
รู้จัก Rheinmetall ผู้ผลิตอาวุธปราบโดรน หุ้น 18 เด้ง ใน 3 ปี
7 ส.ค. 2025
ช่วงนี้หลายคนน่าจะเคยได้ยินข่าวว่ามีโดรนลึกลับปรากฏตัวอยู่ตามพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา
ซึ่งเรื่องนี้สร้างความกังวลให้กับประชาชนทั่วไปมากว่า โดรนที่มีหลายคนพบเห็นนั้น จะเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาหรือไม่ ?
แต่ถึงแม้โดรนจะเป็นอาวุธที่น่าพรั่นพรึงเพียงใดในสงครามยุคใหม่ แต่ในขณะเดียวกันโดรนก็สามารถถูกทำลายได้ง่าย ๆ ผ่านระบบที่สามารถปล่อยคลื่นรบกวนสัญญาณควบคุมโดรนได้
หนึ่งในบริษัทที่ผลิตอุปกรณ์แบบนี้ก็คือ บริษัท Rheinmetall AG ผู้ผลิตอาวุธสงครามจากประเทศเยอรมนี
ที่น่าสนใจก็คือ ถ้าเราใช้เงิน 100,000 บาท ซื้อหุ้นของบริษัทนี้ในตลาดหุ้นเยอรมนี ในช่วงต้นปี 2022 ตอนนี้เราจะมีเงินมากถึง 1,800,000 บาทเลย
แล้วอะไรคือปัจจัยที่ทำให้หุ้นตัวนี้เติบโตได้หลายเท่า ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
รู้ไหมว่า Rheinmetall เป็นบริษัทผลิตอาวุธสงครามที่อยู่มานานกว่า 130 ปีแล้ว โดยบริษัทแห่งนี้ถูกก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1889
บริษัทแห่งนี้มีบทบาทสำคัญในการช่วยผลิตอาวุธให้กับกองทัพเยอรมันมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 แล้ว ดังนั้นเรื่องประสบการณ์ในธุรกิจนี้ก็คงหาคู่แข่งมาเทียบได้ยาก
ปัจจุบัน Rheinmetall มี 4 ธุรกิจหลัก คือ
1. ธุรกิจยานพาหนะ เช่น การผลิตรถหุ้มเกราะ ปืนใหญ่อัตตาจร ป้อมปืนรถถัง ยานพาหนะซ่อมบำรุง รายได้ส่วนนี้คิดเป็น 37% ของรายได้รวม
2. ธุรกิจอาวุธและกระสุน เช่น การผลิตกระสุนปืนใหญ่ กระสุนปืนต่อต้านอากาศยาน อาวุธปืนต่อต้านอากาศยาน รายได้ส่วนนี้คิดเป็น 27% ของรายได้รวม
3. ธุรกิจระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ระบบควบคุมความปลอดภัยทางอากาศ Skymaster ระบบจำลองการฝึกซ้อมยุทธวิธีทางทหาร ระบบเรดาร์ตรวจจับภัยคุกคาม
โดยอาวุธที่ใช้ปราบโดรน ก็จัดอยู่ในกลุ่มธุรกิจนี้ ชื่อว่าระบบ Rheinmetall C-UAS Jammer
หลักการทำงานของเทคโนโลยีนี้คือ จะมีเรดาร์คอยตรวจจับโดรน จากนั้นเมื่อตรวจจับได้ ระบบก็จะติดตามความเคลื่อนไหวของโดรน
เมื่อโดรนอยู่ในระยะทำการ 2 กิโลเมตร ก็จะปล่อยคลื่นรบกวนสัญญาณ ไม่ให้ศัตรูควบคุมโดรนได้อีกต่อไป โดยระบบนี้สามารถติดตั้งบนรถหุ้มเกราะให้สามารถเคลื่อนที่ไปหาจุดที่ต้องการปราบโดรนได้
หรือหากเป็นอากาศยานไร้คนขับขนาดใหญ่ ระบบนี้ก็สามารถชี้เป้าให้กับจรวดนำวิถี หรือระบบปืนต่อต้านอากาศยานของบริษัทได้อีกด้วย
รายได้ส่วนนี้คิดเป็น 17% ของรายได้รวม
4. ธุรกิจระบบพลังงาน เช่น เครื่องยนต์เครื่องบิน และระบบขับเคลื่อนพลังงาน รายได้ส่วนนี้คิดเป็น 19% ของรายได้รวม
รู้ไหมว่าต้นปี 2022 บริษัทแห่งนี้ยังมีมูลค่าเพียง 170,000 ล้านบาท แต่พอผ่านไปเพียงแค่ 3 ปี มูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3,000,000 ล้านบาท หรือเติบโต 18 เท่า
โดยปัจจัยหลักที่ทำให้ Rheinmetall เติบโตขึ้นมาได้มากขนาดนี้ก็มาจาก
- รายได้ของบริษัทเติบโตเฉลี่ยปีละ 15% แบบทบต้นในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
ปี 2021 Rheinmetall มีรายได้อยู่ที่ 211,800 ล้านบาท
ต่อมาในปี 2024 มีรายได้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 365,000 ล้านบาท
สาเหตุที่บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นมาจากสงครามที่ปะทุขึ้นระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้ประเทศต่าง ๆ ในยุโรปหันมาตื่นตัวในเรื่องการป้องกันประเทศ โดยเฉพาะการรับมือกับภัยคุกคามจากโดรน
ประเทศต่าง ๆ ในยุโรปอย่าง โปแลนด์ โรมาเนีย เยอรมนี หรือแม้แต่ยูเครน ที่กำลังทำสงครามกับรัสเซียอยู่ จึงต้องเร่งซื้อระบบป้องกันภัยทางอากาศจากบริษัท
โดย Rheinmetall เน้นกลยุทธ์การพัฒนาระบบปราบโดรนที่ทันสมัยอย่างระบบ Skynex และ Skymaster ที่สามารถตรวจจับและสกัดกั้นโดรนทุกขนาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้บริษัทยังได้ร่วมมือกับ Anduril บริษัทเทคโนโลยีป้องกันประเทศจากสหรัฐฯ เพื่อพัฒนาระบบป้องกันโดรนที่ใช้ AI ในการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจจับ ทำให้สร้างความได้เปรียบทางเทคโนโลยีเหนือคู่แข่ง
- อัตรากำไรจากการดำเนินงานของบริษัทปรับเพิ่มขึ้น
ในปี 2021 บริษัทมีอัตรากำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 10.5%
แต่ในปี 2024 อัตรากำไรจากการดำเนินงานของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 15.2%
สาเหตุที่บริษัทมีอัตรากำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูง เช่น กลุ่มธุรกิจอาวุธ และกลุ่มธุรกิจระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์
นอกจากนี้การได้รับสัญญาสั่งซื้ออาวุธที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นต่อ 1 สัญญา นับจากวันที่สงครามรัสเซียและยูเครนปะทุขึ้นมา ก็ทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยต่ำลงอีกด้วย
- นักลงทุนประเมินมูลค่าบริษัทสูงขึ้น
ปี 2021 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10,900 ล้านบาท โดยในตอนนั้นนักลงทุนซื้อขายหุ้นตัวนี้อยู่ที่ P/E ไม่เกิน 10 เท่า ทำให้มูลค่าบริษัทอยู่ที่ประมาณ 100,900 ล้านบาทเท่านั้น
ขณะที่ในปี 2024 บริษัทมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 26,800 ล้านบาท แต่ในตอนนี้นักลงทุนกำลังซื้อขายหุ้นตัวนี้ในอัตราส่วน P/E ที่สูงถึง 112 เท่า คิดเป็นมูลค่าบริษัทประมาณ 3,000,000 ล้านบาท
โดยสาเหตุที่นักลงทุนยอมปรับเปลี่ยนมุมมอง และยอมซื้อขายหุ้นตัวนี้ในราคาที่แพงขึ้น ก็น่าจะเป็นเพราะการสู้รบกันระหว่างรัสเซียและยูเครน มีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป
อีกทั้งก่อนหน้านี้คุณดอนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกนาโต้ เพิ่มงบประมาณกระทรวงกลาโหมของตัวเอง เพื่อลดการพึ่งพาสหรัฐฯ
เรื่องนี้ก็คงทำให้นักลงทุนคาดการณ์กันว่าผู้ผลิตอาวุธสงครามอย่าง Rheinmetall จะได้ประโยชน์จากเหตุการณ์นี้
แต่ก็ต้องระวังเอาไว้ว่า อนาคตเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน หุ้นที่มี P/E สูง ย่อมหมายถึงความคาดหวังของนักลงทุนที่สูงขึ้นเป็นเงาตามตัว
หากอนาคตไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ก็อาจทำให้หุ้นถูกเทขายลงมาอย่างรุนแรงได้เช่นกัน..
#ลงทุน
#หุ้นนอก
#Rheinmetall
References