เจ้าสัวสิงคโปร์ เจ้าของ Nippon Paint ส่งต่อมรดกให้หลาน กลายเป็นมหาเศรษฐี 1,000 ล้าน หน้าใหม่ 6 คน
12 ก.ย. 2025
เมื่อเดือนก่อน วงการธุรกิจสิงคโปร์ต้องสูญเสียมหาเศรษฐีพันล้านไป 1 คน
เมื่อคุณ Goh Cheng Liang ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 1 ของบริษัท Nippon Paint Holdings Co. ผู้ผลิตสีทาอาคารรายใหญ่ของญี่ปุ่น เสียชีวิตลง
แต่การจากไปของมหาเศรษฐีพันล้านรายนี้ ได้ทำให้เกิดเศรษฐีพันล้านหน้าใหม่ในสิงคโปร์เพิ่มขึ้นมาอีก 6 คน
โดยมหาเศรษฐีหน้าใหม่ทั้ง 6 คนนี้ ก็คือ หลานของคุณ Goh Cheng Liang เอง
แล้วเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุนให้เข้าใจง่าย ๆ
คุณ Goh Cheng Liang เริ่มต้นธุรกิจสี ในปี 1949 เมื่อกองทัพอังกฤษเปิดประมูลขายโรงงาน และคลังสินค้า ที่ถือครองกรรมสิทธิ์อยู่ในราคาถูก เพื่อเตรียมคืนเอกราชให้สิงคโปร์
เมื่อคุณ Goh Cheng Liang ได้โรงงานผลิตสีของกองทัพอังกฤษมาแล้ว เขาก็ได้ก่อตั้งแบรนด์ที่ชื่อว่า “Pigeon” หรือที่แปลว่า “นกพิราบ”
ต่อมาในปี 1959 บริษัท Nippon Paint ผู้ผลิตสีทาอาคารชั้นนำของญี่ปุ่นได้เห็นคุณภาพของสินค้าของคุณ Goh
จึงขอเข้ามาร่วมทุนกับคุณ Goh เปิดโรงงานผลิตสีที่สิงคโปร์เป็นครั้งแรก
เมื่อเขามีพันธมิตรธุรกิจเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น เขาก็เริ่มขยายธุรกิจทั่วเอเชีย
เมื่อเขามีเงินมากขึ้น เขาก็นำเงินไปซื้อหุ้นของบริษัท Nippon Paint ของญี่ปุ่น ผ่านบริษัทด้านการลงทุนของครอบครัวที่เขาก่อตั้งขึ้นชื่อ Wuthelam Holdings
โดยปัจจุบันหุ้นของ Nippon Paint ที่ถือครองโดยบริษัท Wuthelam Holdings ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 55% ได้ถูกกระจายไปให้หลานทั้ง 6 คนของเขาแล้ว
ที่น่าสนใจก็คือ การส่งต่อมรดกในครั้งนี้ แตกต่างออกไปจากธรรมเนียมปฏิบัติของครอบครัวธุรกิจในเอเชีย ที่มักจะถ่ายโอนมรดกให้รุ่นลูกก่อน
ซึ่งถ้าสรุปให้ง่าย ๆ ว่าใครได้อะไรบ้าง ก็ต้องเล่าด้วยว่าลูกหลานของคุณ Goh Cheng Liang มีทั้งหมด 3 สาย
- สายของคุณ Goh Hup Jin ลูกชายคนโต ผู้เป็นประธานบริษัท Nippon Paint ในปัจจุบัน และผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของ Nipsea International บริษัท Holding Company ที่ดูและธุรกิจสีของ Nippon Paint ในเอเชียด้วย
โดยเขามีลูกสาว 3 คน ซึ่งแต่ละคนจะได้เป็นมรดกเป็นหุ้นในบริษัท Nippon Paint เป็นมูลค่าคนละ 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 34,800,000,000 ล้านบาท
- สายของคุณ Goh Chuen Jin ลูกชายคนรอง ผู้เป็นอดีตอาจารย์สาขาคณิตศาสตร์ ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งของออสเตรเลีย
โดยเขามีลูกสาวคือคุณ April Goh ผู้ได้รับมรดกเป็นหุ้นมูลค่า 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 107,600,000,000 ล้านบาท กับลูกอีก 2 คน
ซึ่งทางแหล่งข่าวของ The Strait Times จากสิงคโปร์ คาดว่าเธอน่าจะถือมรดกไว้ก่อน แล้วค่อยแบ่งให้น้อง ๆ ทีหลัง
ทำให้อาจเป็นไปได้ว่าน้อง ๆ ของเธออาจจะยังเด็กอยู่ เพราะตามกฎหมายของสิงคโปร์ ผู้ที่จะได้รับมรดกโดยตรงได้ จะต้องเป็นผู้ที่บรรลุนิติภาวะแล้ว นั่นก็คือมีอายุ 21 ปีขึ้นไป
และถ้าเอามรดก 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มาหารกัน 3 คน ก็จะได้คนละประมาณ 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ พอ ๆ กันกับหลานคนอื่น ๆ
- สายของคุณ Goh Chiat Jin ลูกสาวคนเดียวของคุณ Goh Cheng Liang ผู้เป็นประธานบอร์ดมูลนิธิการกุศล Goh Foundation
เธอมีลูกชาย 2 คน โดยหนึ่งในนั้นคือคุณ Martin Yuen-An Lavoo ซึ่งเป็นผู้อำนวยการของบริษัท Nipsea International
โดยทั้ง 2 คนนั้นก็ได้มรดกเป็นหุ้นมูลค่า 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เช่นเดียวกัน
และที่น่าสนใจก็คือ ประเทศสิงคโปร์นั้น ได้ยกเลิกภาษีมรดกไปตั้งแต่ปี 2008 แล้ว และค่าธรรมเนียมในการโอนหุ้นนั้น ในกรณีที่โอนหุ้นผ่านพินัยกรรมก็จะไม่เสียค่าธรรมเนียม
นั่นจะทำให้หลาน ๆ ของคุณ Goh Cheng Liang ทุกคนน่าจะได้รับมรดกไปแบบเต็ม ๆ เลย
อย่างไรก็ตาม แม้หลาน ๆ ของเขาจะได้รับหุ้นที่มีมูลค่านับพันล้านดอลลาร์สหรัฐไป
แต่อำนาจในการบริหารบริษัท Nippon Paint และกิจการอื่น ๆ ของตระกูล ก็ยังเป็นของลูกชายคนโตอยู่
เพราะคุณ Goh Hup Jin ก็ยังคงเป็นประธานบริษัท Nippon Paint อยู่ และยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน Nipsea International ที่มีอำนาจโหวตถึง 91% อีกด้วย
การส่งต่อมรดกของคุณ Goh Cheng Liang เจ้าสัวธุรกิจสีแห่งสิงคโปร์นั้น จึงไม่ได้มีความน่าสนใจแค่ในเรื่องของตัวเงินที่หลาน ๆ จะได้
แต่การส่งต่อมรดกครั้งนี้ ยังมีความน่าสนใจในเรื่องของการแยกกันชัดเจน ระหว่างผู้สืบทอดกิจการซึ่งเป็นลูกชายคนโต ที่คุณ Goh Cheng Liang วางตัวไว้
ส่วนหลาน ๆ ที่ยังอาจจะไม่มีประสบการณ์ในการบริหารธุรกิจ ก็จะได้สินทรัพย์ไปก่อน
แล้วจึงเป็นหน้าที่ของคุณ Goh Hup Jin ต่อไป ที่น่าจะได้เป็นผู้ตัดสินใจ ว่าจะเลือกใครมาสืบทอดกิจการต่อจากตัวเอง..
#วางแผนการเงิน
#หลักวางแผนการเงิน
#สิงคโปร์
References