ไมเคิล จอร์แดน ลงทุนกับทีมบาส ครั้งเดียว ได้เงินมากกว่า อยู่กับไนกี้เกือบ 40 ปี | MONEY LAB
หลาย ๆ คนน่าจะรู้จัก ไมเคิล จอร์แดน จากการเป็นหนึ่งใน นักบาสเกตบอล ที่เก่งที่สุดตลอดกาล และแฟรนไชส์รองเท้า Air Jordan

แต่รู้หรือไม่ว่า ไมเคิล จอร์แดน ยังเป็นนักลงทุนตัวยงอีกด้วย โดยเขาทั้งลงทุนในธุรกิจพนันกีฬา, แบรนด์เหล้าเตกีลา, ทีมแข่งรถ NASCAR รวมถึงเปิดร้านสเต๊กเป็นของตัวเองด้วย

อย่างไรก็ตาม การลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของเขานั้น คือการขายทีมบาสเกตบอลอย่าง Charlotte Hornets ที่ทำให้เขาได้กำไรมากกว่า 90,000 ล้านบาท เลยทีเดียว

แล้วเส้นทางการลงทุนของ ไมเคิล จอร์แดน กับทีมบาสเกตบอลทีมนี้ เป็นอย่างไร ?
MONEY LAB จะเล่าเรื่องการเงิน ที่โรงเรียนไม่เคยสอนให้เข้าใจ

แม้ในเรื่องของสภาพร่างกายจะไม่ไหว แต่ไฟในการทำงาน เกี่ยวกับวงการบาสเกตบอลของ ไมเคิล จอร์แดน ยังไม่มอดดับ

ทำให้หลังจากประกาศเลิกเล่นบาสเกตบอล เมื่อปี 2003 เขาก็ได้มองหา ทีมที่สามารถเป็นเจ้าของได้ จนได้มารู้จัก กับทีมน้องใหม่ของลีก ชื่อว่า Charlotte Bobcats ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐ North Carolina ที่ไมเคิล จอร์แดน เติบโตมา

ด้วยความที่เป็นทีมน้องใหม่ จึงไม่สามารถดึงดูดผู้เล่นเก่ง ๆ ได้ เจ้าของทีมในตอนนั้น จึงได้ดึงตัว ไมเคิล จอร์แดน เข้ามาเป็น หัวหน้ากิจการบาสเกตบอลของทีม

เพื่อช่วยวางแผนการฝึกผู้เล่น และเรื่องที่เกี่ยวกับการแข่งขันต่าง ๆ พร้อมกับหวังจะใช้ชื่อเสียงของ ไมเคิล จอร์แดน ในการดึงดูดผู้เล่นเก่ง ๆ เข้ามาร่วมทีม

แต่ถึงอย่างนั้นผลงานของทีมก็ยังไม่ดีขึ้น อีกทั้งการที่เจ้าของทีม ไม่มีประสบการณ์ในการทำทีมกีฬามาก่อน จึงทำให้บริหารผิดพลาด และก่อหนี้สินไว้เป็นจำนวนมาก

นั่นทำให้สุดท้ายแล้ว ไมเคิล จอร์แดน ที่ทนเห็นสภาพทีมเละเทะแบบนี้ไม่ไหว จึงยื่นข้อเสนอซื้อทีม ด้วยจำนวนเงินประมาณ 9,400 ล้านบาท

เจ้าของทีมที่ไม่มีทางเลือก จึงจำใจต้องขายทีมให้กับไมเคิล จอร์แดน ในปี 2010 ซึ่งในช่วงแรกที่เขาเข้ามาบริหาร ผลงานของทีมก็ยังคงดิ่งเหวอยู่

ถึงอย่างนั้น ด้วยความที่ระบบของลีกบาสเกตบอล NBA นั้น กำหนดให้ทีมที่ผลงานแย่ที่สุดในแต่ละปี จะได้สิทธิ์เลือกผู้เล่นหน้าใหม่เก่ง ๆ เข้าทีมก่อน

ประกอบกับการรีแบรนด์ทีม ด้วยการเปลี่ยนไปใช้ชื่อ Charlotte Hornets ซึ่งเป็นชื่อทีมที่แฟน ๆ คุ้นเคย ในช่วงยุค 90’s ผลงานของทีมก็เริ่มดีขึ้น พร้อมกับมูลค่าของทีม ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน

จนกระทั่งเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากบริหารทีมมา 13 ปี ไมเคิล จอร์แดน ก็ได้ตัดสินใจขายหุ้นส่วนใหญ่ ของทีม Charlotte Hornets ให้กับกลุ่มทุนที่นำโดย Gabe Plotkin และ Eric Schnall เศรษฐีชาวอเมริกัน ด้วยราคา 102,000 ล้านบาท

ทำให้ ไมเคิล จอร์แดน จะได้กำไรจากการขายหุ้นครั้งนี้ มากถึง 92,600 ล้านบาท คิดเป็นผลตอบแทนเกือบ 10 เท่า

และเงินจำนวนนี้ ยังมากกว่าจำนวนเงินส่วนแบ่ง ที่เขาได้รับจากไนกี้มาโดยตลอด ตั้งแต่เซ็นสัญญาในปี 1984 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งอยู่ที่ 61,000 ล้านบาท เสียอีก

จะเห็นได้ว่า สิ่งที่เราได้จากเรื่องนี้ นั่นก็คือ การลงทุนนั้น ก็สำคัญไม่แพ้การหารายได้ให้มาก ๆ

เพราะถึงแม้ ไมเคิล จอร์แดน จะร่ำรวยมากแล้ว จากเงินเดือนที่เขาได้รับสมัยที่ยังเล่นบาสเกตบอลอยู่ บวกกับเงินส่วนแบ่งที่ได้รับจากไนกี้อยู่ตลอด

แต่การลงทุนดี ๆ เพียงแค่หนึ่งครั้ง ก็ทำให้ความมั่งคั่งของเขา เติบโตได้อย่างก้าวกระโดดเลยทีเดียว

เพราะฉะนั้น ถ้าเราต้องการสร้างความมั่งคั่งอย่างรวดเร็ว นอกจากจะหารายได้ให้มาก ๆ จากหลากหลายทางแล้ว

การมีสายตาที่มองหาโอกาสการลงทุนดี ๆ อยู่ตลอดเวลา ก็ถือเป็นทักษะหนึ่ง ที่เราควรจะมีติดตัวไว้ด้วยเช่นกัน..

References
-https://www.nba.com/news/michael-jordan-selling-ownership-stake-hornets
-https://www.investopedia.com/michael-jordan-net-worth-7552678
-https://en.wikipedia.org/wiki/Michael_Jordan
-https://huddleup.substack.com/p/how-michael-jordan-turned-25-million
-https://en.wikipedia.org/wiki/Air_Jordan