เข้าใจ Trigger Fund กองทุนที่คืนเงิน เมื่อทำผลตอบแทนได้ถึงเป้า ในโพสต์เดียว

เข้าใจ Trigger Fund กองทุนที่คืนเงิน เมื่อทำผลตอบแทนได้ถึงเป้า ในโพสต์เดียว

5 ก.ย. 2025
ปกติแล้วเรามักจะคุ้นเคยกับกองทุนรวมทั่วไป ที่จะซื้อขายตอนไหนก็ได้ และผู้จัดการกองทุนเองก็ไม่ได้มีเป้าหมายว่าจะต้องทำผลตอบแทนให้เราเท่าไร 
แต่ไม่ใช่กับกองทุนอีกรูปแบบหนึ่ง ที่มีการกำหนดเป้าหมายผลตอบแทนและระยะเวลาการลงทุนที่ชัดเจน 
และพร้อมที่จะคืนเงินให้นักลงทุนทันทีเมื่อเป้าหมายนั้นสำเร็จด้วย 
ซึ่งกองทุนที่เรากำลังพูดถึงนี้ก็คือ ประเภทของกองทุนที่เรียกว่า Trigger Fund 
แล้วกองทุน Trigger Fund มีความแตกต่างอย่างไรกับกองทุนรวมทั่วไปบ้าง ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
Trigger Fund หรือ กองทุนทริกเกอร์ ซึ่งเป็นกองทุนที่เปิดขายครั้งเดียวตอนเริ่มโครงการ และเมื่อเราซื้อหน่วยลงทุนแล้วจะไม่สามารถขายได้ก่อนครบกำหนด
แถมความน่าสนใจของกองทุนประเภทนี้ คือจะมีการกำหนดเป้าหมายผลตอบแทนและระยะเวลาของกองทุนไว้ชัดเจน
โดยถ้าหากทำได้ตามเป้าหมาย ภายในเวลาที่กำหนด กองทุนจะปิดและคืนเงินพร้อมผลตอบแทนให้เราทันที 
แต่หากยังไม่ถึงเป้าหมาย กองทุนอาจมีเงื่อนไขการเปลี่ยนเป็นกองทุนเปิดให้เราสามารถซื้อขายได้เหมือนกองทุนทั่วไป
ลองมาดูตัวอย่างให้เข้าใจง่าย ๆ
กองทุน ABC มีนโยบายการลงทุนหุ้น SET50 
โดยเป้าหมายคือการสร้างผลตอบแทน 7% ภายใน 7 เดือน
โดยหากมูลค่าหน่วยลงทุน หรือ NAV ของกองทุน เริ่มต้นที่ 10 บาท ก็หมายความว่า ผู้จัดการกองทุน ต้องทำให้ NAV ขึ้นไปถึง 10.70 บาท ภายใน 7 เดือน 
ซึ่งเมื่อเราลงทุนกับกองทุน ABC ไปแล้ว สิ่งที่จะตามมาหลังจากนี้ก็มีอยู่ 2 กรณี คือ 
- กรณีแรก ภายใน 7 เดือน ทำผลตอบแทนได้ 7%
กองทุนจะปิดและคืนเงินพร้อมผลตอบแทนให้เราทันที
- กรณีที่สอง หากครบ 7 เดือน แล้วยังไม่ถึงเป้าหมาย 7%
อาจจะทำได้ไม่ถึง หรืออาจจะยังขาดทุนอยู่
ถึงตรงนี้เราก็ต้องไปดูที่นโยบายของกองทุนว่าเป็นอย่างไร
โดยกองทุน ABC จากตัวอย่างของเรานั้น ก็มีนโยบายว่า ถ้าหากทำผลตอบแทนไม่ถึงตามเป้าหมาย กองทุนจะเปลี่ยนเป็นกองทุนเปิด พร้อมทั้งเปลี่ยนเป้าหมายผลตอบแทนเป็นทำได้ 3% ถึงจะปิดกองทุนคืนเงินให้อัตโนมัติ
หมายความว่า สิ่งที่เราทำได้ คือ
1. ขายคืนได้เหมือนกองทุนอื่น ๆ ทั่วไป
2. หากผลตอบแทนถึง 3% กองทุนจะปิดและคืนเงินให้เราอัตโนมัติ
สรุปอีกครั้ง สิ่งที่นักลงทุนที่ลงทุนกับกองทุน ABC มีโอกาสจะเจอได้ก็คือ 
- กองทุนทำผลตอบแทนตามเป้าหมายคือ 7% ได้ในเวลาที่กำหนด และรับเงินคืนพร้อมผลตอบแทนทันที ส่วนกองทุนก็ปิดตัวไป
- กองทุนทำผลตอบแทนไม่ได้ตามเป้าหมายแรก แต่ช่วงหลัง 7 เดือน กองทุนทำผลตอบแทนได้ 3% นักลงทุนก็รับเงินคืนพร้อมผลตอบแทนทันที ส่วนกองทุนก็ปิดตัวไป
- หรือในช่วงหลัง 7 เดือน กองทุนยังทำผลตอบแทนได้ไม่ถึง 3% กองทุนจะเปิดให้ซื้อขายต่อไปเรื่อย ๆ เหมือนกองทุนรวมทั่วไป
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงหลักการเบื้องต้น หากเราสนใจลงทุนต้องศึกษารายละเอียดแต่ละกองทุนเพิ่มเติมด้วย
อ่านถึงตรงนี้เราจะเห็นภาพชัดแล้วว่า การกำหนดเป้าหมายผลตอบแทนของกองทุนไม่ใช่การรับประกันผลตอบแทนจากการลงทุน ดังนั้นก่อนตัดสินใจลงทุน เราควรศึกษาเงื่อนไขให้รอบคอบ
ทีนี้มาดูกันต่อว่าแล้วกองทุนนี้ต่างจากกองทุนรวมทั่วไป ที่เราคุ้นเคยอย่างไรบ้าง ? 
1. ประเภทกองทุน
- Trigger Fund เป็นกองทุนปิด เปิดขายครั้งเดียวตอนเริ่มโครงการและขายคืนได้ตอนครบกำหนด
- กองทุนรวมทั่วไป เป็นกองทุนเปิด สามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ
2. เงื่อนไขการปิดกองทุน
- Trigger Fund ปิดอัตโนมัติเมื่อผลตอบแทนถึงเป้าหมาย หรืออาจเปลี่ยนเป็นกองทุนเปิดหากยังไม่ถึงเป้าหมาย
- กองทุนรวมทั่วไป ไม่มีเงื่อนไขปิดกองทุน เราสามารถถือได้เรื่อย ๆ จนกว่าจะตัดสินใจขายเอง
3. โอกาสและความเสี่ยง
- Trigger Fund มีโอกาสรับผลตอบแทนตามเป้าหมายที่กำหนด แต่ก็มีโอกาสขาดทุนได้ไม่จำกัด
อย่างไรก็ตาม การลงทุนใน Trigger Fund จะมีลักษณะเป็นการจับจังหวะตลาด ดังนั้นหากผู้จัดการกองทุนคาดการณ์ได้แม่นยำ เราก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนตามที่คาดหวังไว้
แต่ทั้งนี้ถ้าหากตลาดยังเป็นขาขึ้นต่อ หลังจากกองทุนปิดไปแล้ว เราก็จะเสียโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้นกว่าเป้าหมายที่กำหนด
- กองทุนรวมทั่วไป ไม่มีเป้าหมายผลตอบแทน และสามารถขายได้ทุกวันทำการ ทำให้มีสภาพคล่องมากกว่า
ถึงตรงนี้จะเห็นว่า ทุกผลิตภัณฑ์การลงทุนต่างมีข้อดีที่แตกต่างกัน เราจึงควรเลือกให้เหมาะสมกับเป้าหมายและสไตล์การลงทุนของตัวเอง
ซึ่งถ้าหากเราต้องการโอกาสรับผลตอบแทนตามเป้าหมายที่กองทุนกำหนด และสามารถรับความเสี่ยงได้ Trigger Fund ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ 
แต่อย่างไรก็ตามเราควรศึกษาข้อมูลเงื่อนไข ระยะเวลา รวมถึงค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องให้รอบคอบ ก่อนตัดสินใจลงทุน..
#ลงทุน
#กองทุน
#TriggerFund
References
© 2025 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.