รู้ไหมว่า ถ้าเราซื้อหุ้นของ MK สุกี้ ตั้งแต่วันที่สงครามสุกี้เริ่มต้นเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ตอนนี้เราจะได้ผลตอบแทนมากถึง 114%

ทั้งที่วันนี้สงครามสุกี้ก็ดูจะยังไม่ทุเลาความรุนแรงลง เพราะทั้ง MK สุกี้ และคู่แข่ง ต่างก็งัดโปรโมชันและกลยุทธ์ต่าง ๆ มาแข่งกันอย่างดุเดือด 

ถ้าหากใครสงสัย ว่าเพราะอะไร ราคาหุ้นของ MK สุกี้ ขึ้นมาได้เยอะขนาดนี้ ทั้งที่อยู่ท่ามกลางการแข่งขันแสนดุเดือดนี้ ที่ยังไม่มีข้อสรุป ? 

MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ

1. หลังจากที่คุณฤทธิ์ ธีระโกเมน ผู้ก่อตั้ง บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ให้ลูกชายและลูกสาว อย่างคุณทานตะวันและคุณธีร์ ธีระโกเมน 

มีบทบาทในการบริหารกิจการมากขึ้น ในฐานะผู้จัดการร่วม ตั้งแต่ต้นปี 2568 เป็นต้นมา เราจะเห็นว่า MK สุกี้ ได้มีการทดลองแนวคิดในการทำบุฟเฟต์แล้ว 

ด้วยการจัดโปร “หมูมาราธอน” ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ด้วยความที่เมนูไม่หลากหลาย จึงไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคเท่าไรนัก 

2. จนกระทั่งในวันที่ 9 มิถุนายน 2568 ทาง MK สุกี้ ก็เริ่มเปิดฉากสงครามสุกี้ อย่างเต็มตัว 

ด้วยการเปิดตัวโปรโมชัน “คุ้มคุ้ม อิ่มไม่อั้น” ทานได้ 19 เมนู ในเวลา 90 นาที ในราคา Net 299 ถึงสิ้นเดือนมิถุนายน แถมมา 4 คน จะได้ทานกุ้งแม่น้ำด้วย 

และแน่นอนว่า ทางสุกี้ตี๋น้อยคู่แข่งคนสำคัญก็ไม่รอช้า และตอบกลับด้วยการออกโปรโมชัน 199 บาท และอีกไม่กี่วันต่อมาก็เพิ่มโปรโมชัน ฟรีเครื่องดื่มรีฟิลด้วย 

ทำให้ราคา Net ของสุกี้ตี๋น้อย ณ ตอนนั้น จะอยู่ที่ 213 บาท เท่านั้นเอง 

จากนั้นทาง MK สุกี้ ก็ได้ขยายโปรโมชัน คุ้มคุ้ม อิ่มไม่อั้น ออกไปจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม ในขณะที่สุกี้ตี๋น้อย ขยายโปรโมชัน 199 ออกไปถึงแค่วันที่ 5 กรกฎาคมเท่านั้น 

โดยตลอดช่วงเดือนมิถุนายนนั้น ราคาหุ้นของ MK สุกี้ ก็แทบจะไม่ขยับเลย 

3. จนกระทั่งในวันที่ 12 กรกฎาคม 2568 ทาง MK สุกี้ ก็ได้มีการใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า Fighting Brand ด้วยการออกแบรนด์ใหม่ เพื่อมาชนกับสุกี้ตี๋น้อยโดยตรง ชื่อว่า “BONUS SUKI” สาขาแรกที่โรบินสัน สระบุรี

โดย BONUS SUKI นั้นมีราคา Net ที่เท่ากันกับสุกี้ตี๋น้อยเลยคือ 276 บาท ปิดเวลาเดียวกันคือตี 5 แต่ให้เวลาทาน 2 ชั่วโมง 15 นาที ซึ่งนานกว่าสุกี้ตี๋น้อย 

และเมื่อตลาดหุ้นเปิด ในเช้าวันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม 2568 ราคาหุ้นของ MK สุกี้ ก็ขึ้นแรงทันที +10.92% 

4. ก้าวเข้าสู่กลางเดือนสิงหาคม ช่วงของการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 

บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ผู้ถือหุ้นสุกี้ตี๋น้อยอยู่ 30% ได้ประกาศผลประกอบการออกมาในวันที่ 13 สิงหาคม 2568 

ซึ่งเมื่อเราเทียบบัญญัติไตรยางศ์จากส่วนแบ่งกำไรที่ JMART ได้รับจากสุกี้ตี๋น้อย 

ก็ทำให้เราได้ทราบว่า กำไรของสุกี้ตี๋น้อยในไตรมาส 2 ปี 2568 อยู่ที่ 311 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน -6.7% แต่ก็ยังมากกว่า MK สุกี้ ซึ่งอยู่ที่ 276 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน -31% 

และสุกี้ตี๋น้อยก็มีกำไรมากกว่า MK สุกี้ เป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกันแล้วด้วย 

อีกทั้งสุกี้ตี๋น้อยยังท้าชน MK สุกี้อีกครั้ง ด้วยการเสิร์ฟเมนูเป็ดย่าง ซึ่งเป็นเมนูขึ้นชื่อของ MK สุกี้ แบบฟรีทุกสาขา 

พร้อมออกแบรนด์เป็นการโต้กลับชื่อ Teenoi Gold ที่เป็นแบรนด์พรีเมียม ราคา 499+ บาท ตลอดเดือนสิงหาคม จากนั้นจะปรับเป็นราคาปกติที่ 599+ บาท โดยมีเมนูไฮไลต์คือ เนื้อวากิว ติ่มซำ และเป็ดย่างเช่นกัน 

ราคาหุ้นของ MK สุกี้ จึงค่อย ๆ ปรับตัวลงเรื่อย ๆ จนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม คิดเป็นการปรับตัวลดลง -13.6% 

5. มาถึงเดือนกันยายนนี้เอง ที่สุดท้ายแล้ว MK สุกี้ เหมือนจะเอาจริงกับการทำบุฟเฟต์เต็มรูปแบบ 

ด้วยการเปิดตัว MK คุ้มเกินคุ้ม บุฟเฟต์ ราคา Net 299 บาท ที่เสิร์ฟถึง 29 เมนู และจ่ายเพิ่มอีก 59 บาท เพื่อรับกุ้งสดแบบไม่อั้นตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน จนถึงสิ้นปีนี้ ในกว่า 276 สาขาทั่วประเทศ 

และเมื่อ 3 วันที่แล้ว MK สุกี้ก็ตามด้วยหมัดหนัก อย่างการเปิดตัว MK Premium Buffet ที่มีหลายช่วงราคา เริ่มต้นที่ราคา Net 499 บาท ทานได้ 80 เมนู ไปจนถึง ราคา Net 899 บาท ที่ทานได้ไม่อั้นถึง 130 เมนู ผ่าน 8 สาขาในกรุงเทพและปริมณฑล

และแน่นอนว่าทุกช่วงราคาเสิร์ฟเป็ดย่าง อย่างไม่อั้น ในขณะที่สุกี้ตี๋น้อย ปรับเมนูเป็ดย่างจากการแจกฟรี ไปเป็นการขายแทนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 

ซึ่งแค่ภายในเดือนกันยายนนี้ ราคาหุ้นของ MK สุกี้ ก็ปรับตัวขึ้นไปถึง +42.3% แล้ว 

และถ้าใครถือหุ้นตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน ที่ MK สุกี้ เริ่มเปิดฉากสงครามหม้อเดือด ถ้ามาถึงราคาปิด ณ ตอนนี้ ก็จะได้กำไรไป +114.5% อย่างที่กล่าวไปข้างต้น 

6. จากเรื่องราวนี้เองจะเห็นได้ว่า แม้ตัวเลขกำไรของ MK สุกี้ จะหดตัวและถูกสุกี้ตี๋น้อยแซงมา 2 ไตรมาสติดแล้ว

จากทั้งการเผชิญกับการแข่งขันที่ดุเดือด และสภาพเศรษฐกิจที่ไม่เป็นใจ 

แต่ราคาหุ้นก็ยังสามารถปรับตัวขึ้นไปได้ ทั้งในตอนที่ MK สุกี้ ออก Fighting Brand ที่ให้บริการบุฟเฟต์ราคาถูก ลักษณะเดียวกันกับสุกี้ตี๋น้อย เพื่อไม่ให้แบรนด์หลักต้องเสีย ในเดือนกรกฎาคม

และการที่ MK สุกี้ เอาจริง ด้วยการเดินหน้าเปิดตัวโปรโมชันบุฟเฟต์ที่แจกเมนูอย่างหลากหลายยาวถึงสิ้นปี รวมถึงการเปิดตัว MK Premium Buffet ที่ครอบคลุมหลายช่วงราคาและเมนูอาหาร ในเดือนกันยายน

ซึ่งต่างก็เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้นักลงทุน เห็นทิศทางของ MK สุกี้ ได้อย่างชัดเจน ว่าบริษัทกำลังจะเลือกเดินไปในทิศทางไหน 

7. ด้วยแบรนด์ MK สุกี้ ที่เชื่อถือได้เรื่องคุณภาพวัตถุดิบ และน้ำจิ้มที่ถูกปากคนไทย 

ผนวกกับฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ด้วยเงินสดและสินทรัพย์เทียบเท่าเงินสด ที่มากถึง 6,300 ล้านบาท 

ก็ทำให้ถ้า MK สุกี้ อยากจะปรับโมเดลธุรกิจของตัวเองจาก A La Carte เป็นบุฟเฟต์อย่างจริงจัง พร้อมอัดโปรโมชันหนัก ๆ เพื่อดึงลูกค้า ก็คงจะทำได้ไม่ยาก 

อีกทั้งระบบจัดการ Supply Chain หลังบ้าน และครัวกลาง ที่ถูกพัฒนามาเป็นเวลานานแล้ว ก็อาจจะทำให้ MK สุกี้ มีแต้มต่อคู่แข่งในจุดนี้ด้วย 

แต่ก็อย่างคำของคุณ Benjamin Graham บิดาแห่งการลงทุนเน้นคุณค่าได้กล่าวไว้ 

“ตลาดหุ้นในระยะสั้น เป็นเครื่องลงคะแนนเสียง แต่ในระยะยาวเป็นเครื่องชั่งน้ำหนัก” 

ซึ่งจากราคาหุ้นในตอนนี้ก็ดูเหมือนว่า นักลงทุนในตลาดหุ้นไทย กำลังลงคะแนนเสียงว่า กลยุทธ์ที่จะนำ MK สุกี้ เข้าสู่ยุคใหม่ น่าจะประสบความสำเร็จ 

ในขณะเดียวกัน ถ้ามองในอีกแง่หนึ่ง การลงมาแข่งสงครามราคา ในตลาดสุกี้บุฟเฟต์ ก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้ภาพลักษณ์แบรนด์ของ MK สุกี้ ในสายตาของลูกค้า ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน ต้องเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะตัดสินความสำเร็จของกลยุทธ์ที่ MK สุกี้ กำลังทำในตอนนี้ คงไม่ใช่ตัวเลขราคาหุ้นที่นักลงทุนซื้อขายกันอยู่ 

แต่คือตัวเลขผลประกอบการหลังจากนี้ ที่จะค่อย ๆ เฉลยคำถามที่ในหัวของนักลงทุนหลายคนกำลังมี นั่นก็คือ “MK สุกี้ กำลังเลือกเดินในเส้นทางที่ถูกต้องหรือไม่ ?”..

หมายเหตุ: บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาชี้นำให้ซื้อหรือขายหุ้นเหล่านี้ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน ก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง

#ลงทุน

#หุ้นไทย

#MKสุกี้

References 

-https://marketeeronline.co/archives/395401

-https://www.marketthink.co/62612

-คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่ ไตรมาส 1 ปี 2566 จนถึง ไตรมาส 2 ปี 2568

-เพจเฟซบุ๊ค สุกี้ตี๋น้อย

-เว็บไซต์ MK Restaurant

-ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย