
สรุปไทม์ไลน์ 3 ข้อ ดราม่าตัวแทนโกงเบี้ยประกัน 100 ล้าน ที่สะท้อนช่องโหว่ของการจ่ายเบี้ยประกัน
11 ธ.ค. 2025
ประเด็นร้อนในสังคมออนไลน์ตอนนี้คือ กรณีที่ตัวแทนประกันระดับ Top ของบริษัทประกันชื่อดัง หลอกเงินค่าเบี้ย รวมมูลค่ากว่า 128 ล้านบาท
จนทำให้ล่าสุดทาง สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. และบริษัทประกันที่เกี่ยวข้องต้องออกมาชี้แจง
ซึ่งถ้าหากอยากรู้ว่าเรื่องราวทั้งหมด ตั้งแต่ต้นจนมาถึงปัจจุบันนี้เป็นอย่างไร ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
1. จุดเริ่มต้นของดราม่า
เริ่มต้นจากโพสต์หนึ่งที่ออกมาเปิดเผยว่า ตัวแทนระดับ Top ของบริษัทประกันแห่งหนึ่ง กลายเป็น Scammer หลอกเงินค่าเบี้ยกว่า 100 ล้านบาท แต่ทางบริษัทกลับประกันปัดความรับผิดชอบ ส่วน คปภ. ณ ตอนนั้น ก็ยังนิ่ง
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้สังคมตั้งคำถาม ไม่ได้อยู่แค่จำนวนเงินเท่านั้น แต่ยังอยู่ที่ว่าตัวแทนคนนี้คือใคร และมาจากค่ายไหน
จากข้อมูลพบว่า ตัวแทนคนนี้เป็นถึงผู้จัดการฝ่ายขาย ที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี และล่าสุดปีนี้ก็เพิ่งจะได้รับรางวัลใหญ่อีกเป็นจำนวนมาก
ทั้งรางวัลเกียรติยศแห่งปี รางวัลนักขายเงินล้าน MDRT ซึ่งล้วนเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนความน่าเชื่อถือของตัวแทนในวงการประกันชีวิต
ซึ่งความน่าเชื่อถือนี้แหละ ที่ได้กลายมาเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการหลอกลวง โดยเขาอ้างกับลูกค้าว่า ตัวเองได้รับแคมเปญพิเศษจากบริษัท
ทำให้ลูกค้าจะได้ส่วนลดเบี้ยประกัน 15% หรือได้ทองคำเป็นของตอบแทน แต่มีเงื่อนไขว่า จะต้องจ่ายเงินผ่านตัวเขาโดยตรงและเขาจะออกใบเสร็จชั่วคราวให้
ตัวแทนคนนี้ก็ทำแบบนี้มาหลายปี โดยที่ลูกค้าก็ไม่ได้เอะใจ ส่วนทางบริษัทประกันเองก็ไม่ได้ตรวจสอบความผิดปกติเลยตลอดช่วงเวลานั้น
จนกระทั่งตัวแทนคนนี้เข้าไปสารภาพกับบริษัทประกันเอง เพราะหวังว่าบริษัทจะรับผิดชอบความเสียหายทั้งหมดแทน
ซึ่งล่าสุดก็มีข่าวว่า ตัวแทนคนนี้ได้หนีออกนอกประเทศไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
2. คปภ. และบริษัทประกันออกมาชี้แจง
หลังจากที่เรื่องราวนี้ถูกแชร์ต่อออกไปจนกลายประเด็นร้อน เมื่อคืนที่ผ่านมาทาง คปภ. ก็ออกมาชี้แจงว่า
ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา พบว่ามีเจตนาหลอกลวงจริง ซึ่งก็ได้สั่งเพิกถอนใบอนุญาตและดำเนินคดีในฐานความผิดฉ้อฉลประกันภัยแล้ว
นอกจากนี้ก็ยังสั่งให้บริษัทประกันรับผิดชอบการกระทำของตัวแทนประกันชีวิตในสังกัด และหาทางป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นอีก
ส่วนบริษัทประกันต้นสังกัด วันนี้ก็ออกมาชี้แจงว่า บริษัทได้ตรวจสอบและมีคำสั่งให้ตัวแทนคนนั้นพ้นสภาพพนักงานแล้วตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา
พร้อมกับดำเนินคดีในข้อหายักยอกทรัพย์ และข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดแล้ว
ส่วนเรื่องความรับผิดชอบนั้น บริษัทจะรับผิดชอบความเสียหายกับลูกค้าที่มีหลักฐานการโอนเงินและหลักฐานประกอบที่สอดคล้องกันก่อน
เพราะจากการตรวจสอบพบว่า บางส่วนที่มาร้องเรียนมีบางคนเคยเป็นอดีตตัวแทน รวมถึงคนใกล้ชิดของตัวแทนที่มีประเด็นด้วย ทำให้ต้องตรวจสอบอย่างละเอียด
3. เราได้บทเรียนอะไรจากเรื่องนี้บ้าง
บทเรียนที่สำคัญที่สุด คือ เงินค่าเบี้ยประกันต้องถูกโอนเข้าบริษัทโดยตรงเท่านั้น ไม่ใช่บัญชีส่วนตัวของตัวแทน
แต่ถ้าหากว่าเราเคยจ่ายเงินสด หรือโอนเงินให้ตัวแทนไปแล้ว สิ่งที่ต้องทำทันทีคือ เข้าไปตรวจสอบสถานะกรมธรรม์ ว่ายังคงมีผลคุ้มครองอยู่หรือไม่
ได้ทั้งช่องทางแอปพลิเคชัน และ Call Center ของบริษัทประกันที่เรามีกรมธรรม์ด้วยอยู่ รวมถึงผ่านทางเว็บไซต์ของ คปภ. ด้วย
เพราะช่องโหว่สำคัญแบบเหตุการณ์นี้ มักเกิดขึ้นในปีต่ออายุที่ลูกค้าจ่ายเงินให้ตัวแทนเหมือนทุกปีด้วยความเชื่อใจ แต่ไม่ได้เข้าไปเช็กสถานะ และเข้าใจว่ากรมธรรม์ยังคุ้มครองอยู่ ทั้งที่อาจจะขาดอายุไปแล้วโดยไม่รู้ตัว
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ไม่ได้สะท้อนแค่การเชื่อใจตัวแทนที่มากเกินไปเท่านั้น แต่อาจยังสะท้อนถึงปัญหาเชิงโครงสร้างของวงการประกันที่ให้ความสำคัญกับยอดขาย
เพราะเมื่อยอดขายกลายเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จสูงสุด ตัวแทนบางส่วนก็พร้อมทำทุกอย่างเพื่อปิดการขายให้ได้
ไม่ว่าจะเป็นการเสนอส่วนลดที่ไม่มีอยู่จริง การขายโดยบอกเงื่อนไขไม่ครบ หรือแม้แต่การขายโดยไม่สนใจว่า แบบประกันนั้นตรงกับความต้องการของลูกค้าจริงหรือไม่
ทำให้ตัวแทนบางคนที่ให้คุณค่ากับยอดขายมากกว่าความถูกต้อง และผลประโยชน์ของลูกค้า
ใช้ความเชื่อใจที่ลูกค้าให้มา เป็นช่องทางในการหาประโยชน์ส่วนตนแบบนี้..
#โกงประกัน
References