Signature ธนาคารสหรัฐอีกราย ปิดตัวลงตามหลัง Silvergate และ SVB ใน 4 วัน

Signature ธนาคารสหรัฐอีกราย ปิดตัวลงตามหลัง Silvergate และ SVB ใน 4 วัน

13 มี.ค. 2023
ล่าสุด ทางการสหรัฐอเมริกา ได้สั่งปิดธนาคาร Signature Bank เช่นเดียวกันกับธนาคาร Silvergate และธนาคาร Silicon Valley ที่ล้มละลายไปก่อนหน้า
ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ เกิดในเวลาเพียงแค่ 4 วัน..
ธนาคาร Silvergate ถูกสั่งปิด วันที่ 9 มีนาคมธนาคาร Silicon Valley ถูกสั่งปิด วันที่ 10 มีนาคมธนาคาร Signature Bank ถูกสั่งปิด วันที่ 12 มีนาคม
หรือแทบจะเรียกได้ว่าธนาคารเหล่านี้ ถูกปิดแบบวันเว้นวันเลยทีเดียว
แล้วธนาคาร Signature มีความสำคัญอย่างไร ?
ธนาคาร Signature ที่เพิ่งถูกปิดไปล่าสุดนั้น เป็นหนึ่งในธนาคารรายใหญ่ สำหรับอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี
เป็นรองเพียงแค่ธนาคาร Silvergate ที่เพิ่งล้มละลายไป
เนื่องจากธนาคาร Signature Bank รับหน้าที่เป็นผู้ดูแลระบบชำระเงินของ Coinbase กระดานเทรดคริปโทเคอร์เรนซีที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา และ Circle ผู้ออก Stable Coin ที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 2 อย่าง USDC
โดยธนาคารเหล่านี้ แม้จะถือได้ว่าเป็นธนาคารขนาดกลาง และขนาดเล็ก แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการปิดตัวลงเมื่อรวมกันแล้ว ก็ถือว่าค่อนข้างใหญ่
สะท้อนจากสินทรัพย์และเงินฝาก ของธนาคาร ทั้ง 3 แห่ง จากงบการเงินล่าสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2565
ธนาคาร Silvergate มีสินทรัพย์ 391,000 ล้านบาท เงินฝาก 217,000 ล้านบาทธนาคาร Silicon Valley มีสินทรัพย์ 7,300,000 ล้านบาท เงินฝาก 5,900,000 ล้านบาทSignature Bank มีสินทรัพย์ 3,800,000 ล้านบาท เงินฝาก 3,000,000 ล้านบาท
หรือคิดรวมกันแล้ว มีเงินฝากที่ได้รับผลกระทบมากถึง 10.5 ล้านล้านบาท
ซึ่งใหญ่เกือบเทียบเท่าจำนวนเงินฝากของธนาคาร กสิกร, เอสซีบี, กรุงเทพ และกรุงไทยรวมกัน
ด้วยเหตุนี้เอง ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาหรือ FED และสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงได้ออกมาตรการฉุกเฉินเพื่อเรียกความเชื่อมั่นในระบบการเงินทันที
เพราะถ้าหากทาง FED ไม่ทำอะไรในตอนนี้ ผลกระทบจากความแตกตื่นของผู้คน ที่พากันแห่ไปถอนเงินตามธนาคารต่าง ๆ ก็อาจขยายเป็นวงกว้าง จนส่งผลกระทบอย่างหนัก ต่อระบบธนาคารของสหรัฐอเมริกา
โดยมาตรการดังกล่าวหลัก ๆ มี 2 มาตรการ คือ
อนุญาตให้มีการนำสินทรัพย์คุณภาพดี เช่น พันธบัตรรัฐบาล นำมาเป็นสินทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ยืมระยะสั้นอายุ 1 ปี จาก FEDประกาศรับประกันว่าผู้ฝากเงินใน Silicon Valley Bank จะสามารถถอนเงินได้เต็มจำนวน
แต่ว่าผู้ถือหุ้นและหุ้นกู้ที่ไม่มีหลักประกันของ Silicon Valley Bank จะไม่ได้รับความคุ้มครอง
พูดง่าย ๆ ก็คือ ทางการสหรัฐ จะคุ้มครองเฉพาะผู้ฝากเงินเท่านั้น แต่ไม่คุ้มครองนักลงทุนและเจ้าหนี้ที่นำเงินไปลงทุนใน Silicon Valley Bank
จะเห็นได้ว่า 3 ธนาคารที่ล้มไป ล้วนเป็นสถาบันการเงินที่เน้นปล่อยสินเชื่อในกลุ่ม สตาร์ตอัป และคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ในช่วง 10 ปีที่แล้ว
แต่เมื่อถึงวันที่ FED เปลี่ยนท่าทีมาขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วแบบนี้ ก็ได้ทำให้การดำเนินงานของธุรกิจเหล่านั้นสะดุดลง และส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ มาถึงผู้ปล่อยกู้อย่างธนาคารเหล่านี้ ในที่สุด..
© 2024 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.