รู้จัก หลักการลงทุน 4 ข้อ ของ โจ ลูกอีสาน เซียนหุ้น VI

รู้จัก หลักการลงทุน 4 ข้อ ของ โจ ลูกอีสาน เซียนหุ้น VI

24 มี.ค. 2023
รู้จัก หลักการลงทุน 4 ข้อ ของ โจ ลูกอีสาน เซียนหุ้น VI
หนึ่งในนักลงทุนแบบเน้นคุณค่า หรือ VI ชาวไทย ที่ประสบความสำเร็จมากคนหนึ่ง คงหนีไม่พ้น คุณอนุรักษ์ บุญแสวง หรือที่หลายคนน่าจะรู้จักในชื่อ โจ ลูกอีสาน
โดยคุณโจ ลูกอีสาน ใช้เวลาเพียง 12 ปี ในการปั้นเงินลงทุนจาก 8 แสนบาท สู่ระดับมากกว่า 100 ล้านบาท
แล้วหลักการลงทุนของคุณโจ ลูกอีสาน มีอะไรบ้าง
BillionMoney จะสรุปให้ฟัง แบบง่าย ๆ
คุณโจ ลูกอีสาน ได้เคยให้แก่นสำคัญของการลงทุน
แบบเน้นคุณค่าไว้ 4 ข้อ
1.ให้คิดเสมอว่า ซื้อหุ้น เท่ากับ ซื้อธุรกิจ
เวลาที่เราจะซื้อหุ้นของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ให้เรามองว่าตัวเองเป็นเจ้าของธุรกิจนั้นด้วย
เพราะเมื่อเราคิดได้แบบนี้ เราก็จะรู้สึกใส่ใจในพื้นฐานของกิจการนั้นมากขึ้น
ถ้าเราลงทุนในบริษัทที่มีพื้นฐานดี มีกำไรดี ราคาหุ้นก็ย่อมปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย
2.หามูลค่าที่แท้จริงของบริษัทที่จะลงทุน
วิธีการหามูลค่าที่แท้จริงของบริษัทนั้น มีหลายวิธี
ด้วยกัน ซึ่งแต่ละวิธีก็มีเงื่อนไขการใช้แตกต่างกันไป
โดยหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมที่สุดก็คือ การใช้ อัตราส่วนราคาตลาดของหุ้นต่อกำไรต่อหุ้น หรือ P/E Ratio
แต่ก่อนที่เราจะตัดสินใจซื้อหุ้นที่มี P/E Ratio ต่ำนั้น
เราก็ต้องวิเคราะห์สภาพธุรกิจ และอุตสาหกรรมที่ธุรกิจนั้นอยู่ให้ดีด้วย
เพราะถ้าเราไปลงทุนในธุรกิจที่มี P/E Ratio ต่ำ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมถดถอย เราก็อาจจะประสบกับการขาดทุนได้
3.ซื้อหุ้นที่มีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัย หรือ Margin of Safety
ถ้าเราสามารถซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง
ได้มากเท่าไร
เราก็จะมีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยสูงมากเท่านั้น โดยเราควรมีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยอย่างน้อย 30%
ยกตัวอย่างเช่น
ถ้าเราประเมินมูลค่าที่แท้จริงของหุ้นตัวหนึ่งได้ 10 บาท เราก็ควรหาจังหวะเข้าซื้อหุ้นดังกล่าว ในราคาที่ต่ำกว่า
7 บาท
โดยการมีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัย จะช่วยลดความเสี่ยง ในกรณีที่เราประเมินมูลค่าหุ้นตัวนั้นผิดไป
หรือในกรณีที่ผลประกอบการของบริษัทออกมาแย่กว่า
ที่คาดการณ์ไว้
4.แยกตัวออกจาก Mr. Market ให้ได้
ตลาดหุ้นนั้น จะมีความผันผวนอยู่เสมอ ซึ่งเกิดจากการกระทำของ Mr. Market
แล้ว Mr. Market คือใคร ?
ต้องบอกว่า Mr. Market นั้น ไม่ได้มีตัวตนอยู่จริง แต่เป็นเพียงคำเปรียบเปรยที่คุณ Benjamin Graham นักลงทุนในตำนาน พูดถึง “อารมณ์” ของนักลงทุนทุกคนในตลาดหุ้นรวมกันนั่นเอง
โดยคุณ Graham บอกว่า Mr. Market เป็นโรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว เหมือนกับคนบ้า
เวลาที่เขาอารมณ์ดี ก็มักจะอารมณ์ดีเกินกว่าปกติ และเวลาที่เขารู้สึกเศร้า เขาก็มักจะซึมเศร้ากว่าปกติเช่นกัน
เพราะฉะนั้น ในวันที่เขาอารมณ์ดี มองโลกสดใส ก็มักมีโอกาส ที่เขาจะเสนอซื้อหรือขายหุ้น ในราคาที่สูงมาก
แต่ในวันที่เขาอารมณ์ไม่ดี หรือกำลังถูกความกลัว
ครอบงำจิตใจ เขาก็จะเสนอซื้อหรือขายหุ้นตัวเดียวกัน
ในราคาที่ถูกมาก เช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องแยกตัวออกมาจากอารมณ์ของตลาดนี้ และมองหาประโยชน์จากคนบ้าคนนี้ โดยไม่กลายเป็นคนบ้าไปเสียเอง
เหมือนที่คุณ Warren Buffett ลูกศิษย์ของคุณ Graham เคยกล่าวไว้ว่า
“จงกลัว เมื่อคนอื่นกล้า แต่จงกล้า เมื่อคนอื่นกลัว”
หรือก็คือ เมื่อคนบ้าอารมณ์ดี และพร้อมซื้อหุ้นในราคาแพง ๆ เราก็ควรขายหุ้นให้
แต่เมื่อคนบ้าอารมณ์หดหู่ พร้อมจะขายหุ้นในราคาถูก ๆ เราก็ควรซื้อหุ้นตัวนั้นมา
ทั้งนี้ แก่นของการลงทุนแบบเน้นคุณค่าข้อที่ 4 นี้ นับเป็นหลักการที่สำคัญที่สุด และทำตามได้ยากที่สุดด้วย เพราะเป็นการรับมือกับความผันผวนของตลาด
ซึ่งต่อให้เราสามารถทำตามหลักการทั้ง 3 ข้อแรกได้ แต่ถ้าเราไม่สามารถแยกตัวออกจาก Mr. Market ได้
เราก็อาจจะไม่สามารถเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จได้เลย
อ่านมาถึงตรงนี้ เราก็คงเข้าใจถึงแก่นสำคัญของนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าทั้ง 4 ข้อแล้ว ซึ่งถ้าเราสามารถทำตามหลักการทั้งหมดนี้ได้แล้ว เราก็จะเป็นนักลงทุนที่ดีขึ้นได้..
© 2024 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.