เจาะลึก 6 สิ่งที่ควรดู ในงบการเงิน MR. D.I.Y. ที่กำลังจะ IPO

เจาะลึก 6 สิ่งที่ควรดู ในงบการเงิน MR. D.I.Y. ที่กำลังจะ IPO

20 ต.ค. 2025
ในอีกไม่นานนี้ บริษัท MR. D.I.Y. เจ้าของร้านแต่งบ้านราคาถูกชื่อดัง กำลังจะเข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นไทยแล้ว
หากเราเดินไปตามห้างสรรพสินค้าหลาย ๆ แห่ง ก็เชื่อว่าเราน่าจะเริ่มเห็นร้าน MR. D.I.Y. กันบ่อยขึ้น เพราะบริษัทมีการขยายสาขามาอย่างต่อเนื่อง ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ 
แต่นอกจากความน่าสนใจจากการที่ MR. D.I.Y. สามารถขยายสาขาได้อย่างรวดเร็วแบบนี้ แล้วในด้านตัวเลขในงบการเงินของบริษัท มีอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
เราจะวิเคราะห์งบการเงินของ MR. D.I.Y. ออกมาเป็น 6 ข้อด้วยกัน
1. การเติบโตของรายได้และกำไร
MR. D.I.Y. มีผลประกอบการที่เติบโตขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ปี 2565 รายได้ 9,941 ล้านบาท กำไร 1,051 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 12,832 ล้านบาท กำไร 1,381 ล้านบาท
ปี 2567 รายได้ 16,214 ล้านบาท กำไร 1,780 ล้านบาท
และล่าสุดคือ ครึ่งแรกของปี 2568 รายได้ 9,470 ล้านบาท กำไร 1,176 ล้านบาท
2. อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin)
ไว้ใช้ดูว่า บริษัทมีความสามารถในการควบคุมต้นทุนการผลิตสินค้าดีแค่ไหน ถ้าอัตรากำไรขั้นต้นสูงอย่างสม่ำเสมอ แสดงว่าบริษัทสามารถควบคุมต้นทุนได้ดี
คำนวณหาโดย
[(รายได้จากการขาย - ต้นทุนการขาย) / รายได้] x 100
ที่ผ่านมา MR. D.I.Y. มีอัตรากำไรขั้นต้นย้อนหลัง ดังนี้
ปี 2565 มี GPM เท่ากับ 45.84%
ปี 2566 มี GPM เท่ากับ 48.46%
ปี 2567 มี GPM เท่ากับ 49.70%
และล่าสุดคือ ครึ่งแรกของปี 2568 มี GPM เท่ากับ 51.55%
3. อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin)
ไว้ใช้ดูว่า เมื่อนำรายได้มาหักกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดทั้งสิ้นแล้ว จะเหลือเงินถึงมือเจ้าของบริษัท เป็นสัดส่วนมากน้อยแค่ไหน
คำนวณหาโดย
(กำไรสุทธิ / รายได้รวม) x 100
ปี 2565 มี NPM เท่ากับ 10.57%
ปี 2566 มี NPM เท่ากับ 10.76%
ปี 2567 มี NPM เท่ากับ 10.98%
และล่าสุดคือ ครึ่งแรกของปี 2568 มี NPM เท่ากับ 12.42%
4. อัตราส่วน IBD/E Ratio
ในการวิเคราะห์หนี้สินของธุรกิจประเภทร้านค้าปลีกอย่าง MR. D.I.Y. เราไม่ควรดูแค่ D/E Ratio เพราะหนี้สินส่วนใหญ่ของธุรกิจค้าปลีก มักจะเป็นเจ้าหนี้การค้า
ดังนั้น เราจึงควรวิเคราะห์ด้วย IBD/E Ratio แทน
IBD/E Ratio ก็คือ อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น
คำนวณหาโดย
หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย / ส่วนของผู้ถือหุ้น
ปี 2565 มี IBD/E Ratio เท่ากับ 0.25 เท่า
ปี 2566 มี IBD/E Ratio เท่ากับ 0.85 เท่า
ปี 2567 มี IBD/E Ratio เท่ากับ 0.55 เท่า
และล่าสุดคือ ครึ่งแรกของปี 2568 มี IBD/E Ratio เท่ากับ 0.37 เท่า
ซึ่งการที่ MR. D.I.Y. มี IBD/E Ratio อยู่ต่ำกว่า 1 เท่ามาตลอด หมายความว่าบริษัทยังถือว่ามีหนี้สินน้อย
5. กระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow)
กระแสเงินสดอิสระ หรือ Free Cash Flow ก็คือ เงินสดที่บริษัทเหลืออยู่ หลังจากหักค่าใช้จ่ายในการลงทุนทำธุรกิจไปหมดแล้ว
เงินส่วนนี้ บริษัทสามารถนำไปจ่ายคืนเงินกู้เจ้าหนี้ หรือจ่ายเงินปันผลหรือซื้อหุ้นคืนก็ได้
บริษัทที่มีกระแสเงินสดอิสระเป็นบวก และมากขึ้น ๆ ทุกปี ก็เปรียบเสมือนเป็นเครื่องจักรผลิตเงินสดให้กับเจ้าของบริษัทนั่นเอง
กระแสเงินสดอิสระ คำนวณหาโดย
เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการดำเนินงาน - รายจ่ายเพื่อการลงทุน
ปี 2565 มีกระแสเงินสดอิสระ เท่ากับ 904 ล้านบาท
ปี 2566 มีกระแสเงินสดอิสระ เท่ากับ 1,644 ล้านบาท
ปี 2567 มีกระแสเงินสดอิสระ เท่ากับ 2,034 ล้านบาท
แต่ยังไม่จบอยู่แค่นั้น เพราะเราสามารถ นำกระแสเงินสดอิสระมาเปรียบเทียบกับรายได้รวมของบริษัทได้ด้วย
ที่ทำแบบนี้ ก็เพื่อจะดูว่า สุดท้ายแล้ว จากรายได้ที่บริษัททำได้ จะกลายมาเป็นกระแสเงินสดที่คงเหลือจริง ๆ เท่าไร
โดยเราจะนำ
(กระแสเงินสดอิสระ / รายได้รวม) x 100
ปี 2565 กระแสเงินสดอิสระต่อรายได้รวม 9.09%
ปี 2566 กระแสเงินสดอิสระต่อรายได้รวม 12.81%
ปี 2567 กระแสเงินสดอิสระต่อรายได้รวม 12.55%
6. CFROI
และสุดท้ายเราจะวิเคราะห์ว่า ธุรกิจอย่าง MR. D.I.Y. สามารถสร้างผลตอบแทนในรูปของกระแสเงินสด กลับมาได้คุ้มค่าเงินที่ลงทุนไปมากแค่ไหน
โดยเราจะใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Cash Flow Return on Investment ซึ่งมีวิธีในการคำนวณหาจาก
เงินสดสุทธิจากกิจกรรมการดำเนินงาน / Invested Capital
ปี 2565 มี CFROI เท่ากับ 46.74%
ปี 2566 มี CFROI เท่ากับ 53.02%
ปี 2567 มี CFROI เท่ากับ 49.47%
ที่ผ่านมา MR. D.I.Y. มี CFROI มากกว่า 15% มาโดยตลอด ถือว่าบริษัทสามารถนำเงินไปลงทุนทำธุรกิจ ได้ผลตอบแทนกลับคืนมาคุ้มค่าเป็นอย่างมาก
ถึงตรงนี้ ก็เชื่อว่า เราคงพอเห็นภาพของธุรกิจ MR. D.I.Y. ผ่านมุมมองตัวเลขทางการเงินกันดีขึ้นแล้ว
กล่าวโดยสรุปก็คือ จากการวิเคราะห์ตัวเลขทางการเงินของบริษัท เราก็น่าจะพอบอกได้ว่า บริษัทนี้ที่ผ่านมามี
- รายได้และกำไร เติบโตดี
- อัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ
- มีหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยน้อย
- สร้างผลตอบแทนต่อเงินลงทุน ได้คุ้มค่า
- และเป็นเครื่องจักรผลิตเงินสด
อย่างไรก็ตาม การลงทุนเราไม่ควรดูแค่ตัวเลขทางการเงินเท่านั้น เพราะยังมีปัจจัยเชิงคุณภาพอีกมากมาย ที่ไม่ได้มีบอกไว้ในงบการเงิน 
อย่างเช่น สภาพการแข่งขันในตลาดที่ MR. D.I.Y. กำลังทำธุรกิจอยู่เอง ก็ดุเดือดอยู่ไม่ใช่น้อย   
และนอกจากนี้ ก็ไม่มีใครรู้ได้อีกด้วยว่า จำนวนสาขาที่เปิดใหม่ต่อ ๆ ไปจะยังสามารถผลักดันให้ MR. D.I.Y. เติบโตต่อไปได้อีกหรือเปล่า..
หมายเหตุ : บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาชี้นำให้ซื้อหรือขายหุ้นเหล่านี้ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน ก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
References
- งบการเงินปี 2565-2567 บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
- หนังสือชี้ชวน บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
© 2025 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.