ในตอนนี้ทาง Google ได้มีการเปิดตัว Google Finance (Beta) ซึ่งมี AI เป็นผู้ช่วยของเรา ในการติดตามข่าวสารหุ้นและวิเคราะห์เบื้องต้นได้แล้ว

โดย Features หลัก ๆ ของ Google Finance (Beta) ที่ทาง MONEY LAB ได้ทดลองใช้ดูจะมีอยู่ด้วยกัน 3 อย่างคือ 

1. ติดตามข่าวและความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นแบบ Real Time

ในหน้าแรกเราสามารถดูความเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นหลัก ๆ ในสหรัฐฯ, ยุโรป และเอเชีย รวมไปถึงค่าเงิน, ราคาคริปโทเคอร์เรนซี และตลาดฟิวเจอร์ส รวมถึงสรุปข่าวที่เกิดขึ้นในตลาดได้อีกด้วย

นอกจากนี้เรายังสามารถค้นหาหุ้นรายตัว หรือดัชนีที่สนใจได้ด้วยการกดเครื่องหมาย + ตรง Watchlist หรือจะสร้าง List กลุ่มหุ้นที่ต้องการติดตามของตัวเอง ด้วยการเพิ่ม List ใหม่ และเลือกกลุ่มหุ้นหรือสินทรัพย์ที่ต้องการติดตามได้เลย

2. ให้ AI ช่วยวิเคราะห์หุ้นและข้อมูลทางการเงิน

ตรงนี้เราสามารถพิมพ์คำถาม AI ได้ใน Chatbox ที่ขึ้นอยู่ได้เลย โดยสามารถให้ AI ช่วยวิเคราะห์ Business Model ในเบื้องต้นได้ หรือ วิเคราะห์เปรียบเทียบกับคู่แข่งของธุรกิจนั้น ๆ

หรือใช้ช่วยหาหุ้นที่มีอัตราส่วนทางการเงินที่ต้องการ เช่น หุ้นไทยที่มี Dividend Yield มากกว่า 7% หรือ ช่วยคำนวณตัวเลขการเงินที่ไม่มีในงบการเงิน เช่น Free Cash Flow ได้อีกด้วย

3. เครื่องมือกราฟเทคนิคเบื้องต้น

ตรงนี้เราต้องค้นหาชื่อหุ้นหรือสินทรัพย์ที่ต้องการมาก่อน จากนั้นเราก็จะเจอกับกราฟราคาหุ้นที่มี Technical Indicator ให้เลือก โดยในตอนนี้มีอยู่ 3 อย่างก็คือ

- Simple Moving Average ค่าเฉลี่ยของราคาปิดย้อนหลังที่ช่วยให้เราดูแนวโน้มหุ้นได้

- MACD ที่เป็นการดูการเคลื่อนไหวของเส้น EMA (Exponential Moving Average) 2 เส้น เพื่อดู Momentum ของหุ้น

- ENV ที่จะสร้างเส้นขอบบนขอบล่างรอบ ๆ Moving Average ตามเปอร์เซ็นต์ที่กำหนดไว้ เพื่อดูว่าหุ้นอยู่ในภาวะที่มีการซื้อหรือขายที่มากเกินไปหรือไม่

นอกจากนี้ยังสามารถเทียบการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นหรือสินทรัพย์ ได้สูงสุดถึง 5 ตัว ด้วยการกดปุ่ม Compare และเลือกรายชื่อหุ้นที่ต้องการเปรียบเทียบได้เลย

อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนรูปแบบกราฟที่แสดงราคาได้ทั้งแบบกราฟเส้น, กราฟแท่งเทียน, กราฟพื้นที่ และกราฟแท่งได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ด้วยชื่อที่บอกว่า Beta ก็หมายความว่าในตอนนี้ยังเป็นเวอร์ชันทดสอบอยู่ ทำให้หลังจากนี้อาจจะมี Features หรือเครื่องมืออื่น ๆ มาให้นักลงทุนอย่างเราได้ใช้อีกในอนาคต

แต่สุดท้ายแล้ว แม้ว่าเราจะมีเทคโนโลยี AI มาใช้วิเคราะห์และทำการบ้านหุ้นได้อย่างรวดเร็วขึ้น แต่ก็อย่าลืมว่าสุดท้ายการทำความเข้าใจหุ้นด้วยตัวเองอย่างลึกซึ้ง รวมถึง Double Check ความถูกต้อง 

ก็ย่อมจะทำให้การลงทุนของเราปลอดภัยมากขึ้น และได้ลับคมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นหัวใจหลักของนักลงทุนให้ดีขึ้นเช่นกัน..