Inc. แพลตฟอร์ม Telehealth ที่ก่อตั้งในปี 2017 และในปัจจุบันมีมูลค่าบริษัทมากถึง 300,000 ล้านบาท

แล้ว Hims & Hers มีกลยุทธ์ธุรกิจอะไร ถึงสามารถสร้างมูลค่าบริษัทได้มากขนาดนี้ ภายในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปี ?

MONEY LAB จะมาย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ

Hims & Hers ถูกก่อตั้งขึ้นมาโดยคุณ Andrew Dudum ชาวอเมริกันลูกครึ่งปาเลสไตน์ อดีตผู้ก่อตั้งกองทุน VC ชื่อ Atomic Labs ที่มีคุณ Peter Thiel เป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนด้วย

วันหนึ่งเขาบังเอิญมองเห็นโอกาสในธุรกิจการให้บริการการแพทย์ทางไกล หรือ Telehealth

จากการสังเกตว่า ผู้ชายมักจะมีปัญหาสุขภาพบางอย่างที่ทำให้ไม่กล้าไปพบแพทย์

เขาจึงเริ่มก่อตั้ง Hims & Hers ขึ้นมาในปี 2017 โดยแพลตฟอร์มของ Hims & Hers จะไม่เหมือนแพลตฟอร์ม Telehealth รายอื่น ตรงที่ Hims & Hers จะเน้นการรักษาโรคเฉพาะทางไม่กี่โรค

ไม่ได้ให้บริการโรคทั่วไป อย่างเช่น ไข้หวัด ท้องเสีย ปวดหัว แบบที่หลายแพลตฟอร์มให้บริการอยู่

แต่โรคที่ Hims & Hers เปิดให้บริการทางแพลตฟอร์ม เป็นโรคที่คนหลายคนไม่กล้าไปหาหมอโดยตรง และเป็นโรคที่ต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง

เช่น โรคผมร่วง โรคผิวหนัง ปัญหาสมรรถภาพทางเพศ ปัญหาฮอร์โมนทั้งเพศชาย และเพศหญิง ปัญหาสุขภาพจิต รวมไปถึงโรคอ้วน และเบาหวาน

เมื่อคุณ Andrew รู้แล้วว่าแพลตฟอร์มของเขาเจาะกลุ่มลูกค้าแบบไหนบ้าง ก็ถึงเวลาที่เขาต้องคิดถึงโมเดลการหารายได้ผ่านแพลตฟอร์มของเขา

โรคที่เขาจะให้บริการบนแพลตฟอร์มที่เพิ่งกล่าวถึงไป ล้วนมีจุดร่วมเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือ ประกันสุขภาพของสหรัฐฯ ไม่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลของโรคเหล่านี้

ทำให้แพลตฟอร์มอย่าง Hims & Hers เป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการแบบ Direct to Consumer คือการเรียกเก็บเงินโดยตรงจากลูกค้า

ผ่านการนำเสนอแพ็กเกจการสมัครสมาชิกเพื่อใช้บริการแพลตฟอร์มเป็นรายเดือน หรือรายปี แล้วแต่ความสมัครใจของลูกค้า

โดยราคาแพ็กเกจจะแตกต่างกันไปตามโรคที่ลูกค้าต้องการใช้บริการ เช่น

- ปัญหาสุขภาพทางเพศ และผมร่วง มีราคาเริ่มต้นประมาณ 600 ถึง 1,000 บาทต่อเดือน

- ปัญหาสุขภาพจิต มีราคาเริ่มต้นประมาณ 1,600 ถึง 2,700 บาทต่อเดือน

- ปัญหาการจัดการน้ำหนัก หากลูกค้าเลือกที่จะใช้ยาผสม ราคาจะอยู่ระหว่าง 2,200 ถึง 6,000 บาทต่อเดือน

แต่ถ้าหากลูกค้าอยากใช้ยาแบรนด์เนม อย่าง Wegovy หรือ Mounjaro ราคาก็จะสูงถึง 19,000 ถึง 60,000 บาทต่อเดือนเลยทีเดียว

ซึ่งค่าสมัครแพ็กเกจเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะครอบคลุมทั้งค่าธรรมเนียมการปรึกษาแพทย์ทางออนไลน์ และค่ายาไปแล้ว ทำให้ลูกค้าจ่ายครั้งเดียวจบ แทบไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มเติมอีกเลย

เมื่อลูกค้าจ่ายเงินค่าสมัครสมาชิกแล้ว ลูกค้าก็จะสามารถใช้งานแพลตฟอร์มได้ทันที

เพียงแค่กรอกข้อมูลสุขภาพลงไปในแพลตฟอร์ม ระบบก็จะจับคู่กับแพทย์เฉพาะทางจากคลินิก หรือโรงพยาบาลที่เป็นพาร์ตเนอร์กับแพลตฟอร์ม

จากนั้นก็นัดวัน เวลา เพื่อให้ผู้ใช้งานได้ปรึกษาปัญหาสุขภาพกับแพทย์ โดยที่ไม่ต้องเจอหน้ากันจริง ๆ

ขั้นตอนสุดท้ายคือการส่งยาตามใบสั่งของแพทย์ ส่งตรงไปถึงหน้าบ้านของผู้ใช้งาน

เรียกได้ว่ากิจกรรมทุกอย่างที่เล่ามานี้ เกิดขึ้นในแพลตฟอร์ม Hims & Hers ทั้งหมด โดยที่ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องเดินทางออกจากบ้าน มารอคิวที่โรงพยาบาลด้วยซ้ำ

แต่บริษัทก็ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นี้เท่านั้น เพราะสิ่งที่บริษัทตั้งใจทำต่อไปก็คือ การรักษาแบบเฉพาะเจาะจงให้กับผู้ป่วยแต่ละคน ผ่านการปรุงยาที่ถูกออกแบบส่วนผสมให้เข้ากับผู้ป่วยแต่ละคน

ต้องเกริ่นก่อนว่า ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีการปรุงยาผสมที่เรียกว่า Compound Drug เพื่อทำการรักษาแบบเจาะจงแบบรายบุคคลอยู่แล้ว

ซึ่งยาผสม คือยาที่มีการปรับสูตรให้ตรงกับความต้องการของผู้ป่วยแต่ละคนโดยเฉพาะ เภสัชกรตามร้านขายยาก็จะปรุงยาตามใบสั่งแพทย์ขึ้นมาให้ผู้ป่วย 

โดยแพลตฟอร์มอย่าง Hims & Hers ก็จะจับมือเป็นพันธมิตรกับร้านขายยาทั่วประเทศ เพื่อให้มีสถานที่สำหรับปรุงยาผสม ส่งให้กับผู้ใช้งานทั่วประเทศได้อย่างสะดวก

นอกจากจับมือเป็นพันธมิตรกับร้านขายยาทั่วประเทศแล้ว Hims & Hers ยังสร้างโรงงานปรุงยาผสมเป็นของตัวเอง เพื่อรองรับการผลิตยาผสมในปริมาณมาก ๆ ด้วย

และการมีโรงงานเป็นของตัวเอง ก็จะช่วยลดการพึ่งพาตัวกลางที่เป็นร้านขายยาลง ทำให้บริษัทควบคุมคุณภาพ และต้นทุนได้ดีมากขึ้น

นอกจากยาผสมแล้ว บริษัทยังมีเทคโนโลยี AI ที่เรียกว่า MedMatch เพื่อทำหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพ และให้คำแนะนำทางการแพทย์แบบเฉพาะเจาะจงให้ผู้ใช้งานแต่ละรายอีกด้วย

โดย MedMatch จะเรียนรู้จากข้อมูลทางการแพทย์จำนวนมหาศาลที่เก็บอยู่ในแพลตฟอร์ม Hims & Hers จากนั้น AI ก็จะวิเคราะห์ข้อมูล และนำเสนอคำแนะนำทางการแพทย์ที่เหมาะสมให้กับผู้ใช้งานแต่ละราย

เช่น การกำหนดขนาดยาที่เหมาะสม ในกลุ่มผู้ที่ต้องการใช้ยาลดน้ำหนัก หรือการช่วยแพทย์หาสูตรยาที่เหมาะกับผู้ป่วย ที่มีเงื่อนไขสุขภาพแตกต่างกัน

เทคโนโลยีนี้ ช่วยสร้าง Flywheel หรือวงจรที่ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพในการให้บริการของแพลตฟอร์มของ Hims & Hers ได้เรื่อย ๆ 

เพราะยิ่งมีผู้ใช้งานมากเท่าไร MedMatch ก็จะยิ่งมีข้อมูลให้วิเคราะห์ และให้คำแนะนำการรักษาได้ดีขึ้นเท่านั้น แล้วพอ MedMatch ให้คำแนะนำได้ดีขึ้น ก็จะยิ่งดึงดูดผู้ใช้งานให้มาใช้งานมากขึ้น เป็นวงจรแบบนี้เรื่อย ๆ 

ปัจจุบัน Hims & Hers กำลังรุกเข้าสู่ตลาดใหม่ นั่นก็คือ ตลาดยุโรป ผ่านการเข้าซื้อแพลตฟอร์ม Telehealth ชื่อว่า ZAVA ของเยอรมนี ที่มีผู้ใช้งานมากถึง 1.5 ล้านราย

และการเข้าซื้อกิจการ Trybe Labs ซึ่งเป็นผู้ผลิตชุดตรวจผลเลือดที่บ้าน เพื่อเป็นก้าวแรกในการเข้าสู่การให้บริการ Longevity อย่างเต็มรูปแบบในอนาคต

จะเห็นได้ว่า Hims & Hers เป็นบริษัทที่เพิ่งถูกก่อตั้งมาไม่ถึง 10 ปี แต่ก็เป็นบริษัทที่มีวิสัยทัศน์ชัดเจน มองหาตลาดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่แพลตฟอร์ม Telehealth อื่น ๆ มองข้าม

จากนั้นก็ขยายผลิตภัณฑ์ และขยายการให้บริการของแพลตฟอร์มออกไปให้กว้างขึ้นเรื่อย ๆ 

จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไม Hims & Hers ถึงกลายมาเป็นบริษัทที่มีอายุแค่ 8 ปี แต่เติบโตอย่างรวดเร็ว จนมีมูลค่ามากถึง 300,000 ล้านบาทได้ในที่สุด..

หมายเหตุ : บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาชี้นำให้ซื้อหรือขายหุ้นเหล่านี้ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน ก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง

#ลงทุน

#หุ้นนอก

#HIMS

References

-https://www.forbes.com/sites/sethjoseph/2023/07/31/hims--hers-new-path-for-growth-comes-from-the-heart/

-https://matrixbcg.com/blogs/brief-history/hims

-https://investors.hims.com/financials/quarterly-results/default.aspx

-https://www.longtunman.com/60300

-https://himshouse.substack.com/p/how-hims-uses-ai-to-benefit-customers

-รายงานประจำปี 2024 ของบริษัท Hims & Hers Health, Inc.