กลยุทธ์ ไมเนอร์ฯ ขายโรงแรมออก แล้วรับจ้างบริหารแทน เพิ่มสภาพคล่อง

กลยุทธ์ ไมเนอร์ฯ ขายโรงแรมออก แล้วรับจ้างบริหารแทน เพิ่มสภาพคล่อง

13 ก.พ. 2024
กลยุทธ์ ไมเนอร์ฯ ขายโรงแรมออก แล้วรับจ้างบริหารแทน เพิ่มสภาพคล่อง | MONEY LAB
ทุกวันนี้เราได้เห็นหลายบริษัทต้องเจอกับปัญหาสภาพคล่อง และเมื่อบริษัทขาดสภาพคล่อง ก็มักเลือกที่จะกู้เงิน หรือไม่ก็ขายสินทรัพย์ออกมา
แม้แต่บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT อาณาจักรโรงแรมแสนล้านบาท ก็เคยเจอกับปัญหานี้เช่นกัน ในช่วงที่ทั่วโลกเผชิญกับมาตรการล็อกดาวน์ที่ผ่านมา
แต่รู้หรือไม่ว่า MINT ได้เลือกใช้ “กลยุทธ์การหมุนเวียนสินทรัพย์” หรือ Asset-Rotation Strategy เพื่อมาเพิ่มสภาพคล่อง
กลยุทธ์การหมุนเวียนสินทรัพย์ ของ MINT คืออะไร ?
MONEY LAB จะเล่าเรื่องการเงิน ที่โรงเรียนไม่เคยสอน ให้เข้าใจ
ก่อนอื่นเรามาดู โครงสร้างรายได้ของ MINT ช่วงปี 2562 หรือก่อนที่จะเกิดวิกฤติโรคระบาดกันก่อน
ธุรกิจโรงแรม 76%ธุรกิจร้านอาหาร 20%ธุรกิจไลฟ์สไตล์ 4%
จะเห็นว่า ธุรกิจโรงแรมคือ เส้นเลือดใหญ่ของ MINT เพราะมีสัดส่วนรายได้สูงที่สุด
ซึ่งปกติแล้ว ธุรกิจดังกล่าวใช้เงินลงทุนสูง มีระยะเวลาคืนทุนนาน และมีต้นทุนคงที่สูง
ด้วยเหตุนี้ หากบริษัทมีรายได้ลดลง ก็อาจขาดทุนมหาศาล เพราะต้นทุนคงที่ที่สูง เช่น ค่าเช่า ค่าพนักงาน และค่าเสื่อมราคา จะไม่ลดลงตามรายได้
ดังนั้น เมื่อเกิดวิกฤติโรคระบาดขึ้น MINT จึงประสบปัญหา เนื่องจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางของคนหยุดชะงักไป เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้า ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
โดยรายได้และกำไรสุทธิในช่วงก่อนล็อกดาวน์และช่วงล็อกดาวน์คือ
ก่อนล็อกดาวน์
ปี 2561
รายได้ 174,938 ล้านบาท กำไร 5,445 ล้านบาทปี 2562
รายได้ 119,023 ล้านบาท กำไร 10,698 ล้านบาท
ช่วงล็อกดาวน์
ปี 2563
รายได้ 56,531 ล้านบาท ขาดทุน 21,407 ล้านบาทปี 2564
รายได้ 69,482 ล้านบาท ขาดทุน 13,167 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่า หลังรัฐบาลหลายแห่งทั่วโลก เริ่มใช้มาตรการล็อกดาวน์ในปี 2563 MINT พลิกมาขาดทุนเป็นระดับหมื่นล้านบาท
การที่ขาดทุนต่อเนื่อง ก็จะทำให้บริษัทมีความเสี่ยงเงินสดขาดมือ ในขณะที่ ในช่วงเวลานั้นเอง ทางบริษัทก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดจะดำเนินต่อไปอีกนานแค่ไหน
ด้วยเหตุนี้ MINT จึงเลือกใช้ กลยุทธ์การหมุนเวียนสินทรัพย์ เพื่อแก้ไขปัญหาในจุดนี้
ซึ่งถ้าหากจะให้สรุปกลยุทธ์นี้แบบเข้าใจง่าย ๆ ก็คือ การขายสินทรัพย์อย่างโรงแรมบางแห่งออกไป และเช่ากลับ หรือรับจ้างบริหารต่อ
ซึ่งทาง MINT มองว่า กลยุทธ์นี้จะช่วยให้บริษัทสามารถลดต้นทุน และทำให้อัตรากำไรดีขึ้นในแต่ละปี เพราะบริษัทไม่จำเป็นต้องนำค่าเสื่อมจากสินทรัพย์ มาตัดรายได้
นอกจากนี้ ยังมีรายได้และกำไรเข้ามา จากการบริหารและการขายสินทรัพย์ ในขณะที่ยังสามารถขยายแบรนด์ ได้อีกด้วย
โดย MINT ได้ขายโรงแรม 2 แห่ง เครือ Tivoli ในโปรตุเกส ทำให้ได้รับเงินสด 5,700 ล้านบาท
หลังจากที่ขายแล้ว บริษัทย่อยของ MINT อย่าง NH HOTEL ก็ได้รับสิทธิ์ให้เข้ามาบริหารโรงแรมดังกล่าว ภายใต้สัญญาเช่าในระยะเวลา 20-30 ปี
นอกจากนี้ MINT ได้ขายโรงแรมเอ็นเอช คอลเลคชั่น บาร์เซโลนา แกรนด์ โฮเทล กัลเดรอน ที่ประเทศสเปน ได้รับเงินสด 4,800 ล้านบาท
หลังจากนั้น ก็ได้ทำสัญญาเช่ากลับอายุ 20 ปี
ที่สามารถขยายสัญญาได้สูงสุดถึง 60 ปี
โดยการใช้กลยุทธ์นี้ ก็คล้ายกับ การขายสินทรัพย์ เข้ากอง REIT เพื่อให้บริษัทได้รับเงินสด และยังสามารถมีสิทธิ์ในการบริหารโรงแรมในเครือของตัวเองต่อ
ซึ่งการใช้กลยุทธ์การหมุนเวียนสินทรัพย์ กับโรงแรมบางแห่งในเครือนี้เอง ประกอบกับปัจจัยใหญ่ ๆ เช่น ทั่วโลกเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ก็น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บริษัทสามารถฟื้นตัวได้ในปี 2565
ถึงตรงนี้ ก็ต้องบอกว่า ไม่ว่าธุรกิจจะอยู่ในอุตสาหกรรมที่ดีขนาดไหน ก็สามารถเจอกับอุปสรรค และสิ่งที่ไม่คาดคิดได้ตลอดเวลา
แต่หากเราบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ไปตามอุปสรรคระหว่างทางได้
ธุรกิจก็จะสามารถกลับมาเดินหน้าต่อไปได้อย่างราบรื่น..
References
-https://www.facebook.com/dbsthailand/photos/a.402364810376771/419766791969906/?type=3
-https://hoonsmart.com/archives/198901
-https://www.asiaplus.co.th/asps/research_file.php?id=57112&file=1
-งบการเงินบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)
© 2024 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.