สรุป กฎเหล็ก 3 ข้อของ Law Wai-sum อดีตเด็กห้องเช่า ผู้กลายเป็น แชมป์โลกเทรดเดอร์ คนล่าสุด
24 ก.ย. 2025
เสียงพ่อแม่ทะเลาะกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรื่องเงินที่ขาดทุน จากการลงทุน ดังก้องไปทั่วห้องเช่าแคบ ๆ
หลายคนถ้าโตมาในสภาพแวดล้อมแบบนี้ อาจเลือกที่จะเกลียดการลงทุนไปตลอดชีวิต
แต่สำหรับคุณ Law Wai-sum ประสบการณ์เหล่านี้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า การลงทุนที่ไร้วินัย และขาดหลักการนั้นอันตรายกว่าที่คิด
และวันนี้เด็กชายจากห้องเช่าเล็ก ๆ คนนั้น ปัจจุบันได้กลายมาเป็นแชมป์ U.S. Investing Championship ปี 2024
การแข่งขันที่เปรียบเหมือนกับ “โอลิมปิกของเทรดเดอร์” ที่มีผู้เข้าชิงชัยหลายร้อยคนจากทั่วโลก ในทุก ๆ ปี
ด้วยผลตอบแทน 353.9% ทำลายสถิติสูงสุดเดิม ของเทรดเดอร์ระดับตำนานอย่างคุณ Mark Minervini ที่เคยทำไว้ในปี 2021 ด้วย
ซึ่งความสำเร็จครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากโชคช่วย แต่มาจาก “กฎเหล็กการลงทุน” ที่เขาสร้างขึ้นมา จากบทเรียนอันเจ็บปวดในอดีต
แล้วกฎเหล็กที่เปลี่ยนชีวิตเด็กห้องเช่าเล็ก ๆ ให้กลายเป็นแชมป์เทรดเดอร์ระดับโลก มีอะไรบ้าง ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
คุณ Law Wai-sum เติบโตมาในครอบครัวยากจนในฮ่องกง ที่อาศัยอยู่ในห้องเช่าเล็ก ๆ ขนาด 45 ตารางเมตร หรือก็คือห้องขนาดประมาณคอนโดมิเนียม 2 ห้องนอน
แต่ครอบครัวของเขาที่มีอยู่แล้ว 5 คน รวมตัวเขาเอง ต้องแชร์ห้องนี้ร่วมกันกับอีก 3 ครอบครัว
ด้วยการใช้แผ่นไม้เก่า ๆ กั้นแบ่งกันเป็นพื้นที่ส่วนตัว ส่วนห้องน้ำรวมก็เต็มไปด้วยแมลงสาบ
ทำให้ตั้งแต่อายุ 15 ปีเขาต้องเริ่มทำงานพาร์ตไทม์ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร รับสอนพิเศษ หรือรับจ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัว
แม้พ่อกับแม่จะทะเลาะกันเรื่องเงินอยู่บ่อย ๆ เพราะพ่อมักจะเอาเงินไปลงทุนแล้วขาดทุนกลับมา ทำให้ครอบครัวมีปัญหาทางการเงิน
แต่เขาก็ยังเลือกเอาเงินเก็บบางส่วนไปลงทุน เพราะหวังลึก ๆ ว่า การลงทุนอาจเป็นทางออก ที่จะทำให้หลุดพ้นจากความยากจนได้
ช่วงแรกของการลงทุน เขาก็ไม่ต่างจากนักลงทุนคนอื่น ๆ ที่มักซื้อขายตามข่าวทำให้ขาดทุนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่หลายปี
แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่อยากประสบความสำเร็จ ทำให้เขาเริ่มหันมาศึกษาการลงทุนอย่างจริงจัง ด้วยการลงเรียน อ่านหนังสือ และทบทวนการเทรดของตัวเองมากขึ้น
ในที่สุดในช่วงตลาดกระทิงปี 2014-2015 เขาสามารถทำกำไรได้หลายล้านดอลลาร์ฮ่องกง
แต่ความสำเร็จที่ได้มาอย่างรวดเร็ว กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความประมาท และความมั่นใจที่มากเกินไป
เพราะในปี 2016 ผ่านไปได้เพียงแค่ปีเดียว เขาขาดทุน จนเกือบหมดตัว หมดแม้กระทั่งเงินเก็บไว้สำหรับแต่งงาน
บทเรียนราคาแพงครั้งนี้จึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เขาต้องหันกลับมาทบทวนการลงทุนของตัวเองใหม่ทั้งหมด
เขาใช้เวลาหลายเดือนในการไล่ย้อนดูการซื้อขายเป็นพัน ๆ ครั้งในอดีต เพื่อหาว่าตัวเองพลาดตรงจุดไหน
สุดท้ายเขาก็พบว่า ความผิดพลาดซ้ำ ๆ ของเขาคือ
“การไม่ยอมตัดขาดทุน”
จากตรงนี้เอง เขาเลยตกผลึกได้ว่า ถ้าอยากอยู่รอดในตลาดให้ได้ สิ่งสำคัญที่เขาต้องทำคือ การบริหารความเสี่ยง
และหลังจากที่ผ่านบทเรียนราคาแพงนี้มาได้ เขาก็เลือกที่จะแบ่งปันประสบการณ์การลงทุนเหล่านี้ ผ่านช่องยูทูบของตัวเอง ชื่อ J Law
แต่ก็มีเสียงค่อนแคะมากมาย และสงสัยว่าเขามีความสามารถ และคุณสมบัติเพียงพอจะสอนใครได้จริงหรือไม่
เพื่อพิสูจน์ตัวเอง เขาจึงตัดสินใจลงแข่งขัน U.S. Investing Championship ปี 2024
ที่จะแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 สนามคือ การแข่งเทรดหุ้นแบบไม่ใช้ Futures และ Options กับการแข่งเทรดหุ้นที่ใช้ Futures และ Options ได้
ซึ่งแต่ละสนาม ก็จะแบ่งอีก 2 ประเภทคือ บัญชีเงินลงทุนเกิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และบัญชีเงินลงทุนน้อยกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยคุณ Law Wai-sum เอง ได้เลือกแข่งในสนามที่ไม่ใช้ Futures และ Options ในประเภทบัญชีลงทุนเกิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
และผลลัพธ์ที่ออกมาก็คือ เขาทำผลตอบแทนได้ 353.9% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ สำหรับการแข่งขันประเภทนี้
ทำลายสถิติเดิม ที่คุณ Mark Minervini ผู้ที่คุณ Law Wai-sum นับถือเป็นอาจารย์ เคยทำไว้ในปี 2021
แต่ความน่าทึ่งยังไม่จบแค่นั้น
เพราะการแข่งขันครั้งนี้ ภรรยาของเขา คุณ Judy Lai เองก็ลงแข่งขันด้วย
และเธอก็ทำผลตอบแทนได้ถึง 449.1% คว้าแชมป์สนามเทรดหุ้นแบบไม่ใช้ Futures และ Options ในประเภทบัญชีต่ำกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐไปครองเช่นกัน
ในปีนี้ คุณ Law Wai-sum ก็ยังเลือกลงแข่งในสนามและประเภทเดิมอีกครั้ง
และเพียง 7 เดือนแรก ก็ทำผลตอบแทนได้ถึง 192.4% ขึ้นนำเป็นอันดับหนึ่งในการแข่งขันตอนนี้
ทั้งหมดนี้ตอกย้ำว่า ความสำเร็จของเขา ไม่ได้เกิดจากโชคช่วย แต่เกิดจากหลักการ และวินัยที่ถูกพิสูจน์แล้วในสนามแข่งจริง
ซึ่งหลักการลงทุนที่เป็นเหมือนกฎเหล็กที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่น สามารถสรุปได้เป็น 3 ข้อหลัก ๆ คือ
- กฎเหล็กข้อที่ 1 การรักษาเงินทุน
ความผิดพลาดครั้งใหญ่ในอดีต ได้สอนคุณ Law Wai-sum ว่า การได้กำไรก้อนใหญ่จะไม่มีค่าอะไรเลย หากไม่สามารถรักษามันเอาไว้ได้
ทำให้ทุกครั้งที่จะตัดสินใจซื้อขาย เขาจะถามตัวเองก่อนเสมอว่า..
เขาพร้อมจะขาดทุนได้มากที่สุดเท่าไร แทนที่จะไปโฟกัสว่า จะทำกำไรได้มากแค่ไหน
โดยการเทรดแต่ละครั้งเขาจะยอมขาดทุนไม่เกิน 0.3-0.5% ของพอร์ต
นั่นหมายความว่า ถ้าเริ่มต้นด้วยเงินทุน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ เขาจะยอมเสียไม่เกิน 500 ดอลลาร์สหรัฐต่อครั้งเท่านั้น
สำหรับเขา การบริหารความเสี่ยงจึงไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นกฎเหล็กที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดในการเทรดแต่ละครั้ง
- กฎเหล็กข้อที่ 2 การรับมือกับช่วงขาดทุน
คุณ Law Wai-sum เข้าใจดีว่า แม้แต่เทรดเดอร์ที่เก่งที่สุด ก็ต้องมีช่วงเวลาที่ทำผลงานออกมาได้ไม่ดี
เขาจึงเตรียมรับมือกับสถานการณ์นี้ไว้ล่วงหน้า นั่นก็คือ เมื่อเริ่มขาดทุนติดต่อกัน และรู้สึกว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นใจ ให้ปิดสถานะการลงทุนทั้งหมดทันที
จากนั้นใช้เวลาทบทวนการเทรดอย่างละเอียด ว่าปัญหาเกิดจากความผิดพลาดของตัวเอง หรือเกิดจากภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวย
และเมื่อกลับมาเทรดอีกครั้ง ให้ลดขนาดความเสี่ยงสูงสุด ต่อการเทรดลงครึ่งหนึ่ง จากเดิมที่เคยยอมเสีย 500 ดอลลาร์สหรัฐต่อครั้ง ก็จะลดลงเหลือเพียง 250 ดอลลาร์สหรัฐ
การทำแบบนี้เปรียบเสมือน “เบรกเกอร์” ที่ทำหน้าที่ตัดวงจรการขาดทุน ไม่ให้อารมณ์มาครอบงำการตัดสินใจจนกลายเป็นหายนะได้
- กฎเหล็กข้อที่ 3 การมีวินัย
คุณ Law Wai-sum เชื่อว่า ความสำเร็จในตลาดหุ้น ไม่ได้มาจากการตัดสินใจที่ดีเพียงครั้งสองครั้ง แต่เกิดจากการทำตามกระบวนการที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ตลาดปิด เขาจะใช้เวลาเตรียมความพร้อม สำหรับการเทรดในสัปดาห์ต่อไปเสมอ
เริ่มจากการทบทวนกราฟหุ้นที่ติดตามอยู่ พร้อมทั้งวิเคราะห์ภาพรวมตลาดช่วงที่ผ่านมา เพื่อมองว่าตอนนี้กลุ่มอุตสาหกรรมไหนแข็งแรงที่สุด
จากนั้นจึงแยกกลุ่มหุ้นออกเป็น หุ้นนำตลาดที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง เพื่อรอโอกาสเข้าซื้อ
ตรงกันข้ามกับหุ้นอ่อนแอในอุตสาหกรรมที่อ่อนแอ เพื่อรอจังหวะขายชอร์ต
ต่อมา เขาจะประเมินภาวะตลาดโดยรวม ว่าตอนนี้ภาพใหญ่กำลังอยู่ในตลาดกระทิงหรือตลาดหมี เพื่อใช้เป็นกรอบกำหนดทิศทางหลักในการเทรด
สุดท้าย จะวางแผนการเทรดอย่างละเอียด ทั้งจุดเข้าซื้อ จุดตัดขาดทุน และเป้าหมายราคาไว้ล่วงหน้าเสมอ
เพราะเขาเชื่อว่า ต่อให้มีหลักการเทรดที่ดีแค่ไหน ถ้าควบคุมตัวเองไม่ได้ก็ไม่มีทางอยู่รอดในตลาดได้
เพราะศัตรูที่แท้จริงไม่ใช่ตลาด แต่คือตัวเราเอง..
นอกจากกฎเหล็ก 3 ข้อสำคัญนี้แล้ว คุณ Law Wai-sum ก็ยังมีกฎการเทรดอีกเป็นพัน ๆ ข้อ ที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์ เพื่อใช้เตือนใจตัวเองอยู่เสมอ
ทั้งหมดนี้จึงสะท้อนให้เห็นว่า ความสำเร็จของเขา ไม่ได้เกิดจากพรสวรรค์ หรือโชคช่วย แต่เกิดจากความมุ่งมั่น วินัย และการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด
และนี่คือเหตุผลที่ทำให้เด็กชายจากห้องเช่าเล็ก ๆ ในฮ่องกง สามารถก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์การลงทุน ที่เทรดเดอร์ทั่วโลกต้องการจะไขว่คว้า มาได้ในที่สุด..
#ลงทุน
#หลักการลงทุน
#เทรดเดอร์
References