
ผู้หญิงในรูปนี้ ลงทุนถึงอายุ 101 ปี จนมีความมั่งคั่งหลัก 100 ล้านบาท
2 ธ.ค. 2025
“คนที่ไม่ได้เรียนจบ หรือทำอาชีพที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเงิน และมีเงินเดือนไม่มาก จะประสบความสำเร็จจากการลงทุนได้ไหม”
ถ้าเรามีคำถามนี้อยู่ในใจ เรื่องราวของคุณ Stephanie Mucha อดีตนางพยาบาล ผู้ลงทุนจนถึงอายุ 101 ปี น่าจะทำให้เรามีกำลังใจมากขึ้น
เพราะเธอเริ่มต้นลงทุนตั้งแต่วัยทำงาน จนถึงวัยเกษียณก็ยังลงทุนอย่างต่อเนื่อง จนพอร์ตการลงทุนของเธอได้เติบโตขึ้นถึงหลักร้อยล้านบาท
แถมยังได้รับฉายาว่าเป็น The Oracle of Buffalo หรือ เทพพยากรณ์แห่งเมืองบัฟฟาโล
ซึ่งฉายานี้ คล้ายกับฉายา The Oracle of Omaha ของคุณ Warren Buffett ตำนานนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก
แล้วคุณ Stephanie มีหลักการลงทุนอย่างไร ถึงประสบความสำเร็จในการลงทุน โดยที่ไม่มีพื้นฐานความรู้ หรือเคยมีประสบการณ์ในการทำงานสายการเงินมาก่อน ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
คุณ Stephanie เกิดในปี 1917 ที่เมืองเล็ก ๆ ไม่ไกลจากเมืองบัฟฟาโล ในครอบครัวที่ยากจน
เธอจึงต้องลาออกจากโรงเรียน มาทำงานเป็นแม่บ้าน เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัว
จนกระทั่งเมื่อโตขึ้น เธอก็เข้าทำงานเป็นพยาบาลอยู่ในโรงพยาบาลทหารผ่านศึกของเมืองบัฟฟาโล
ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอไม่ได้สนใจที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเลย จนกระทั่งตอนที่คุณ Wilson Greatbatch ผู้คิดค้นเครื่องปั๊มหัวใจเครื่องแรก
ได้ทดลองนำเครื่องปั๊มหัวใจ มาช่วยชีวิตสุนัขที่ชีพจรหยุดเต้นไปแล้ว ให้กลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง
คุณ Stephanie ผู้ได้เห็นการทดลองใช้เครื่องปั๊มหัวใจ ก็รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับสิ่งประดิษฐ์ใหม่นี้มาก
ไม่นานคุณ Wilson ก็ขายสิทธิบัตรเครื่องปั๊มหัวใจนี้ ให้กับบริษัท Medtronic หรือ MDT ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นพอดี
ในปี 1961 คุณ Stephanie จึงตัดสินใจใช้เงินเก็บประมาณ 255 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 89,000 บาท ในปัจจุบัน) ซื้อหุ้น MDT เป็นจำนวน 50 หุ้น
จากนั้นก็ค่อย ๆ สะสมหุ้นตัวนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยในปี 1987 ที่คุณ Stephanie อายุได้ประมาณ 70 ปี
เธอก็มีหุ้นของบริษัทนี้อยู่ประมาณ 8,500 หุ้น คิดเป็นมูลค่า 459,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 42 ล้านบาทในปัจจุบัน)
สาเหตุที่จำนวนหุ้นเพิ่มขึ้นมากขนาดนี้ นอกจากจะเกิดจากการที่คุณ Stephanie นำเงินปันผลที่ได้กลับมาซื้อหุ้นตัวนี้เพิ่มอีก
ก็ยังมาจากการที่บริษัทมีการแตกหุ้นใหม่ เพื่อไม่ให้ราคาหุ้นสูงเกินไปด้วย
ซึ่งเธอก็ไม่ได้ใช้แค่เงินของตัวเองลงทุนเท่านั้น แต่สามีของเธอก็นำเงินมาลงทุนร่วมกับเธอด้วย
แม้เธอและสามี จะไม่มีความรู้ทางด้านการเงิน แต่ทั้งคู่ก็ใช้ความเชี่ยวชาญในการทำงานประจำของตัวเอง มาใช้เป็นแต้มต่อการลงทุนให้ตัวเอง
โดยทั้งคู่จะลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของทั้งคู่ ที่พวกเขามีความรู้ความเข้าใจเป็นอย่างดีเท่านั้น
อย่างสามีของเธอที่เป็นช่างเครื่อง ก็จะมีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจเครื่องยนต์ และส่วนประกอบในโรงงานอุตสาหกรรม
ส่วนเธอเป็นพยาบาล ก็จะมีความรู้เกี่ยวกับหุ้นเครื่องมือแพทย์ และหุ้นยาเป็นอย่างดี
ยิ่งถ้าเราดูตัวอย่างหุ้นที่ทั้งคู่ลงทุน จะยิ่งเห็นได้ชัดว่าทั้งคู่ลงทุนแค่ในสิ่งที่ตัวเองเข้าใจจริง ๆ
- หุ้น Snap-On บริษัทผู้ผลิตประแจ และอุปกรณ์สำหรับงานช่างซ่อมยานพาหนะ
- หุ้น Pfizer และหุ้น Johnson & Johnson บริษัทวิจัยและผลิตยายักษ์ใหญ่ สัญชาติอเมริกัน
- หุ้น Intel บริษัทออกแบบและผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์
นอกจากนี้คุณ Stephanie ยังขยันหาความรู้เพิ่มเติมจากการอ่านหนังสือพิมพ์ธุรกิจอีกด้วย แม้ในวัยที่อายุมากแล้วก็ตาม
หนังสือพิมพ์ที่เธอชอบอ่านเป็นพิเศษก็คือ The Wall Street Journal, นิตยสาร Barron’s และ The Economist
ซึ่งนอกจากการอ่านหนังสือพิมพ์พวกนี้ จะทำให้เธอรู้ความเป็นไปของโลกธุรกิจแล้ว ยังช่วยให้เธอค้นพบโอกาสการลงทุนใหม่ ๆ ด้วย
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เธอตัดสินใจซื้อหุ้นบริษัท Philip Morris ซึ่งเป็นบริษัทที่ขายบุหรี่ไปทั่วโลก เพราะเธออ่านเจอว่าจีนกำลังมีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างมาก และคนจีนเองก็ชื่นชอบในการสูบบุหรี่มาก
โดยกลยุทธ์การลงทุนของเธอนั้นเรียบง่ายมาก มีเพียง 3 ขั้นตอนให้ทำตามเท่านั้นคือ
1. ลงทุนเฉพาะธุรกิจที่เราเข้าใจ
2. ถือหุ้นไปตลอด ไม่ขายออกมาเลย
3. นำเงินปันผลกลับไปลงทุนเพิ่ม
เพียงกลยุทธ์การลงทุนที่เรียบง่าย ที่คนทั่วไปก็สามารถทำตามได้ บวกกับระยะเวลาการลงทุนอันแสนยาวนาน ที่ช่วยสร้างผลตอบแทนทบต้น เพียงเท่านี้ก็ทำให้พอร์ตการลงทุนของเธอเติบโตได้มหาศาล
แม้ว่าจะไม่มีการเปิดเผยมูลค่าพอร์ตการลงทุนของคุณ Stephanie แบบชัด ๆ ว่าตอนที่เธอจากไป ความมั่งคั่งของเธอมีเท่าไร
แต่ก่อนจะจากไปในปี 2018 ได้ไม่นาน เธอก็บริจาคให้กับสถานศึกษา 5 แห่ง ซึ่งรวมถึงมหาวิทยาลัยบัฟฟาโล โดยบริจาคให้แห่งละ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวม 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ยังไม่นับทุนการศึกษาที่ให้เด็กอเมริกันเชื้อสายโปแลนด์ อีก 30 ทุน และบริจาคให้สำหรับมูลนิธิทหารผ่านศึก ที่ไม่ได้เปิดเผยจำนวนเงินบริจาค
ข้อมูลตรงนี้ ก็ทำให้เราอนุมานได้ว่า มูลค่าความมั่งคั่งของเธอก็น่าจะมีเกินกว่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 161 ล้านบาท อย่างแน่นอน
ซึ่งถ้าเทียบกับเงินลงทุนในวันแรก ที่มีเพียงแค่ 255 ดอลลาร์สหรัฐ ก็ถือว่าความมั่งคั่งของคุณ Stephanie เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
สุดท้ายแล้ว แม้ตัวจะจากไป แต่คุณ Stephanie ไม่เพียงแค่ช่วยให้ผู้คนในเมืองบัฟฟาโล มีชีวิตที่ดีขึ้น ผ่านการบริจาคเท่านั้น
แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจ ว่าคนธรรมดาที่ไม่ได้มีวิชาการเงินสุดลึกล้ำ ก็ยังสามารถสร้างความมั่งคั่งด้วยการลงทุนได้
แถมด้วยการให้แนวคิดการลงทุนอันเรียบง่าย แต่มีประสิทธิภาพ ที่ทุกคนสามารถนำมาปรับใช้ได้อีกด้วย..
#ลงทุน
#หลักการลงทุน
#คนปั้นพอร์ต
References