Cocktail Party Theory หลักการหาฟองสบู่ ในตลาดหุ้น ของ Peter Lynch

Cocktail Party Theory หลักการหาฟองสบู่ ในตลาดหุ้น ของ Peter Lynch

10 ส.ค. 2023
Cocktail Party Theory หลักการหาฟองสบู่ ในตลาดหุ้น ของ Peter Lynch | MONEY LAB
นักลงทุนหลายคน น่าจะต้องเคยได้ยินชื่อคุณ Peter Lynch
เพราะเขาคือ อดีตผู้จัดการกองทุนระดับตำนานแห่ง Fidelity Magellan ที่สร้างผลตอบแทนจากการลงทุน ตลอดช่วงระยะเวลา 13 ปี ได้เฉลี่ยสูงถึง 29% ต่อปี
นอกจากความสำเร็จในการเป็นนักลงทุนแล้ว คุณ Peter Lynch ยังถือว่าประสบความสำเร็จ ในการเป็นนักเขียนหนังสือขายดีอีกด้วย
หนังสือที่ดังที่สุดของคุณ Peter Lynch คือ
“One Up On Wall Street”
ในหนังสือเล่มนี้ นอกจากจะเล่าถึงหลักการการลงทุนของคุณ Peter Lynch แล้ว ยังได้เอ่ยถึงทฤษฎีสำคัญอย่างหนึ่ง ที่นักลงทุนทุกคนสามารถใช้ตรวจสอบภาวะของตลาดหุ้นได้อีกด้วย
ทฤษฎีนี้เรียกว่า “The Cocktail Party Theory” หรือ
“ทฤษฎีงานค็อกเทล”
แล้ว ทฤษฎีงานค็อกเทล คืออะไร ?
MONEY LAB จะเล่าเรื่องการเงิน ที่โรงเรียนไม่เคยสอนให้เข้าใจ
ทฤษฎีงานค็อกเทล จะช่วยบ่งบอกถึงภาวะของตลาดหุ้น ในแต่ละช่วงเวลา
ทฤษฎีนี้จะแบ่งสถานการณ์ของตลาดหุ้น ออกเป็น 4 ช่วง โดยการจะดูว่าตลาดหุ้นอยู่ในช่วงไหนนั้น สามารถสังเกตได้จากพฤติกรรมของผู้คนในสังคม ดังนี้
ระยะที่ 1 ตลาดหุ้นกำลังตกต่ำ
ในระยะนี้ เป็นช่วงเวลาที่ดัชนีตลาดหุ้นได้ตกลงไปสู่จุดต่ำสุดแล้ว และกำลังอยู่ในระยะแรกของการเริ่มฟื้นตัว
ช่วงนี้ คนส่วนใหญ่ในสังคมจะหวาดกลัวตลาดหุ้น เพราะคิดว่าการลงทุนในหุ้น คือการพนัน จึงไม่ค่อยมีคนสนใจลงทุนในหุ้นกันสักเท่าไร และแทบจะไม่เห็นใครพูดถึงเรื่องหุ้นเลย
ทำให้ในระยะนี้ ภาพรวมดัชนีหุ้นจะต่ำ และหุ้นดี ๆ หลายตัว จะซื้อขายกันในราคาที่ถูกมาก
ระยะที่ 2 ตลาดหุ้นฟื้นตัวเล็กน้อย
ในระยะนี้ ดัชนีตลาดหุ้นได้ปรับตัวสูงขึ้นมา ประมาณ 15% แล้ว
ช่วงนี้ คนส่วนน้อย จะพูดคุยเกี่ยวกับตลาดหุ้น และหันมาสนใจลงทุนในหุ้น แต่ว่าคนส่วนใหญ่ในสังคม จะยังมองว่า ตลาดหุ้นเป็นการลงทุนที่เสี่ยงเกินไป
โดยระยะนี้ โอกาสในการพบหุ้นดีในราคาถูก ก็ยังมีอยู่พอสมควร
ระยะที่ 3 ตลาดหุ้นฟื้นตัวแรง
ในระยะนี้ ดัชนีตลาดหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้นมา ประมาณ 30%
โดยคนส่วนใหญ่ ที่มาจากหลากหลายอาชีพ เริ่มเลือกนำเงินมาลงทุนในตลาดหุ้น
โดยบทสนทนาที่คนส่วนใหญ่คุยกัน มักจะคุยกันว่า ควรนำเงินไปซื้อหุ้นตัวไหน
ระยะที่ 4 ตลาดหุ้นอยู่ในภาวะฟองสบู่ และใกล้จะแตกแล้ว
คุณ Peter Lynch บอกว่า ในระยะนี้ จะคล้ายคลึงกับระยะที่ 3 แต่แตกต่างกันนิดหน่อย คือ ในระยะที่ 3 คนส่วนใหญ่ที่ไม่ค่อยมีความรู้ในการลงทุนหุ้น จะถามกันว่า ควรซื้อหุ้นตัวไหน
แต่ในระยะที่ 4 นี้ เราจะได้เห็น คนกลุ่มเดียวกันนี้ เริ่มออกมาพูดเชียร์หุ้น และแนะนำเราว่า ต้องซื้อหุ้นตัวไหน
นอกจากนี้ เรายังมีโอกาสจะได้เห็นว่า คนเหล่านี้อาจถึงขั้นแนะนำหุ้น ให้แก่เหล่านักลงทุนมืออาชีพเสียด้วย
เมื่อเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย เราก็จะพบว่า ดัชนีหุ้นได้ปรับตัวสูงขึ้นไปมากแล้ว และหุ้นส่วนใหญ่ ก็กำลังซื้อขายกันในระดับราคาที่แพงเกินไป
ซึ่งก็จะเป็นสัญญาณที่บอกเราว่า อีกไม่นาน ฟองสบู่ตลาดหุ้นใกล้จะแตกแล้ว
สรุปแล้ว ทฤษฎีงานค็อกเทล ของคุณ Peter Lynch ที่ใช้บ่งบอกภาวะตลาดหุ้น มีอยู่ 4 ระยะ
ในระยะที่ 1 และ 2 นั้น หุ้นหลายตัวกำลังซื้อขายกันในราคาที่ถูกมาก เพราะคนส่วนใหญ่ ยังหวาดกลัวการลงทุนในตลาดหุ้นกันอยู่
หากเราเป็นนักลงทุนที่มีความรู้ และคิดต่างจากคนส่วนใหญ่ ก็จะเป็นโอกาสให้เราได้ซื้อหุ้นดี ๆ ในราคาที่ถูกมาก
ส่วนในระยะที่ 3 แม้ว่าหุ้นหลายตัว จะเริ่มซื้อขายกันในราคาที่สูงแล้ว แต่สำหรับนักลงทุนที่รอบคอบ ก็ถือว่ายังพอมีโอกาสในการเจอหุ้นดีราคาถูกอยู่บ้าง เพราะยังเป็นช่วงก่อนที่ตลาดหุ้นจะบูมไปจนถึงขีดสุด
และสำหรับระยะที่ 4 นั้น หุ้นส่วนใหญ่ในตลาด กำลังซื้อขายกันในราคาที่แพงมากเกินไป
คนส่วนใหญ่ที่เข้ามาลงทุนในระยะนี้ มักจะมีทัศนคติที่เชื่อว่า สามารถเข้ามาหาเงินในตลาดหุ้นได้ง่าย ๆ
ดังนั้นในช่วงนี้ นักลงทุนควรต้องระมัดระวังให้ดี เพราะอีกไม่นาน ตลาดหุ้นจะตกต่ำและหวนกลับไปสู่ระยะที่ 1 อีกครั้ง
โดยสิ่งสำคัญที่เราต้องทำก็คือ การเฝ้าสังเกตสถานการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัวอย่างรอบคอบ ขยันศึกษาหาความรู้เรื่องการลงทุน และอดทนรอโอกาสในการลงทุนที่ดี..
References
-หนังสือ One Up On Wall Street: How To Use What You Already Know To Make Money In The Market (1989) โดย Peter Lynch และ John Rothchild
-หนังสือ ลงทุนเปลี่ยนชีวิต (2018) โดย วิบูลย์ พึงประเสริฐ
© 2024 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.