โลเค็งฮง Warren Buffett แห่งอินโดนีเซีย เจ้าของพอร์ตการลงทุน 4,000 ล้านบาท

โลเค็งฮง Warren Buffett แห่งอินโดนีเซีย เจ้าของพอร์ตการลงทุน 4,000 ล้านบาท

16 ก.ค. 2025
อยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ สุดแออัดที่โดนน้ำท่วมบ่อย ๆ แถมงานที่ทำมา 11 ปี ก็ไม่ได้เลื่อนขั้นหรือขึ้นเงินเดือนแม้แต่ครั้งเดียว 
ถ้าเรากดปุ่มหยุดไว้แค่ตรงนี้ หลายคนคงมองว่า ปลายทางของเขา คงจะไปจบที่การเป็นผู้สูงอายุธรรมดา ๆ ที่ไม่มีความมั่งคั่งอะไรเป็นชิ้นเป็นอันติดตัว
แต่ชีวิตแบบนี้เอง คือสิ่งที่ทำให้ “คุณโลเค็งฮง” (Lo Kheng Hong) ฝันว่าการลงทุนจะนำพาให้ชีวิตของเขาดีขึ้นกว่านี้ 
ซึ่งในปัจจุบัน เขาได้รับฉายาว่าเป็น Warren Buffett แห่งอินโดนีเซีย และเป็นเจ้าของพอร์ตการลงทุน 4,280 ล้านบาท 
แล้วถ้าหากสงสัยว่า คุณโลเค็งฮง มีหลักการลงทุนอย่างไร ถึงสามารถสร้างผลตอบแทนได้มากมายขนาดนี้ ? 
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
“ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย” คือคำที่คุณโลเค็งฮง น่าจะเห็นด้วยเป็นอย่างมาก เพราะตอนที่เขาทำงานเป็นพนักงานธุรการที่ Overseas Express Bank หรือ OEB 
แม้จะทำอยู่นานถึง 11 ปี และแบ่งเวลาไปเรียนปริญญาตรีภาคค่ำ เพื่ออัปเกรดวุฒิการศึกษาในสาขาภาษาอังกฤษ ก็ไม่ช่วยให้เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่ง หรือขึ้นเงินเดือนแต่อย่างใด
ทำให้คุณโลเค็งฮง ผู้คุ้นเคยกับศัพท์ทางการเงินที่ใช้ในการลงทุน ผ่านการอ่านเอกสารทางการเงินต่าง ๆ มาเป็นเวลากว่า 11 ปี 
มองว่าการลงทุนในตลาดหุ้น จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เขามองว่าจะพาตัวเองหลุดพ้นจากสภาพที่เป็นอยู่ 
โดยการลงทุนครั้งแรกของเขา คือการลงทุนซื้อหุ้น IPO ยอดนิยมตัวหนึ่ง แต่ด้วยความอ่อนประสบการณ์ก็ทำให้เจอกับการขาดทุน
แต่หลังจากนั้น ด้วยสภาพตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นบวกกับความรู้การลงทุนที่เพิ่มพูน พอร์ตการลงทุนของคุณโลเค็งฮงก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ 
อีกทั้งการย้ายออกจากที่ทำงานเดิม ไปทำงานกับธนาคารอีกแห่งอย่าง Bank Ekonomi ซึ่งไม่กี่ปีเขาก็กลายเป็นหัวหน้าสาขา ทำให้เขาเก็บเงินได้มากขึ้น จากเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น
คุณโลเค็งฮง ผู้มีทั้งความรู้และเงินทุน ค่อนข้างมั่นใจในฝีมือตัวเอง จึงเลือกลาออกมาเป็นนักลงทุนเต็มตัวในปี 1996 หลังจากทำงานได้ 6 ปี
แต่อีกแค่ปีเดียวหลังจากนั้น คุณโลเค็งฮงก็พบกับบททดสอบที่ใหญ่ที่สุด นั่นก็คือ วิกฤติต้มยำกุ้ง ที่ดัชนีตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ร่วงลงไปถึง 60% ในเวลาเพียงแค่ปีนิด ๆ เท่านั้น 
นักลงทุนอย่างคุณโลเค็งฮงเองก็ไม่รอด เพราะพอร์ตหุ้นของเขาก็ขาดทุนไปถึง 85% 
ทว่าสุดท้ายแล้ว ด้วยหลักการลงทุนของเขาเอง ก็ทำให้เขาไม่เพียงกลับมาได้ แต่ยังสร้างผลตอบแทนได้อย่างงดงาม
เพราะเมื่อวัดตั้งแต่ปี 1998 ถึงปี 2022 เขาทำผลตอบแทนได้เฉลี่ยถึงปีละ 35.3% ซึ่งชนะผลตอบแทนเฉลี่ยของดัชนีตลาดหุ้นอินโดนีเซียในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งอยู่ที่ 12.6% อย่างขาดลอย
โดยหลักการลงทุนของเขาก็ประกอบไปด้วย
1. รักในการอ่าน 
มีสำนวนจีนกล่าวไว้ว่า “หนังสือมีบ้านทองคำอยู่ภายใน” ที่ย้ำเตือนถึงความสำคัญของการสั่งสมความรู้ อันสามารถนำไปสู่หนทางแห่งความมั่งคั่ง
ซึ่งสำหรับคุณโลเค็งฮงแล้ว นอกจากเขาจะค้นพบความมั่งคั่ง จากการอ่านหนังสือลงทุนของคุณ Warren Buffett เพื่อซึมซับแนวคิดทางการลงทุน ที่เขาจะใช้ไปตลอดชีวิตแล้ว 
การอ่านงบการเงินอย่างละเอียด ยังทำให้เขาค้นพบโอกาสการลงทุนที่จะเปลี่ยนชีวิตของเขาอย่าง PT United Tractors Tbk หรือ UNTR บริษัทผลิตรถแทรกเตอร์ ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจ เมื่อกลางปี 1998
เพราะเขาเห็นว่า แม้ส่วนกำไรสุทธิ ในงบกำไรขาดทุนของบริษัท จะแสดงการขาดทุนหนัก แต่กลับเป็นการขาดทุนทางบัญชีเท่านั้น 
ด้วยเงินรูเปียอินโดนีเซียที่ตอนนั้นอ่อนค่ามาก จนบริษัทซึ่งมีหนี้สินเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ มีผลขาดทุนมหาศาลจากค่าเงินที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง แถมเขายังมองว่าการขาดทุนนี้ เป็นเพียงแค่เรื่องชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น 
ในขณะที่กำไรจากการดำเนินงาน ซึ่งเป็นกำไรจากการทำธุรกิจจริง ๆ กลับเติบโตจากปีก่อนถึง 200% แม้จะอยู่ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจ 
เขาจึงเข้าซื้อไปในราคา 250 รูเปีย ก่อนที่จะขายไปในปี 2005 ที่ราคา 15,000 รูเปีย ซึ่งทำให้เขาได้กำไรกลับมามากถึง 5,900%
2. ตรวจสอบผู้บริหารก่อนลงทุนเสมอ
คุณโลเค็งฮงให้ความสำคัญกับผู้บริหาร ไม่แพ้ตัวเลขในงบการเงินเลย เพราะสิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจลงทุนกับ UNTR ไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลขการเงินเท่านั้น แต่เป็นเพราะเขามองว่า บริษัทแห่งนี้มีผู้บริหารที่ดี และมีธรรมาภิบาลด้วย 
ซึ่งคุณโลเค็งฮง ก็เคยได้รับบทเรียนจากการไม่ได้ตรวจสอบผู้บริหารก่อน จากการเข้าซื้อหุ้นของบริษัทแห่งหนึ่งที่ราคาปรับตัวลงมาถึง 90% แล้ว แต่เมื่อเขาเข้าซื้อก็กลับลงต่อไปได้อีก จนขาดทุนหนักมาก เพราะมีผู้บริหารที่ฉ้อโกง 
คุณโลเค็งฮงจึงเน้นย้ำเสมอว่า การตรวจสอบผู้บริหารนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ซึ่งวิธีการตรวจสอบผู้บริหารของเขาก็คือการเช็กประวัติจากข่าวต่าง ๆ หรือดูผลงานในอดีต ว่าเคยทำอะไรที่เอาเปรียบผู้ถือหุ้นไหม 
นอกจากนี้เขายังสืบหาข้อมูลผู้บริหารของบริษัทนั้น ๆ ผ่านการคุยกับทั้งคู่แข่ง, ซัปพลายเออร์, ลูกค้า หรือแม้แต่พนักงานอีกด้วย 
ซึ่งก็คล้าย ๆ กับหลักการ Scuttlebutt ของนักลงทุนชื่อดังอย่างคุณ Philip Fisher 
3. ลงทุนในบริษัทที่ดีในอุตสาหกรรมที่เติบโต
คำว่าบริษัทที่ดีของคุณโลเค็งฮง ก็คือบริษัทที่มีกำไรและการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่บางปีเติบโตเร็ว บางปีเติบโตช้า หรือบางปีก็พลิกจากกำไรไปเป็นขาดทุน 
และยังต้องมีตัวเลข ROE และอัตรากำไร ที่สูงกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าบริษัทนี้ทำธุรกิจได้เก่ง และสามารถสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นได้มาก
โดยเขาจะมองหาบริษัทแบบนี้ ในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต อย่างเช่น อสังหาริมทรัพย์, สินค้าโภคภัณฑ์, ธนาคาร และการแพทย์ เป็นต้น 
4. หาซื้อซูเปอร์คาร์ในราคารถสามล้อ 
นี่คือคำพูดติดปากของคุณโลเค็งฮง ที่สะท้อนหนึ่งในหลักการลงทุนของเขา เพราะว่าหุ้นแต่ละตัวที่เขาซื้อนั้น จะมีอัตราส่วน P/E ไม่เกิน 15 เท่า และอัตราส่วน P/BV ไม่เกิน 20 เท่า
โดยเขาเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ในโลกความเป็นจริงคงไม่มีใครมาขายของดี ๆ ให้เราในราคาถูก แต่ในตลาดหุ้น เรื่องแบบนี้กลับเกิดขึ้นอยู่เสมอ 
สิ่งที่เขาต้องทำก็มีเพียงแค่หาโอกาสเหล่านี้ให้เจอ เข้าซื้อในสัดส่วนที่เหมาะสม และอดทนรอให้ราคาหุ้นกลับไปสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงเท่านั้นเอง 
จากทั้งหมดนี้เองก็จะเห็นได้ว่า หลักการลงทุนของเซียนหุ้นมากฝีมือจากประเทศเพื่อนบ้านของเรานั้น แม้จะเรียบง่ายแต่ถ้าอยากจะใช้งานให้มีประสิทธิภาพ
ก็ต้องอาศัยวินัย และความอดทน ในการทำตามหลักการ รวมไปถึงการขยันเพิ่มพูนความรู้ของเราเองอยู่เรื่อย ๆ ผ่านทั้งการอ่านแนวคิดของนักลงทุนเก่ง ๆ และงบการเงินของบริษัทที่ดีอยู่เสมอ 
เพื่อที่เราจะได้เจอขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในตลาดหุ้น เหมือนกับที่คุณโลเค็งฮง สามารถหาซื้อรถซูเปอร์คาร์ในราคารถสามล้อได้เสมอ ตลอดระยะเวลาเกือบ 40 ปีที่เขาลงทุน.. 
#ลงทุน
#หลักการลงทุน
#หุ้นอินโดนีเซีย
References 
-LAUNCHING BUKU BIOGRAFI LO KHENG HONG & 101 LKH WISDOM - MY MAGICAL JOURNEY 23 APRIL 2022
© 2025 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.