กองทุนรวมหุ้น VS หุ้นรายตัว ลงทุนแบบไหน เหมาะกับเรา

กองทุนรวมหุ้น VS หุ้นรายตัว ลงทุนแบบไหน เหมาะกับเรา

7 ก.ย. 2023
กองทุนรวมหุ้น VS หุ้นรายตัว ลงทุนแบบไหน เหมาะกับเรา | MONEY LAB
เมื่อเริ่มต้นลงทุน หลายคนก็มักจะมีคำถามว่า ลงทุนในกองทุนรวม ที่มีหุ้นหลายตัวรวมกัน หรือลงทุนหุ้นรายตัวไปเลย แบบไหนจะดีกว่ากัน
แต่อันที่จริงแล้ว ไม่มีการลงทุนไหนที่จะ “ดีกว่า” การลงทุนอีกแบบหนึ่ง เพราะทรัพย์สินแต่ละอย่างก็จะมีข้อดีและข้อเสีย แตกต่างกันไป
เพราะฉะนั้น หน้าที่ของเราจึงไม่ใช่การมองหา การลงทุนที่ดีที่สุด แต่เป็นการลงทุน ที่เหมาะกับเรามากที่สุดนั่นเอง
แล้วแต่ละตัวเลือกการลงทุน เหมาะกับใคร ?
MONEY LAB จะเล่าเรื่องการเงิน ที่โรงเรียนไม่เคยสอนให้เข้าใจ
สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึง ก่อนที่จะลงทุนในอะไรก็ตาม คือเราต้องรู้ก่อนว่า สิ่งที่เราจะเข้าไปลงทุนมีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง
เริ่มจากข้อดีและข้อเสีย ของการลงทุนในกองทุนรวมกันก่อน
ข้อดีของการลงทุนในกองทุนรวมคือ เราไม่ต้องปวดหัวกับการมานั่งอ่านงบการเงิน ของบริษัทที่เราสนใจ เพราะกองทุนรวมนั้น จะมีทีมผู้จัดการกองทุนคอยวิเคราะห์ และตัดสินใจลงทุนแทนเรา
ซึ่งผู้จัดการกองทุนมักจะมีทรัพยากรในการวิเคราะห์ข้อมูลมากกว่านักลงทุนรายย่อย
ดังนั้นการลงทุนในกองทุนรวม จึงเหมาะกับนักลงทุนที่อาจจะไม่ได้มีเวลามากพอในการวิเคราะห์ และตัดสินใจเรื่องการลงทุนด้วยตัวเอง
รวมถึงนักลงทุนที่เพิ่งเริ่มต้นลงทุน และไม่มีความรู้มากพอที่จะตัดสินใจลงทุนด้วยตัวเองได้
นอกจากนี้ ความเสี่ยงของกองทุน ยังน้อยกว่าการลงทุนหุ้นรายตัวอีกด้วย เพราะหุ้นรายตัวนั้น เป็นการลงทุนกับบริษัทหนึ่งแห่ง ทำให้ถ้าหากบริษัทนั้นล้มละลายไป ก็จะทำให้เรารับการขาดทุนไปเต็ม ๆ
แต่ถ้าเป็นการลงทุนกับกองทุนรวม ที่กระจายการลงทุน ไปยังหลาย ๆ บริษัททั่วทั้งตลาด หรือทั่วทั้งกลุ่มธุรกิจ ก็จะทำให้เวลาที่มีบริษัทหนึ่งเกิดปัญหา ผลกระทบที่จะมาถึงเรา ก็จะมีไม่มากนัก
แต่กองทุนรวมก็ยังมีข้อเสียคือ ผลตอบแทนของกองทุนรวม จะขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้จัดการกองทุน
ทำให้หากผู้จัดการกองทุนที่เก่ง ๆ ลาออกไป กองทุนก็อาจทำผลตอบแทนได้น้อยลง ถ้าหากไม่ได้ผู้จัดการกองทุนที่มีฝีมือพอ ๆ กันมาทดแทน
นอกจากนี้ กองทุนยังมีข้อจำกัดในการลงทุน เนื่องจากกองทุน มักจะมีนโยบายการลงทุน และการควบคุมความเสี่ยงที่เคร่งครัด
ทำให้การหวังจะทำผลตอบแทนให้ชนะตลาด เป็นเรื่องที่ยากกว่าการลงทุนเอง เพราะกองทุนมักจะลงทุนได้แค่ หุ้นใหญ่ ๆ หรือหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง
ทีนี้มาดูข้อดีและข้อเสีย ของการลงทุนในหุ้นรายตัวกันบ้าง
ข้อดีของการลงทุนในหุ้นรายตัวคือ เราสามารถมีอิสระในการจัดพอร์ตด้วยตัวเอง
ถ้าเราลองสังเกตดูจะพบว่า กองทุนส่วนใหญ่มักจะถือหุ้นรายตัวไม่เกิน 10% เพราะต้องจำกัดความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด
แต่สำหรับนักลงทุนรายย่อยบางคน ก็พร้อมที่จะรับความเสี่ยงมากกว่านั้น เพื่อให้มีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่า
หรือว่าบางทีเราอาจมีธุรกิจไหน ที่ชื่นชอบมากเป็นพิเศษ และอยากลงทุนให้มากกว่านั้น การลงทุนในกองทุนรวม ก็จะไม่ตอบโจทย์รูปแบบการลงทุนแบบนี้
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในหุ้นก็มีข้อเสียคือ เราต้องวิเคราะห์ และตัดสินใจลงทุนด้วยตัวเอง จึงเหมาะกับคนที่มีเวลามานั่งวิเคราะห์เจาะลึก กับหุ้นทีละตัว
นอกจากนี้การลงทุนในหุ้น ยังมีความผันผวนสูงกว่าการลงทุนในกองทุนรวม นักลงทุนที่ลงทุนในหุ้นรายตัว จึงต้องเป็นคนที่ทนรับความเสี่ยงได้สูง
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า กองทุนรวม หรือหุ้น ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะเหมาะกับหุ้นมากกว่า แต่บางคนก็อาจจะเหมาะกับกองทุนมากกว่า
หรือบางคนก็อาจจะลงทุนแบบผสม คือลงทุนทั้งกองทุนรวม และหุ้นไปพร้อม ๆ กัน
เช่น ถ้าเราลงทุนในหุ้นไทยอยู่ แล้วอยากกระจายความเสี่ยงในหุ้นต่างประเทศด้วย แต่เรามีเงินทุนที่จำกัด แถมไม่มีความรู้ความเข้าใจ ในธุรกิจต่างประเทศ
เราก็สามารถเลือกลงทุน กับกองทุนรวมหุ้นต่างประเทศ แทนการลงทุนหุ้นต่างประเทศรายตัว ก็ได้เหมือนกัน
อ่านมาถึงตรงนี้ เราน่าจะพอรู้แล้วว่า การลงทุนในแต่ละรูปแบบมีข้อดีและข้อเสียอย่างไร ซึ่งหลังจากอ่านบทความนี้แล้ว สิ่งที่เราต้องทำคือ การสำรวจตัวเอง ว่าเหมาะกับการลงทุนแบบไหน..
© 2025 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.