
โลกกำลังจะเผชิญ วิกฤติขาดแคลน “ข้าว” หนักสุดในรอบ 20 ปี
19 เม.ย. 2023
ล่าสุด ศูนย์วิจัย Fitch Solution ได้เปิดเผยผ่านสำนักข่าว CNBC ว่า ในปีนี้ ทั่วโลกกำลังจะเผชิญกับวิกฤติขาดแคลนข้าว อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในรอบ 20 ปี
สาเหตุหลัก ๆ ก็คือ สภาพอากาศแปรปรวน ที่เกิดขึ้นในประเทศผู้ผลิตข้าวรายใหญ่หลายแห่ง เช่น อินเดีย จีนและปากีสถาน เป็นต้น ซึ่งทำให้ผลผลิตที่ได้จากการเพาะปลูกข้าวเสียหาย
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ปริมาณน้ำฝนช่วงมรสุม ในรัฐซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกข้าวหลักของอินเดียหลายแห่ง ได้ปรับลดลงอย่างหนัก จนทำให้อินเดียผลิตข้าวได้น้อยลง
ส่วนจีนเองก็เผชิญภาวะฝนมรสุม จนทำให้มีปริมาณน้ำฝนมากเกินไปในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงและมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกข้าวหลักของจีน จนทำให้ผลผลิตเสียหายด้วย
ซึ่งถ้าหากเรามองดูผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ของโลก 5 อันดับแรก ในปี 2021
ประเทศจีน ผลิตข้าวได้ 212,843,000 ตันประเทศอินเดีย ผลิตข้าวได้ 195,425,000 ตันประเทศบังกลาเทศ ผลิตข้าวได้ 56,944,553 ตันประเทศอินโดนีเซีย ผลิตข้าวได้ 54,415,294 ตันประเทศเวียดนาม ผลิตข้าวได้ 43,852,728 ตัน
จะเห็นได้ว่าทั้งจีนและอินเดียนั้นเป็นผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ของโลกทั้งคู่ ดังนั้นหากประเทศเหล่านี้ผลิตข้าวได้น้อยลง ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อปริมาณข้าวทั้งโลก
ด้วยเหตุนี้เอง นักวิเคราะห์จาก Fitch จึงระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะทำให้ราคาข้าวมีการปรับตัวสูงขึ้นต่อไปอีก จนถึงปี 2024
โดยปัจจุบัน ราคาข้าวเปลือกโลก กำลังซื้อขายในราคาที่แพงที่สุดในรอบเกือบ 12 ปี
แล้วใครจะเดือดร้อนมากที่สุดจากเรื่องนี้ ?
ผู้ที่น่าจะเดือดร้อนจากเหตุการณ์นี้ มากที่สุด ก็น่าจะเป็นประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิก เพราะว่าประชากรในภูมิภาคนี้มีการบริโภคข้าว มากถึง 90% ของทั้งโลก
อย่างไรก็ตาม การขาดแคลนข้าวในครั้งนี้ ก็มีโอกาสที่จะเป็นการขาดแคลน เพียงระยะสั้นเท่านั้น
เพราะทาง Fitch Solution ได้ประมาณการว่า ในปลายปี 2024 ถึง 2025 ตลาดข้าวก็น่าจะกลับเข้าสู่ภาวะล้นตลาด ได้อีกครั้ง ซึ่งก็จะทำให้ราคาข้าวลดลงด้วย..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
ประเทศไทย ผลิตข้าวได้ 33,582,000 ตัน นับเป็นอันดับที่ 6 ของโลก
ประเทศไทย ผลิตข้าวได้ 33,582,000 ตัน นับเป็นอันดับที่ 6 ของโลก