“ตราสารหนี้” สินทรัพย์น่าเบื่อ แต่มีมูลค่าตลาด 4,620,000,000 ล้านบาท

“ตราสารหนี้” สินทรัพย์น่าเบื่อ แต่มีมูลค่าตลาด 4,620,000,000 ล้านบาท

29 มิ.ย. 2023
“ตราสารหนี้” สินทรัพย์น่าเบื่อ แต่มีมูลค่าตลาด 4,620,000,000 ล้านบาท - BillionMoney
ตราสารหนี้ เป็นสินทรัพย์ที่มูลค่ามักจะไม่ได้ผันผวนมาก จึงทำให้การจะทำกำไรมาก ๆ เพื่อให้พอร์ตการลงทุนเติบโตอย่างรวดเร็ว ยากกว่าสินทรัพย์อื่น เช่น หุ้น หรือคริปโทเคอร์เรนซี
จนทำให้หลาย ๆ คนมองว่า สินทรัพย์อย่างตราสารหนี้นั้น เป็นสินทรัพย์ที่ “น่าเบื่อ” และไม่มีอะไรดึงดูดใจให้มาลงทุน
แต่ถึงอย่างนั้น มูลค่าตลาดของตราสารหนี้ทั่วโลก ที่รวมทั้งพันธบัตรรัฐบาล และหุ้นกู้ของบริษัทเอกชน ในปี 2022 นั้น กลับมากถึง 4,620 ล้านล้านบาท มากกว่ามูลค่าตลาดหุ้นทั่วโลก กว่า 1.3 เท่า เลยทีเดียว
แล้วเพราะอะไร ตลาดตราสารหนี้ ถึงได้มีมูลค่ามหาศาลขนาดนี้ ?
BillionMoney จะย่อยให้เข้าใจ
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ตลาดตราสารหนี้ มีมูลค่ามากขนาดนี้ ก็เพราะว่า การออกตราสารหนี้นั้น เป็นช่องทางในการระดมทุน ที่บริษัทมักจะเลือกใช้เป็นอันดับแรก ๆ ก่อนการออกหุ้นเพิ่มทุน
ด้วยความที่การซื้อหุ้นนั้น มีความเสี่ยงสูงกว่าการซื้อตราสารหนี้ เพราะปันผลจากหุ้นนั้นมีความไม่แน่นอน แถมราคายังผันผวน จึงทำให้นักลงทุนต้องเรียกร้องอัตราผลตอบแทนที่มากกว่า
ทำให้การจะออกหุ้นเพิ่มทุนในแต่ละครั้ง มีต้นทุนสูงกว่า อีกทั้งการออกหุ้นเพิ่มทุน ยังเสี่ยงที่จะทำให้ราคาหุ้นตกจากจำนวนกำไรต่อหุ้นที่ลดลง อีกด้วย
และนอกจากบริษัทแล้ว ก็ยังมีรัฐบาลของแต่ละประเทศ ที่ทำการออกพันธบัตรรัฐบาล สำหรับระดมทุนจากประชาชนและนักลงทุนต่างชาติ เพื่อนำไปใช้จ่าย ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงบริหารประเทศด้วย
นั่นจึงทำให้ แค่ในปี 2022 ที่ผ่านมา ก็มีการออกตราสารหนี้ใหม่ทั่วโลก มากถึง 288 ล้านล้านบาทแล้ว
ซึ่งตราสารหนี้ที่ออกมาใหม่มากมายเหล่านั้น ก็มีผู้รอซื้ออยู่เป็นจำนวนมาก เพราะตราสารหนี้นั้น ก็มีข้อดีที่สินทรัพย์อื่นไม่มี
ได้แก่ มูลค่าที่ไม่ผันผวนและผู้ลงทุนยังได้รับกระแสเงินสดที่ค่อนข้างแน่นอน แถมในเวลาที่บริษัทล้มละลาย ยังมีสิทธิ์ในการได้รับเงินคืน ก่อนหน้าผู้ถือหุ้นอีกด้วย จึงทำให้ความเสี่ยงของตราสารหนี้ ต่ำกว่าหุ้นมาก
ด้วยเหตุนี้เอง ตราสารหนี้ จึงยังคงเป็นที่ต้องการ สำหรับคนหลายกลุ่ม ทั้งนักลงทุนทั่วไป รวมถึงนักลงทุนรายใหญ่ต่าง ๆ เช่น กองทุนรวม และนักลงทุนสถาบัน เป็นต้น ที่ต้องการลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน
เพราะถึงแม้ว่าการซื้อหุ้นเต็ม 100% ของพอร์ต จะทำให้ได้รับผลตอบแทนสูงมากก็จริง แต่บางครั้งเมื่อเทียบกับความเสี่ยง ที่ราคาหุ้นจะลดลงในอนาคต ผลตอบแทนที่ได้ก็อาจจะไม่คุ้มค่าก็ได้
ทำให้การกระจายการลงทุนไปยังตราสารหนี้ ในสัดส่วนที่เหมาะสม แม้ผลตอบแทนจะลดลงไปบ้าง แต่ก็จะช่วยให้ความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน ลดลงเช่นกัน
นอกจากนี้ ตราสารหนี้ยังเหมาะที่จะเป็นสินทรัพย์การลงทุน สำหรับผู้ที่อยู่ในวัยเกษียณ ที่ไม่สามารถรับความเสี่ยง ในการสูญเสียเงินต้น จากความผันผวนของราคา เหมือนตอนที่อายุยังน้อยได้อีกแล้ว
นั่นจึงทำให้กองทุนประกันสังคมของหลาย ๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทย ต้องเข้าไปถือตราสารหนี้เป็นจำนวนมาก
อย่างเช่น กองทุนประกันสังคมของประเทศไทย ที่ปัจจุบัน ก็ถือพันธบัตรรัฐบาล, พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ และหุ้นกู้ของบริษัทเอกชน เป็นจำนวน 61,886 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 81.30% ของสินทรัพย์การลงทุนทั้งหมด
จากทั้งหมดนี้เอง จะเห็นได้ว่าสิ่งที่ทำให้ ตลาดตราสารหนี้ มีมูลค่ามากมายขนาดนี้ ก็เนื่องมาจากการที่บริษัทต่าง ๆ รวมไปถึงรัฐบาลของแต่ละประเทศ มีการระดมทุน ผ่านการออกตราสารหนี้อย่างต่อเนื่อง
ประกอบกับความต้องการจากนักลงทุนต่าง ๆ ที่เข้าไปซื้อตราสารหนี้อยู่ตลอด เพื่อนำมาช่วยลดความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุนของตัวเอง หรือผู้ที่ต้องการสินทรัพย์ที่ให้กระแสเงินสดที่แน่นอนในทุก ๆ เดือน
ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ที่สินทรัพย์ซึ่งหลาย ๆ คนมองว่าน่าเบื่อ อย่างตราสารหนี้ กลับกลายเป็นตลาดสินทรัพย์ ที่มีมูลค่าสูงถึงหลักล้านล้านบาท..
© 2024 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.