โมเดลธุรกิจร้านทอง รายได้ 10,000 บาท มีกำไรแค่บาทเดียว

โมเดลธุรกิจร้านทอง รายได้ 10,000 บาท มีกำไรแค่บาทเดียว

19 ต.ค. 2023
โมเดลธุรกิจร้านทอง รายได้ 10,000 บาท มีกำไรแค่บาทเดียว | MONEY LAB
รู้หรือไม่ว่า ธุรกิจค้าขายทอง มีอัตรากำไรที่ต่ำมาก
โดยร้านทองหลาย ๆ ร้าน อาจมีรายได้สูงเป็นแสนล้านบาท
แต่อาจมีกำไรเพียงแค่หลักสิบ ถึงหลักร้อยล้านบาท เท่านั้น
แล้วทำไมถึงเป็นแบบนั้น ?
MONEY LAB จะเล่าเรื่องการเงิน ที่โรงเรียนไม่เคยสอน ให้เข้าใจ
เรามาเริ่มจาก ผลประกอบการของร้านค้าทองแต่ละร้าน ในปี 2565 ก่อน
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง คอมโมดิทัซ จำกัด
รายได้ 1,310,009 ล้านบาท
กำไร 237 ล้านบาท
คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 0.02%
บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
รายได้ 738,963 ล้านบาท
กำไร 72 ล้านบาท
คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 0.01%
บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
รายได้ 617,106 ล้านบาท
กำไร 35 ล้านบาท
คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ ไม่ถึง 0.01%
จะเห็นได้ว่าร้านทองเหล่านี้ มีรายได้ในระดับที่สูงมาก ๆ แต่อัตรากำไร ก็บางมากด้วยเช่นกัน
โดยรายได้ทุก ๆ 10,000 บาท ของธุรกิจค้าทองนั้น จะมีกำไรเพียงแค่ 1 ถึง 2 บาท เท่านั้น
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า กำไรของธุรกิจค้าทองนั้น มาจากส่วนต่างของราคาซื้อและราคาขายทอง
แต่เนื่องจากทอง เป็นสินค้าที่มีลักษณะคล้ายกัน
ลูกค้าจึงสามารถซื้อหรือขายทอง ที่ร้านไหนก็ได้
ดังนั้นร้านค้าทอง จึงไม่สามารถตั้งราคาขายให้สูงกว่าราคารับซื้อได้มากนัก เพราะไม่อย่างนั้นลูกค้าก็อาจหันไปซื้อทองร้านอื่นที่ราคาถูกกว่า
สำหรับส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและราคาขาย นอกจากเป็นการบวกกำไรของร้านทองแล้ว ก็จะมี “ค่ากำเหน็จ” และ “ค่าบล็อก” รวมอยู่ด้วย
โดยค่ากำเหน็จ คือ ค่าแปรรูปและผลิตทองรูปพรรณ
ซึ่งอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับลวดลาย และขั้นตอนการผลิต
ส่วนค่าบล็อก จะเป็นค่าใช้จ่ายในการหลอมทองคำให้เป็นแท่ง
แล้วต้นทุนของร้านค้าทองมีอะไรบ้าง ?
หลัก ๆ แล้วร้านจะมี “ค่าใช้จ่ายจากการซื้อทองคำ”
ไม่ว่าจะเป็นค่าซื้อทองรูปพรรณใหม่ ค่าซื้อทองรูปพรรณเก่าที่ลูกค้านำมาขาย ไปจนถึงค่าซื้อทองคำแท่ง
ค่าใช้จ่ายอีกอย่างคือ “เงินเดือนพนักงาน”
ที่เป็นค่าใช้จ่ายคงที่ เพราะไม่ว่าลูกค้าจะเข้าร้านน้อยหรือมากแค่ไหน ร้านก็ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายตรงนี้อยู่ดี
ส่วนร้านทองหลายร้าน ที่มีการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินมาเป็นทุนหมุนเวียนในกิจการ ก็จะมีค่าใช้จ่ายเป็น
“ดอกเบี้ยจ่าย” ด้วย
นอกจากนี้ บางร้านก็จะมีค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่น ๆ เช่น ค่าเช่าสถานที่สำหรับเปิดร้าน ค่าขนส่งสินค้า และค่าเบี้ยประกัน ในกรณีที่ร้านมีการทำประกันภัยร้านทอง เพื่อความปลอดภัยของธุรกิจ
สรุปแล้ว ร้านทองนั้นมีโมเดลธุรกิจที่เรียกว่า “ซื้อมา-ขายไป” ด้วยการบวกกำไรเพียงเล็กน้อย
ในขณะที่ตัวร้านเอง ก็ต้องแบกรับต้นทุนหลายอย่างด้วย จึงทำให้ธุรกิจร้านทอง มีอัตรากำไรที่บางเฉียบ
ในขณะเดียวกัน ร้านทองก็มีความเสี่ยงที่สำคัญคือ ในเวลาที่ราคาทองสูงขึ้นอย่างเช่นในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่ก็มักจะนำทองมาขายคืนกับร้าน ส่วนคนที่อยากซื้อทองก็จะน้อยลง
พอเป็นแบบนี้ ร้านทองบางร้านก็อาจมีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง จนเราอาจเคยเห็นร้านทองต้องปิดร้านชั่วคราว หรือถึงขั้นปิดกิจการไป นั่นเอง..
References
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
-https://www.thansettakij.com/business/469512
-https://www.bangkokbiznews.com/business/893253
© 2024 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.