วิจัยเผย จีนให้กู้เงิน กว่า 8.2 ล้านล้านบาท อุ้มประเทศ สมาชิก BRI
28 มี.ค. 2023
วันนี้ Aiddata ซึ่งเป็นบริษัทวิจัย ที่ติดตามสถานการณ์ โครงการเส้นทางสายไหม หรือ BRI ของจีนมาตลอด ได้เปิดเผยว่า
ระหว่างปี 2000 จนถึงปี 2021 แบงก์ชาติจีน หรือ PBOC ได้ปล่อยกู้ เพื่ออุ้มประเทศกำลังพัฒนา 22 ประเทศ ในโครงการ BRI ที่กำลังประสบปัญหา มากกว่า 8.2 ล้านล้านบาท ผ่านช่องทาง Swap Line
โดยประมาณ 43% ของเงินกู้ทั้งหมดนี้ ถูกปล่อยกู้ไปในช่วงระหว่างปี 2019 จนถึงปี 2021 หรือช่วงที่มีโรคระบาด
ในขณะที่สัดส่วนยอดเงินกู้ระยะสั้น ที่ปล่อยให้กลุ่มประเทศเหล่านี้ เพื่อเสริมสภาพคล่อง ก็เพิ่มขึ้นจาก 5% ในปี 2010 แตะระดับ 60% ของเงินให้สินเชื่อทั้งหมด ที่ธนาคารกลางจีน ปล่อยกู้ให้ต่างชาติ ในปี 2022
แล้ว Swap Line คืออะไร ?
Swap Line คือช่องทางที่ธนาคารกลางเปิดให้ธนาคารกลางในอีกประเทศสามารถกู้ยืมสกุลเงินท้องถิ่นของประเทศต้นทาง เพื่อนำไปใช้ในการเสริมสภาพคล่อง
โดยในช่วงที่จีนได้ริเริ่มโครงการ BRI ทาง PBOC ก็ได้เปิดหน้าต่าง Swap Line ให้ธนาคารกลางในประเทศที่เข้าร่วมโครงการนี้ สามารถกู้ยืมเงินหยวนไปได้
งานวิจัยระบุว่า ประเทศที่ได้รับเงินช่วยเหลือมากที่สุดคือ
อาร์เจนตินา เงินช่วยเหลือจำนวน 3.8 ล้านล้านบาทปากีสถาน เงินช่วยเหลือจำนวน 1.7 ล้านล้านบาทอียิปต์ เงินช่วยเหลือจำนวน 535,000 ล้านบาท
ซึ่งประเทศเหล่านี้ ต่างก็เป็นประเทศที่ประสบปัญหา เงินสำรองลดลงอย่างมาก และเป็นประเทศ ที่มีเครดิตไม่ดี และเสี่ยงสูงที่จะผิดนัดชำระหนี้
ทำให้จีนจึงต้องเข้าไปช่วยอุ้มประเทศเหล่านี้ เพื่อไม่ให้ตัวเองได้รับผลกระทบ จากการผิดนัดชำระหนี้
อย่างไรก็ตาม Aiddata วิพากษ์วิจารณ์ว่า ประเทศกำลังพัฒนาเหล่านี้กำลังสร้างเงินทุนสำรองระหว่างประเทศเทียมขึ้นมา จากการรับเงินช่วยเหลือแบบนี้
สำหรับประเทศไทยนั้น จากผลการศึกษาของ Aiddata พบว่า มีการใช้ช่องทาง Swap Line ในการเสริมสภาพคล่องเงินหยวน ให้กับธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย
เนื่องจากผู้ประกอบจำนวนมาก ก็ทำการค้าขายกับประเทศจีน จึงมีความต้องการเงินหยวนจำนวนมาก
ส่งผลให้มีความเสี่ยงน้อยลงเพราะเป็นการกู้ยืม เพื่อเสริมสภาพคล่องเท่านั้น
โดยข้อมูลระบุว่า ประเทศไทย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และมาเลเซีย มีการใช้ช่องทาง Swap Line เป็นมูลค่า 514,087 ล้านบาท ในช่วงระหว่างปี 2000 ถึง 2021
ทั้งนี้ โครงการเส้นทางสายไหม เป็นโครงการของจีนที่ต้องการเชื่อมเส้นทางการค้าระหว่างประเทศสมาชิก เพื่อสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจร่วมกัน
แต่โครงการนี้ก็ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่ากำลังทำให้ประเทศสมาชิกต้องติดกับดักหนี้มหาศาล ในขณะที่ ประเทศจีนเองก็ต้องมาแบกรับภาระต้องเข้าไปช่วยประเทศเหล่านี้ด้วย..