กรณีศึกษา กองทุนนั่งทับมือ ถือหุ้นเดิม 88 ปี แต่ยังชนะตลาดได้

กรณีศึกษา กองทุนนั่งทับมือ ถือหุ้นเดิม 88 ปี แต่ยังชนะตลาดได้

24 ม.ค. 2024
กรณีศึกษา กองทุนนั่งทับมือ ถือหุ้นเดิม 88 ปี แต่ยังชนะตลาดได้ | MONEY LAB
“คนเราจะสามารถถือหุ้นตัวหนึ่ง ไปได้นานแค่ไหน ?” เป็นคำถามที่ยากจะตอบได้
เพราะแม้แต่นักลงทุน VI ที่หลายคนมองว่ามักจะถือหุ้นได้ยาว ๆ ก็ยังมีการซื้อ และขายหุ้น เพื่อปรับพอร์ตการลงทุน ของตัวเองอยู่เรื่อย ๆ
แต่รู้หรือไม่ว่า มีอยู่กองทุนหนึ่ง ที่ถือแต่หุ้นตัวเดิม และผ่านร้อนผ่านหนาว มาอย่างยาวนาน จนถึงวันนี้ก็ปาเข้าไป 88 ปีแล้ว โดยแทบไม่เคยขายหุ้นตัวไหนออกไปเลย
นั่นก็คือกองทุนที่ชื่อว่า Voya Corporate Leaders Trust Fund นั่นเอง
แล้วกองทุนนี้ มีกลยุทธ์การลงทุนอย่างไร ถึงไม่มีการขายหุ้นออกไปเลย ?
MONEY LAB จะเล่าเรื่องการเงิน ที่โรงเรียนไม่เคยสอน ให้เข้าใจ
กว่าจะมาเป็นชื่อ Voya Corporate Leaders Trust Fund ซึ่งถูกบริหารโดยบริษัท Voya Financial กองทุนนี้ก็ถูกเปลี่ยนมือมาแล้วถึง 5 บริษัท
จึงไม่น่าแปลกใจที่ชื่อผู้ก่อตั้งกองทุนนี้ จะเลือนหายไปตามกาลเวลา แต่ถึงอย่างนั้น เจตนารมณ์ในการบริหารกองทุนของเขาก็ยังคงอยู่
ผ่านนโยบายการลงทุน ซึ่งไม่เคยเปลี่ยนไปเลย นับตั้งแต่กองทุนนี้ก่อตั้งขึ้นมา ในปี 1935 หรือกว่า 88 ปีที่แล้ว นั่นก็คือ
ทางกองทุนจะลงทุนกับหุ้นชั้นนำ ในตลาดหุ้นของสหรัฐอเมริกา จำนวน 30 บริษัท ยกเว้นบริษัทในอุตสาหกรรมการเงิน
โดยไม่ทำการซื้อหุ้นตัวใหม่ หรือแม้แต่ปรับสมดุลพอร์ตการลงทุนเลย ยกเว้นแต่ว่าบริษัทในพอร์ต กำลังจะล้มละลาย หรือถูกถอดออกจากตลาด ทางกองทุนถึงจะขายหุ้นออก
เหตุผลที่ทางกองทุนไม่ลงทุนในอุตสาหกรรมการเงิน อย่างธนาคาร และประกันภัยนั้น ก็เพราะว่ากองทุน ตั้งขึ้นในช่วงปลายของวิกฤติ Great Depression
อันมีจุดกำเนิดจากการล้มละลาย ในภาคการเงิน จนฉุดเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา และทั่วโลกให้ถดถอยเป็น 10 ปี
ผู้ก่อตั้งในขณะนั้น จึงปิดความเสี่ยง ด้วยการไม่ลงทุน ในอุตสาหกรรมอันเป็นต้นเหตุของวิกฤตินี้เลย
ตัวอย่างหุ้น ที่คิดเป็นส่วนใหญ่ ในพอร์ตการลงทุนของ Voya Corporate Leaders Trust Fund ก็ได้แก่
Union Pacific Corporation ผู้ให้บริการรางรถไฟใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของสหรัฐอเมริกาBerkshire Hathaway บริษัท Holding Company ที่มี Warren Buffett เป็นเจ้าของExxon Mobil Corporation บริษัทน้ำมัน รายได้มากสุด อันดับ 1 ของสหรัฐอเมริกาMarathon Petroleum Corporation บริษัทน้ำมัน รายได้มากสุด อันดับ 3 ของสหรัฐอเมริกาLinde plc บริษัทผู้ผลิตสารเคมีรายใหญ่ สัญชาติอังกฤษ
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ในเมื่อนโยบายการลงทุนของทางกองทุนคือ ไม่ซื้อหุ้นเข้า
แต่ทำไมในพอร์ตการลงทุน กลับมีหุ้น Berkshire Hathaway ที่ IPO เข้าตลาดหุ้นในปี 1965 ?
นั่นก็เป็นเพราะว่า ในปี 2010 ทางบริษัท Berkshire Hathaway ได้ทำการแลกหุ้น เพื่อเข้าซื้อบริษัท BNSF ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัท Atchison, Topeka and Santa Fe Railway ที่ทางกองทุนถือหุ้นอยู่
ทางกองทุน Voya Corporate Leaders Trust Fund จึงกลายเป็นผู้ถือหุ้นของ Berkshire Hathaway ไปด้วยนั่นเอง
เช่นเดียวกันกับหุ้นของบริษัท Linde ที่ทางกองทุนได้มาจาก การที่ Linde ได้เข้าซื้อหุ้นบริษัทลูกของบริษัท Union Carbide & Carbon
แล้วทางกองทุนได้มีการขายหุ้นออกไปบ้างไหม ?
เวลาที่ยาวนาน พอ ๆ กับชั่วอายุคนแบบนี้ ก็ต้องมีบริษัทล้มหายตายจากไปบ้าง ทำให้ปัจจุบันนี้ หุ้นที่ทางกองทุนถืออยู่ ลดลงมาเหลือแค่ 22 ตัว จาก 30 ตัว เท่านั้น
โดยบริษัทที่หายไปเหล่านี้ ก็มีทั้งบริษัทที่เลิกกิจการแล้ว ถูกถอดออกจากตลาด หรือล้มละลาย โดยหุ้นตัวล่าสุดที่บริษัทขายออกไป ก็คือหุ้นของบริษัท Eastman Kodak ผู้ผลิตกล้องและฟิล์ม Kodak ซึ่งยื่นล้มละลายไปในปี 2012
แม้จะมีกลยุทธ์ในการลงทุนที่ง่ายมาก คือการถือหุ้นที่เป็นผู้นำไปยาว ๆ โดยไม่ต้องซื้อขายเลย แต่กองทุน Voya Corporate Leaders Trust Fund กลับทำผลตอบแทนได้ชนะตลาดอย่างงดงาม
เมื่อเทียบกับดัชนีเปรียบเทียบของกองทุน อย่างดัชนี Dow Jones เนื่องจากดัชนี S&P 500 เกิดขึ้นทีหลังกองทุนนี้ถึง 22 ปี
ก็พบว่าผลตอบแทนเฉลี่ยของกองทุนตั้งแต่ก่อตั้ง จนถึงปัจจุบันนี้ จะอยู่ที่ 10.63% ต่อปี ในขณะที่ผลตอบแทนเฉลี่ยของดัชนี Dow Jones ในช่วงปี 1935 จนถึงปัจจุบัน จะอยู่ที่ประมาณ 6.63% ต่อปี เท่านั้น
ถ้าหากนึกภาพไม่ออกว่า การได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 10.63% ต่อปี ติดต่อกันมากถึง 88 ปีนั้น มหาศาลขนาดไหน
ให้ลองสมมติว่ามีคุณปู่ท่านหนึ่ง นำเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไปซื้อกองทุนนี้ ตั้งแต่วันแรกที่เปิดขาย เพื่อเก็บไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน
ผ่านไป 88 ปี จนถึงวันนี้ เงินก้อนนั้นจะกลายเป็น 7,257 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือโตขึ้นมากกว่า 7,000 เท่า เลยทีเดียว
ส่วนเมื่อนำมาเทียบกับ กองทุนอิงดัชนี S&P 500 ในช่วงปี 1985 ถึงปัจจุบัน กองทุน Voya Corporate Leaders Trust Fund ก็ยังชนะไปได้อย่างฉิวเฉียด ด้วยผลตอบแทนเฉลี่ย 10.14% ต่อปี
ในขณะที่กองทุนอิงดัชนี S&P 500 ชื่อดัง อย่างเช่น SPDR S&P 500 ETF Trust ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 10.03% ต่อปี เท่านั้น
จากตรงนี้เองจะเห็นได้ว่า การจะทำผลตอบแทนให้ชนะตลาด ไม่จำเป็นต้องซื้อขายเปลี่ยนตัวหุ้นบ่อย ๆ หรือใช้ท่าการลงทุนอันซับซ้อน เพียงอย่างเดียว
เพราะว่ากองทุนรุ่นปู่อย่าง Voya Corporate Leaders Trust Fund ก็เป็นตัวอย่างที่ดีว่า การเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานดี และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม
ก็สามารถทำให้เราลงทุน อย่างสบายใจไร้กังวลได้ ถึงแม้เวลาจะผ่านไปอีกกี่สิบปีก็ตาม..
หมายเหตุ: ผลตอบแทนดัชนี Dow Jones และกองทุนอิงดัชนี S&P500 ไม่รวมผลตอบแทน จากการนำเงินปันผล มาลงทุนใหม่
© 2024 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.