
สรุปแบบประกัน จ่ายเบี้ยหลักหมื่น ความคุ้มครอง 10 ล้าน ทางเลือกบริหารความเสี่ยง ที่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จัก
24 ธ.ค. 2025
เวลาพูดถึงประกันชีวิต หลายคนมักเริ่มจากคำถามว่า
“ซื้อแบบไหนดี ?”
แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น คำถามที่ควรถามก่อนคือ
ประกันแบบไหนปิดความเสี่ยงที่เรากังวลอยู่จริง ๆ
เพราะประกันชีวิตแต่ละแบบไม่ได้ต่างกันแค่ชื่อ แต่ต่างกันตั้งแต่เบี้ยที่เราจ่ายไป ว่าถูกแบ่งไปทำอะไรบ้าง
นี่จึงเป็นเหตุผลที่คนสองคน แม้จะอายุเท่ากัน จ่ายเบี้ยใกล้เคียงกัน แต่คนหนึ่งได้ความคุ้มครองหลักแสนบาท อีกคนกลับได้ความคุ้มครองสูงถึงสิบล้านบาท
ซึ่งส่วนต่างความคุ้มครองที่ห่างกันหลายร้อยเท่านี้ เกิดจากการที่ทั้งสองคนเลือกประกันคนละแบบเท่านั้น
แล้วถ้าเราอยากจ่ายเบี้ยถูก แต่ได้ความคุ้มครองสูง ควรซื้อประกันอะไรดี ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
เพื่อให้เข้าใจและเห็นภาพมากขึ้น เรามาลองไล่ดูทีละข้อ
1. โครงสร้างเบี้ยของประกันแต่ละแบบไม่เหมือนกัน
เบี้ยประกันชีวิตที่เราจ่ายไป ถ้าอธิบายแบบเข้าใจง่าย ๆ มักมองได้เป็น 3 ส่วนหลัก
- ส่วนความคุ้มครองชีวิต
- ส่วนเงินออมและการลงทุน
- ส่วนค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย
ความต่างของประกันแต่ละแบบ อยู่ที่สัดส่วนว่าเบี้ยก้อนเดียวกันนั้นถูกแบ่งไปทางไหนมากกว่ากัน
ถ้าเลือกประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เบี้ยส่วนใหญ่จะถูกเทไปที่ส่วนเงินออม โดยบริษัทจะนำเงินส่วนนี้ไปลงทุน แล้วจ่ายเป็นเงินคืนระหว่างสัญญาและตอนครบสัญญา จึงเหลือมาซื้อความคุ้มครองไม่มาก
ส่วนประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ตัวเบี้ยประกันจะให้น้ำหนักความคุ้มครองชีวิต มากกว่าการออม ซึ่งก็จะทำให้ประกันแบบตลอดชีพความคุ้มครองสูงกว่า แต่เบี้ยจะถูกกว่าประกันชีวิตแบบออมทรัพย์
แต่ก็มีแบบประกันอีกแบบหนึ่ง ที่จะให้ความคุ้มครองชีวิตแบบจัดหนักจัดเต็ม โดยที่ไม่ได้แบ่งเบี้ยประกันไปในส่วนของการออมเลย นั่นก็คือ “ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา”
2. ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา จ่ายเบี้ยต่ำแต่ความคุ้มครองสูง
ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา หรือ Term Life Insurance
คือแบบประกันที่ออกแบบมาเพื่อซื้อความคุ้มครองชีวิตอย่างเดียว ถือเป็นการประกันชีวิตที่แท้จริง
หลักคิดของมันตรงไปตรงมาคือ เราจ่ายเบี้ย เพื่อโอนความเสี่ยงก้อนใหญ่ให้บริษัทประกันรับไปแทน
แนวคิดนี้คล้ายกับการทำประกันรถยนต์ ที่เรายอมจ่ายเบี้ยทิ้งปีละหลักหมื่นบาท เพื่อคุ้มครองรถราคาหลักล้านบาท
ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลาก็เหมือนกันเลย
เพียงแต่เปลี่ยนจากคุ้มครองรถยนต์ มาเป็นตัวเราแทน..
จุดเด่นสำคัญคือ เราสามารถเลือกล็อกระยะเวลาความคุ้มครองได้ ทั้ง 1 ปี 5 ปี หรือ 10 ปี เพื่อให้ครอบคลุมช่วงเวลาที่เราแบกภาระ หรือความรับผิดชอบที่หนักที่สุด
โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ ความคุ้มครองชีวิตก้อนใหญ่นี้ จะถูกส่งต่อให้คนข้างหลัง ก็ต่อเมื่อเราจากไปภายในระยะเวลาตามแบบประกันที่เราเลือกไว้เท่านั้น
ประกันแบบนี้จึงเหมาะมากกับคนที่เป็นเสาหลักของครอบครัว ที่กำลังมีภาระ ไม่ว่าจะเป็นช่วงผ่อนบ้าน ผ่อนรถ กู้เงินทำธุรกิจ และที่สำคัญคือต้องเลี้ยงลูกที่ยังเล็ก
หรือถ้าจะพูดง่าย ๆ คือ ประกันแบบนี้เหมาะกับทุกคนที่อยากมีความคุ้มครองสูง ๆ ติดตัวไว้บริหารความเสี่ยงในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ไม่อยากจ่ายเบี้ยแพง
เหมือนกับการซื้อประกันรถ ที่มีไว้แล้วอุ่นใจกว่า..
3. ทางเลือกของคนที่อยากเปลี่ยนเบี้ยหลักหมื่นบาท ให้เป็นความคุ้มครองสิบล้านบาท
จากแนวคิดทั้งหมดก่อนหน้านี้ จะเห็นว่า ถ้าเป้าหมายคือการสร้างหลักประกันทางการเงินให้ครอบครัวในช่วงเวลาสำคัญ
แบบประกันที่ตอบโจทย์ที่สุด มักไม่ใช่แบบที่เน้นการออม แต่เป็นแบบที่ให้วงเงินความคุ้มครองสูง
หนึ่งในนั้นคือ “ประกันชีวิต 10 ล้านให้ลูก”
ซึ่งเป็นประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างหลักประกันก้อนใหญ่ให้ครอบครัวโดยเฉพาะ
ด้วยโครงสร้างแบบประกันที่เป็นความคุ้มครองเพียว ๆ จึงเหมาะมากสำหรับนักลงทุน หรือคนที่บริหารเงินเป็น
เพราะเป็นการแยกบทบาทออกจากกันอย่างชัดเจน
ระหว่างการปิดความเสี่ยงและการลงทุน
ใช้เงินก้อนเล็กซื้อความคุ้มครอง เพื่อปิดความเสี่ยงไว้ ส่วนเงินก้อนใหญ่ที่เหลือก็เก็บไปลงทุนในกองทุน หุ้น หรือธุรกิจที่ถนัดได้อย่างเต็มที่
ลองดูตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพ
คุณ A เป็นผู้หญิง อายุ 30 ปี ต้องการวางแผนอนาคตให้ลูก เพื่อให้มั่นใจว่าหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ลูกจะได้ไม่ลำบาก
จึงสมัครทำ “ประกันชีวิต 10 ล้านให้ลูก”
- ความคุ้มครองชีวิต 10,000,000 บาท
- จ่ายเบี้ยประกันปีละ 21,000 บาท ตลอด 10 ปี
- รับความคุ้มครองต่อเนื่อง 10 ปีเต็ม
เท่ากับว่า หากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นในช่วง 10 ปีนี้ ลูกจะได้รับเงินก้อน 10 ล้านบาททันที
ซึ่งระยะเวลาความคุ้มครอง 10 ปีนี้ ถือเป็นช่วงที่ลงตัวที่สุด ครอบคลุมช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญของชีวิต โดยไม่มากหรือน้อยเกินไป
สำหรับใครที่สนใจอยากมีหลักประกัน 10 ล้านบาทติดตัวไว้ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ที่มีลูก คนที่เป็นเสาหลักของครอบครัว หรือคนที่ต้องการความคุ้มครองสูง ๆ ไว้ให้อุ่นใจ
เงื่อนไขก็เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน
- ทำได้ตั้งแต่อายุ 20-65 ปี
- จ่ายเบี้ยคงที่ตลอด 10 ปี ไม่ปรับเพิ่มตามอายุ
- ระยะเวลาความคุ้มครองชีวิต 10 ปี
สามารถเลือกจ่ายเบี้ยได้ตามสะดวก มีทั้งรายปี ครึ่งปี รายไตรมาส หรือรายเดือน โดยอัตราค่าเบี้ยประกันจะขึ้นอยู่กับอายุ และเพศของแต่ละคน
นอกจากนี้ ความคุ้มค่าอีกต่อหนึ่งก็คือ เบี้ยประกันที่จ่ายไป สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริง สูงสุด 100,000 บาท
ซึ่งเท่ากับว่าเราได้ส่วนลดทางภาษีมาช่วย ทำให้ค่าเบี้ยที่เราจ่ายจริงนั้นถูกลงไปอีก
ทั้งหมดนี้คือ ความน่าสนใจของ “ประกันชีวิต 10 ล้านให้ลูก” ที่ลงทุนแมน PROTECT ได้ร่วมมือกับ TISCO Insure
เพื่อเสนอแผนประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา ที่ตอบโจทย์คนที่ต้องการบริหารความเสี่ยง ด้วยอัตราเบี้ยประกันที่คุ้มค่า ทำให้มีเงินเหลือไปต่อยอดเป้าหมายทางการเงินด้านอื่นได้อย่างสบายใจ