สูตรลับสร้างกระแสเงินสดทุกเดือนด้วย Options ที่ทำเองได้ผ่านตลาด TFEX

สูตรลับสร้างกระแสเงินสดทุกเดือนด้วย Options ที่ทำเองได้ผ่านตลาด TFEX

28 ต.ค. 2025
หนึ่งในสินทรัพย์ยอดนิยมที่นักลงทุนหุ้นต่างประเทศนิยมไปลงทุนกันก็คือ ETF ที่จ่ายปันผลกันแบบรายเดือน หรือที่เรียกว่ากองทุน YieldMax อย่างเช่น MSTY หรือ NVDY
แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่ากระแสเงินสดที่กองทุน ETF ตัวนี้จ่ายให้กับนักลงทุนทุกเดือน มาจากการใช้เครื่องมือที่เรียกว่า “Options” ไม่ใช่การนำปันผลจากหุ้นมาจ่ายให้
ที่น่าสนใจก็คือ เราสามารถใช้กลยุทธ์แบบเดียวกับกองทุนเหล่านี้ เพื่อสร้างกระแสเงินสดทุกเดือน โดยใช้ Options ในตลาด TFEX ได้เหมือนกัน
แล้วกลยุทธ์ที่กองทุน YieldMax เหล่านี้ใช้ คืออะไร ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
กลยุทธ์ที่กองทุน YieldMax ใช้สร้างกระแสเงินสดออกมาเป็นรายเดือน ก็คือกลยุทธ์ที่เรียกว่า “Synthetic Covered Call Strategy”
แต่ก่อนที่เราจะมาอธิบายว่ากลยุทธ์นี้คืออะไร เราลองมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า Options คืออะไร
Options เป็นตราสารอนุพันธ์ที่มีผลตอบแทนตามการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์อ้างอิง ไม่ว่าจะเป็น หุ้น ค่าเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ หรือแม้แต่ดัชนีหุ้น โดย Options จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก
1. Call Options
คือสิทธิในการ “ซื้อ” สินทรัพย์อ้างอิงที่ราคา Strike Price โดยเราจะซื้อ Call Options ก็ต่อเมื่อเราเชื่อว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะเพิ่มขึ้นในอนาคต เราจึงซื้อสิทธิในการ “ซื้อ” สินทรัพย์อ้างอิง ในราคาที่กำหนดไว้ก่อน
แต่หากราคาสินทรัพย์อ้างอิงไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างที่เราคิด เราก็เสียแค่ “ค่าพรีเมียม” ในการซื้อ Call Options ซึ่งจะมีต้นทุนที่ถูกกว่าการซื้อสินทรัพย์อ้างอิงโดยตรง
โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นผู้ซื้อ หรือผู้ขาย Options ซึ่งสำหรับผู้ขาย Call Options จะได้รับค่าพรีเมียมในการขาย Options แต่จะขาดทุน หากราคาสินทรัพย์อ้างอิงปรับตัวเพิ่มขึ้นไปมากกว่า Strike Price
2. Put Options
คือสิทธิในการ “ขาย” สินทรัพย์อ้างอิงที่ราคา Strike Price โดยเราจะซื้อ Put Options ก็ต่อเมื่อเราเชื่อว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงจะปรับตัวลดลงในอนาคต เราจึงซื้อสิทธิในการ “ขาย” สินทรัพย์อ้างอิง ในราคาที่กำหนดเอาไว้ก่อน
แต่หากราคาสินทรัพย์อ้างอิงไม่ได้ลดลงอย่างที่เราคิด เราก็เสียแค่ค่าพรีเมียมในการซื้อ Put Options
ส่วนผู้ขาย Put Options จะขาดทุน เมื่อราคาสินทรัพย์อ้างอิงปรับตัวลดลงต่ำกว่า Strike Price
เมื่อเราเข้าใจหลักการซื้อขาย Options เบื้องต้นแล้ว เราลองมาทำความเข้าใจกลยุทธ์ “Synthetic Covered Call Strategy” กัน
อย่างที่บอกไปตอนแรกว่า กองทุน ETF แบบนี้ มีเป้าหมายในการสร้างกระแสเงินสดทุกเดือน โดยกระแสเงินสดที่ว่า จะมาจากการขาย Call Options ที่มีหุ้นของบริษัท เช่น MSTR หรือ NVDA เป็นสินทรัพย์อ้างอิง
แต่ผู้ขาย Call Options อาจจะมีความเสี่ยงตรงที่ หากราคาหุ้นเพิ่มขึ้นไปมากกว่า Strike Price จะขาดทุน
ผู้ขาย Call Options จึงมักทำการซื้อหุ้นอ้างอิงด้วย เพื่อปิดความเสี่ยงในกรณีที่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น
และเลือกรุ่นของ Call Options ที่จะขาย ให้มีราคา Strike Price สูงกว่าราคาหุ้นที่ซื้อมา เพื่อล็อกกำไร
กรณีที่ 1 หากราคาหุ้นไม่เพิ่มขึ้น ผู้ขาย Call Options อาจจะขาดทุนจากการซื้อหุ้น แต่จะได้รับกระแสเงินสดจากค่าพรีเมียมในการขาย Call Options
กรณีที่ 2 หากราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น ผู้ขาย Call Options สามารถนำหุ้นที่ตัวเองมีอยู่ มาขายทำกำไร เพื่อหักล้างกับผลขาดทุนที่เกิดจากการขาย Call Options
โดยจะได้กำไรเพียงเล็กน้อยจากส่วนต่างระหว่างราคาซื้อหุ้น กับราคา Strike Price ของ Call Options
อย่างไรก็ตามกองทุน YieldMax กลับไม่ได้มีหุ้นในมือจริง ๆ เอาไว้ปิดความเสี่ยงในกรณีที่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ใช้ Options เพื่อทำให้ “เสมือนว่า” ตัวเองมีหุ้น MSTR หรือ NVDA อยู่ เรียกว่าการทำ Synthetic Stock
วิธีการทำ Synthetic Stock ก็คือ การขาย Put Options เพื่อรับค่าพรีเมียมจากการขาย Options จากนั้นก็นำเงินค่าพรีเมียมที่ได้ ไปซื้อ Call Options ที่ราคา Strike Price เดียวกัน อายุสัญญาเท่ากัน
การทำแบบนี้ จะทำให้ MSTY เสมือนว่ามีหุ้น MSTR อยู่ในพอร์ตจริง ๆ เพราะหากราคาหุ้นลงมาต่ำกว่าราคา Strike Price ก็จะขาดทุนจากการขาย Put Options
แต่จะได้กำไรหากราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคา Strike Price จากการซื้อ Call Options
ข้อดีของการทำ Synthetic Stock คือ เราไม่ต้องควักเงินจ่ายค่าหุ้นจริง ๆ เพราะเราใช้กระแสเงินสดที่ได้จากการขาย Put Options มาจ่ายค่าซื้อ Call Options
แต่การขาย Options มีกฎข้อบังคับว่าผู้ขายต้องมีสินทรัพย์อ้างอิง หรือเงินสดวางไว้เป็นหลักประกัน เพื่อให้ผู้ซื้อ Options มั่นใจว่าผู้ขาย จะสามารถส่งมอบสิทธิตามสัญญา Options ได้จริง
ถ้ากองทุน YieldMax ไม่มีหุ้น ก็ต้องมีเงินสด แต่การมีเงินสดวางไว้เฉย ๆ ก็อาจจะเสียโอกาสการสร้างผลตอบแทนได้
ทางกองทุน YieldMax จึงนำเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นของรัฐบาลก่อน แล้วถึงค่อยนำสินทรัพย์นี้มาใช้เป็นหลักประกันเวลาจะออก Options มาขาย เพื่อให้ได้กระแสเงินสดจากดอกเบี้ยอีกทาง
และเมื่อมีหุ้นจำลองมาปิดความเสี่ยงในกรณีที่ราคาหุ้นอ้างอิงอาจจะเพิ่มขึ้นแล้ว ก็จะทำการขาย Call Options ที่มีอายุการใช้สิทธิ 1 เดือน เพื่อสร้างกระแสเงินสดรายเดือน
รายได้ที่มาจากค่าพรีเมียมในการขาย Call Options นี้เอง ที่เป็นกระแสเงินสดที่ช่วยให้เหล่ากองทุน YieldMax มีเงินมาจ่ายปันผลให้กับนักลงทุนได้ทุกเดือน
แต่รู้หรือไม่ว่า เราไม่จำเป็นต้องเปิดพอร์ตหุ้นต่างประเทศ เพื่อนำเงินออกไปซื้อกองทุน YieldMax ให้ยุ่งยาก ก็สามารถสร้างกระแสเงินสดรายเดือนจากกลยุทธ์นี้ได้ ผ่านการซื้อขาย Options ในตลาด TFEX
ซึ่ง Options ในตลาด TFEX จะอ้างอิงกับดัชนี SET50 ที่สะท้อนการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยโดยรวม เพราะคำนวณมาจากราคาหุ้นใหญ่ที่สุด 50 บริษัทของตลาดหุ้นไทย ทำให้วิเคราะห์ง่าย ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องวิเคราะห์หุ้นรายตัว
ซึ่งนักลงทุนสามารถลงทุนใน SET50 Options ได้ทั้งขาซื้อ และขาขาย
อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์แบบนี้ก็ยังมีความเสี่ยงตรงที่ หากราคาดัชนีปรับตัวลดลงเรื่อย ๆ เราก็จะขาดทุนจากการขาย Put Options
นักลงทุนจึงต้องระมัดระวังความเสี่ยงตรงนี้อย่างรอบคอบ ก่อนที่จะพิจารณาการใช้กลยุทธ์นี้สร้างกระแสเงินสดเป็นรายเดือน..
ดูรายละเอียดสินค้า Options ใน TFEX เพิ่มเติมได้ที่ https://s.setth.org/1dh
© 2025 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.