กรณีศึกษา โครงการอู่ต่อเรือ 80,000 ล้าน ในฟิลิปปินส์ ล่มเพราะคอร์รัปชัน

กรณีศึกษา โครงการอู่ต่อเรือ 80,000 ล้าน ในฟิลิปปินส์ ล่มเพราะคอร์รัปชัน

3 เม.ย. 2023
กรณีศึกษา โครงการอู่ต่อเรือ 80,000 ล้าน ในฟิลิปปินส์ ล่มเพราะคอร์รัปชัน - BillionMoney
ฟิลิปปินส์ เป็นหนึ่งในประเทศที่มีปัญหาเรื่องการคอร์รัปชันมาอย่างยาวนาน โดยปัญหาการคอร์รัปชันนี้ยังเคยส่งผลให้ โครงการก่อสร้างอู่ต่อเรือ ที่มีเงินลงทุนมากถึง 80,000 ล้านบาท ต้องถูกยกเลิกไปด้วย
เรื่องนี้เป็นอย่างไร
BillionMoney จะย่อยให้เข้าใจ แบบง่าย ๆ
ฟิลิปปินส์ เป็นประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีหมู่เกาะรวมกันมากกว่า 7,000 เกาะ จึงทำให้ฟิลิปปินส์ มีความได้เปรียบประเทศอื่น ๆ ในแง่ของการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตเรือ
เพราะมีปัจจัยทั้งตำแหน่งที่ตั้ง ความลึกของน้ำทะเล และพื้นที่ชายฝั่งที่มากกว่าประเทศอื่น ๆ ซึ่งเอื้อต่อการสร้างท่าเรือน้ำลึก สำหรับการจอดเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ และสร้างเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ
ด้วยเหตุนี้ ฟิลิปปินส์ จึงมีอุตสาหกรรมต่อเรือใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก เป็นรองแค่จีน, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ทั้งยังมีอู่ต่อเรือสำหรับซ่อมและสร้างเรือมากถึง 118 แห่ง ทั่วประเทศ
ทั้งนี้ หนึ่งในผู้ลงทุนรายใหญ่ในอุตสาหกรรมต่อเรือของฟิลิปปินส์ก็คือ Hanjin Heavy Industries & Construction บริษัทต่อเรือรายใหญ่จากเกาหลีใต้
โดยในปี 2007 Hanjin มีแผนก่อสร้างอู่ต่อเรือที่ใหญ่ที่สุดในฟิลิปปินส์ ด้วยมูลค่าการลงทุนสูงถึง 80,000 ล้านบาท ที่เมืองมินดาเนา
การลงทุนในครั้งนั้น ถือว่าเป็นการลงทุนจากต่างชาติที่มีมูลค่าสูงที่สุดที่เกิดขึ้นนอกเกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาะที่ตั้งเมืองหลวงของฟิลิปปินส์
โดยโครงการดังกล่าวจะมีขนาดใหญ่ถึง 30 ตร.กม. ซึ่งสาเหตุที่ต้องมีพื้นที่ใหญ่ขนาดนี้ ก็เพราะว่า Hanjin ไม่ได้ต้องการสร้างแค่อู่ต่อเรือเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการยกระดับพื้นที่โดยรอบให้เป็นนิคมอุตสาหกรรม ที่จะดึงดูดโรงงานอุตสาหกรรมอื่น ๆ เข้ามาด้วย
การลงทุนโครงการใหญ่ขนาดนี้ ก็ย่อมสร้างประโยชน์ให้กับเมืองมินดาเนาอย่างมาก เพราะแต่เดิม เมืองมินดาเนานี้ เต็มไปด้วยประชากรยากจน โดยเมืองนี้มีอัตราการว่างงานสูง และมีอัตราความยากจนสูงถึง 32%
ถ้าหากโครงการนี้สร้างเสร็จตามที่วางแผนไว้ ก็มีการคาดการณ์กันว่า จะก่อให้เกิดการจ้างงานสูงถึง 40,000 ตำแหน่ง และประชากรท้องถิ่นจะมีรายได้เพิ่มขึ้นรวมกันปีละ 2,800 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การลงทุนนี้ก็เป็นเพียงแค่ความฝันที่ไม่ได้เป็นจริงเท่านั้น..
โดยทาง Hanjin ต้องเจอกับกระบวนการอนุมัติใบอนุญาตข้อกำหนดทางด้านสิ่งแวดล้อมที่ล่าช้า ทำให้โครงการก่อสร้างอู่ต่อเรือดังกล่าวต้องชะงักลง
ต่อมาในปี 2008 พรรคฝ่ายค้านของฟิลิปปินส์ ได้มีการอภิปรายในสภาว่า
นายกเทศมนตรีเมืองมินดาเนา มีการเรียกรับสินบนจากบริษัท Hanjin เป็นจำนวนเงิน 250 ล้านบาท เพื่อแลกกับความสะดวกในการขอใบอนุญาตจากหน่วยงานท้องถิ่น และละเว้นข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมให้กับบริษัท
พอเรื่องนี้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ รัฐบาลท้องถิ่นก็รีบออกมาปฏิเสธว่า การเรียกรับสินบนเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการอภิปรายในรัฐสภาดังกล่าวเกิดขึ้น ทางฝั่งบริษัท Hanjin เองก็ออกมาประกาศว่า บริษัทจะล้มเลิกโครงการก่อสร้างอู่ต่อเรือที่เมืองมินดาเนา
โดยคุณ Myong Goo Kwon ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการของ Hanjin ในฟิลิปปินส์ ได้กล่าวโทษถึงความไม่โปร่งใสของรัฐบาล ที่ทำให้ทางบริษัทต้องตัดสินใจยกเลิกการก่อสร้างโครงการ
ในขณะที่ คุณ Gerardo Sicat นักเศรษฐศาสตร์ชาวฟิลิปปินส์ มองว่า การที่รัฐบาลท้องถิ่นของฟิลิปปินส์ล่าช้าในการตัดสินใจอนุมัติใบอนุญาตให้กับ Hanjin นั้น ก็เพราะว่าต้องการหาผลประโยชน์จากโครงการเข้าตัวเอง อีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ Hanjin จึงทิ้งโครงการมูลค่า 80,000 ล้านบาทนี้ไป แม้ในตอนนั้น คุณ Gloria Macapagal Arroyo ซึ่งเป็นประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ในสมัยนั้น จะพยายามง้อให้ Hanjin กลับมาสานต่อโครงการก็ตาม
เหตุการณ์ในครั้งนี้ จึงเป็นบทเรียนสำคัญของรัฐบาลฟิลิปปินส์ ที่ไม่ควรมองข้ามการทุจริตของหน่วยงานท้องถิ่น จนส่งผลเสียอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศชาติ..
References:
© 2024 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.