ในช่วงชีวิตของเรา น่าจะต้องมีใครสักคนหนึ่ง ที่เราชื่นชมเขาเป็นอย่างมาก จนเลือกมาเป็นต้นแบบชีวิตของเรา

เพราะคนที่เป็นต้นแบบที่ดี จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ให้เรามุ่งมั่น เพื่อก้าวหน้าไปบนเส้นทางสู่ความสำเร็จได้

อย่างเช่น คุณปู่ Charlie Munger อีกหนึ่งตำนานนักลงทุนของโลกผู้ล่วงลับ ก็เคยผ่านเส้นทางนี้มาก่อนด้วยเหมือนกัน

เพราะก่อนที่คุณ Munger จะสร้างตำนานความสำเร็จของชีวิตตัวเอง และกลายมาเป็นต้นแบบให้กับคนรุ่นหลังได้แบบนี้ เขาเองก็มีบุคคลต้นแบบ ที่เป็นแสงสว่างคอยนำทางชีวิต

บุคคลท่านนั้นคือ “คุณ Benjamin Franklin”

หนึ่งในตำนานรัฐบุรุษผู้สร้างชาติสหรัฐอเมริกา

หากสงสัยว่า คุณ Benjamin Franklin เป็นใคร มีเรื่องราวอะไรน่าสนใจบ้าง และเสน่ห์อะไรในชีวิตของเขา ที่ทำให้คุณ Munger เลือกเขามาเป็นบุคคลต้นแบบ

MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ

คุณ Benjamin Franklin เป็นลูกคนที่ 15 จากพี่น้องทั้งหมด 17 คน เกิดปี 1706 ในครอบครัวชนชั้นแรงงาน ที่เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา

โดยในสมัยนั้น สหรัฐอเมริกายังเป็นอาณานิคมของสหราชอาณาจักรอยู่

พออายุ 8 ขวบ คุณ Franklin ก็ได้เข้าเรียนในโรงเรียน แต่เพราะทางครอบครัว มีเงินไม่มากนัก จึงทำให้เขาได้เรียนแค่ 2 ปี ก็ต้องลาออกเพื่อมาช่วยคุณพ่อทำงาน

แม้จะร่ำเรียนมาน้อย แต่นั่นก็ไม่ได้ถือว่าเป็นอุปสรรคในความก้าวหน้าแต่อย่างใด เพราะสิ่งหนึ่งที่เขามีทดแทน กลับเป็นสิ่งที่ช่วยผลักดันให้ชีวิตเขาก้าวหน้ามาได้ไกล

นั่นคือ ความรักในการเรียนรู้ ผ่านการเป็นนักอ่านตัวยง..

หลังจากช่วยงานคุณพ่อมาได้สักระยะ เขาก็ได้ย้ายมาฝึกงานที่โรงพิมพ์ของพี่ชาย

เมื่ออายุได้ 15 ปี เขาก็เริ่มเขียนบทความลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ ด้วยนามแฝงที่ชื่อว่า “Mrs. Silence Dogood”

หลังจากนั้นอีก 2 ปี ในวัย 17 ปี เขาก็ได้เลือกแสวงหาโชค ด้วยการย้ายไปอยู่ที่เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย

ในช่วงแรกที่มาอยู่ใหม่ ๆ เขาก็ยังคงทำงานเป็นลูกจ้างในธุรกิจโรงพิมพ์ แต่เมื่อสั่งสมประสบการณ์ทำงานมาได้สักระยะ

จนถึงวัย 22 ปี เขาก็ได้เริ่มต้นธุรกิจแรกของตัวเองขึ้น คือธุรกิจสำนักพิมพ์ โดยออกหนังสือพิมพ์ชื่อ “The Pennsylvania Gazette”

ธุรกิจนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สามารถสร้างเงินให้กับเขา ได้เป็นกอบเป็นกำ

และส่งผลให้เขาที่เป็นทั้งเจ้าของธุรกิจ และนักเขียนที่มีงานเขียนทรงคุณค่าอยู่มากมาย ได้รับการยอมรับ จนมีชื่อเสียงโด่งดัง

แต่ความสนใจใคร่รู้ของคุณ Franklin ก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่การเขียนหนังสือ และการทำธุรกิจเพียงเท่านั้น เพราะเขายังสนใจในเรื่องวิทยาศาสตร์อีกด้วย

ความหลงใหลนี้ ก็ได้ต่อยอดให้เขาสามารถประดิษฐ์สิ่งแปลกใหม่ ให้แก่วงการวิชาการในสมัยนั้นขึ้นมาได้ เช่น สายล่อฟ้า ที่ได้จากการทดลอง นำว่าวขึ้นสู่ท้องฟ้าท่ามกลางฝนฟ้าคะนอง และแว่นตาแบบเลนส์สองชั้น

ด้วยผลงานความสำเร็จและประสบการณ์ ที่สั่งสมมาทั้งชีวิต พอถึงปี 1751 เมื่อคุณ Franklin อายุได้ 45 ปี ก็ได้หันมาเอาดีทางด้านการเมือง เพื่อนำความรู้และประสบการณ์ที่มี มารับใช้ประชาชน..

โดยเขาได้รับเลือกตั้งให้เป็นสมาชิกรัฐสภาเพนซิลเวเนีย ก่อนที่ต่อมา จะได้ก้าวขึ้นมาเป็นประธานสภา

แต่แล้วจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทำให้ชื่อเสียงของเขา กลายเป็นหนึ่งในตำนานบุคคลสำคัญของโลกตลอดกาล ก็ได้มาถึง..

เพราะในระหว่างปี 1775-1783 เกิดสงครามประกาศอิสรภาพอเมริกาขึ้น ซึ่งผลของสงครามครั้งนี้ ทำให้สหรัฐอเมริกา หลุดพ้นจากการเป็นอาณานิคมของสหราชอาณาจักร และกลายเป็นประเทศที่มีเอกราชโดยสมบูรณ์

โดยคุณ Franklin เอง ก็เป็นหนึ่งในคนที่สร้างผลงานสำคัญเอาไว้มากมาย เพราะเขาเป็นถึงหนึ่งในคณะทำงานร่างประกาศอิสรภาพ เป็นทูตของสหรัฐอเมริกาประจำประเทศฝรั่งเศส

และเป็นหนึ่งในบิดาผู้ก่อตั้งประเทศ ด้วยการร่วมลงชื่อในคำประกาศอิสรภาพสหรัฐอเมริกาด้วย

ถึงตรงนี้ เราก็คงได้เห็นกันว่า คุณ Benjamin Franklin เป็นมาแล้วหลายอย่าง ตั้งแต่ คนใช้แรงงาน, นักเขียน, เจ้าของธุรกิจ, นักวิทยาศาสตร์, นักการเมือง, นักปรัชญา, นักการทูต และรัฐบุรุษ

ซึ่งในฐานะนักเขียน เขาก็ได้ฝากงานเขียนอันทรงคุณค่าไว้มากมาย เพราะเป็นงานเขียนที่ช่วยปลูกฝังค่านิยมดี ๆ ให้กับผู้คน เช่น ความประหยัดมัธยัสถ์, การศึกษาหาความรู้ และการตั้งอกตั้งใจทำงาน

โดยหนึ่งในงานเหล่านั้น ก็มีงานเขียนอยู่ชิ้นหนึ่ง ที่เขาได้บอกเล่าหนทางในการสร้างความมั่งคั่งอยู่ด้วย ผ่านหนังสือที่ชื่อ “The Way to Wealth”

โดยหลักการสร้างความมั่งคั่ง มีอยู่ทั้งหมด 3 ข้อ

1. ความอุตสาหะ

ถ้าเราเป็นคนที่ขี้เกียจ เกี่ยงงาน ขาดไร้ซึ่งวินัย โอกาสที่ชีวิตเราจะมีความก้าวหน้า จนสร้างความมั่งคั่งมาก ๆ ได้ ก็คงจะต้องพึ่งพา แต่เพียงโชคชะตาเท่านั้น

แต่หากเราเป็นคนที่ขยัน มีความอุตสาหะ สู้งาน ก็จะเป็นการเพิ่มโอกาส ให้เราประสบความสำเร็จในชีวิตได้มากขึ้น โดยลดการพึ่งพาโชคให้เหลือน้อยลง

2. ความเอาใจใส่

เมื่อมีความอุตสาหะ คือความตั้งอกตั้งใจแล้ว การเอาใจใส่ในรายละเอียด ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

เพราะชีวิตจะก้าวหน้าเติบโตไปได้อย่างมั่นคง ก็จะต้องตั้งอยู่บนความไม่ประมาทด้วย

ดังนั้นแล้ว บนเส้นทางแห่งความก้าวหน้า เราก็ต้องพยายามทำงาน ให้ออกมาดีที่สุด โดยพยายามลดข้อผิดพลาดให้เหลือน้อยที่สุด

ส่วนในด้านความมั่งคั่งนั้น เราก็ต้องระมัดระวังกับรายจ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ในบางครั้ง เราอาจจะคิดว่า นิด ๆ หน่อย ๆ ก็คงไม่เป็นไร

แต่หากเราไม่ระวังให้ดี รายจ่ายเหล่านี้ ก็อาจจะสะสมจนรวมเป็นเงินก้อนใหญ่ โดยที่เราไม่รู้ตัว ก็เป็นได้

3. ความมัธยัสถ์

มีคำกล่าวอันเป็นอมตะ ประโยคหนึ่งว่า

“ถ้าคุณซื้อสิ่งของที่ไม่จำเป็น ไม่นานคุณจะต้องขายสิ่งของที่จำเป็น”

ประโยคนี้ได้สะท้อนแก่นแท้ของความประหยัดมัธยัสถ์ ได้เป็นอย่างดี

เพราะถึงแม้เราจะทำความเพียร ตั้งอกตั้งใจ และเอาใจใส่ ในหน้าที่การงาน จนมีรายได้มากมายแค่ไหน

แต่ถ้าเงินทุกบาททุกสตางค์ที่เราหามาได้ ถูกใช้จ่ายไปอย่างไม่เกิดประโยชน์ ก็เป็นเรื่องที่ยากมาก ที่ชีวิตนี้เราจะสามารถมั่งคั่งได้

ในทางกลับกัน หากเราใช้จ่ายให้น้อยกว่าที่หามาได้ โดยเลือกใช้จ่ายแต่เรื่องที่จำเป็นจริง ๆ

เราก็จะเหลือเงินเก็บออมจำนวนมากขึ้น เมื่อเงินออมเหล่านี้ถูกสะสมเพิ่มพูนมาเรื่อย ๆ ก็จะกลายเป็นเงินก้อนใหญ่

เงินก้อนนี้ หากเรานำไปต่อยอดให้ถูกวิธี ก็จะสามารถสร้างผลตอบแทนกลับคืนมาให้กับเรา แบบทบต้นไปได้เรื่อย ๆ

จนวันหนึ่งเราก็จะกลายเป็นคนที่มั่งคั่งมหาศาลได้..

อ่านมาถึงตรงนี้ ก็เชื่อว่า เราคงจะเข้าใจถึงเรื่องราวความเป็นมา และแก่นความคิดสำคัญ ที่หล่อหลอมให้เกิดตำนานรัฐบุรุษผู้ยิ่งใหญ่อีกคนหนึ่งของโลก อย่างคุณ Benjamin Franklin กันดีขึ้นแล้ว

นี่เป็นเรื่องราวของชายที่เริ่มต้นชีวิตด้วยความขาดแคลน แต่เพราะด้วยจิตใจที่กล้าหาญ มุ่งมั่น ทำความเพียรอย่างไม่ย่อท้อ 

และแม้จะได้ร่ำเรียนมาน้อย แต่ก็ไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา พยายามทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ เพื่อเติมความรู้ในหลากหลายสาขา ให้กับตนเองอยู่เสมอ

จนในที่สุด เมื่อวันที่เขาได้ลาจากโลกนี้ไป เขาก็ได้สร้างตำนาน ด้วยการเป็นมาแล้วหลายอย่าง ตั้งแต่คนใช้แรงงาน ไปจนถึงหนึ่งในบิดาผู้สร้างชาติมหาอำนาจอย่าง สหรัฐอเมริกา 

ซึ่งไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปอีกนานแค่ไหน เรื่องราวของคุณ Franklin ก็จะยังคงถูกเล่าขานต่อไป

เพื่อเป็นบทเรียนสร้างแรงบันดาลใจ ให้กับคนรุ่นหลัง อย่างเช่นคุณ Charlie Munger ผู้มีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่ห่างกับคุณ Benjamin Franklin เป็นร้อย ๆ ปี 

ก็นับถือเขาเป็นอาจารย์ พร้อมเจริญรอยตามแนวทางของเขา ด้วยการเรียนรู้ เพื่อให้มีองค์ความรู้ที่ครอบคลุมในหลากหลายด้าน ผ่านการอ่านหนังสือดี ๆ ในหลายสาขาวิชาด้วยตัวเอง 

เช่น คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์, ปรัชญา, ประวัติศาสตร์, เศรษฐศาสตร์ และจิตวิทยา

หรือที่เรียกว่า “การเรียนรู้แบบ Multidisciplinary”

จนในท้ายที่สุด ก็พัฒนาตัวเองกลายมาเป็นตำนานนักลงทุนผู้รอบรู้ คู่หูตลอดกาลของคุณ Warren Buffett อย่างที่เราได้เห็นมาโดยตลอด นั่นเอง.. 

#วางแผนการเงิน

#หลักวางแผนการเงิน

#BenjaminFranklin

References

-หนังสือ The Way to Wealth (1758) โดย Benjamin Franklin

-หนังสือ Poor Charlie’s Almanack: The Essential Wit and Wisdom of Charles T. Munger (2024) โดย Charlie Munger