ถ้า Warren Buffett เป็นเซียนหุ้นไทย จะซื้อหุ้นอะไร เข้าพอร์ตบ้าง

ถ้า Warren Buffett เป็นเซียนหุ้นไทย จะซื้อหุ้นอะไร เข้าพอร์ตบ้าง

14 มี.ค. 2023
ถ้า Warren Buffett เป็นเซียนหุ้นไทย จะซื้อหุ้นอะไร เข้าพอร์ตบ้าง - BillionMoney
อย่างที่ทุกคนทราบว่าคุณ Warren Buffett เป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก จากการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา
แต่ถ้าเราลองคิดเล่น ๆ กันดูว่า หากคุณ Warren Buffett ต้องมาลงทุนในตลาดหุ้นไทยตอนนี้ จะมีหุ้นตัวไหนบ้างที่เขาจะเลือกลงทุน
ซึ่งในวันนี้เอง BillionMoney ก็จะมาจำลองดูว่า ถ้าหากเราใช้เกณฑ์การลงทุนของคุณปู่ Warren Buffett มาคัดเลือกหุ้น ในตลาดหุ้นไทย จะมีหุ้นตัวไหนผ่านเกณฑ์บ้าง
ทางสำนักข่าว CNBC ได้เคยประมาณการ หุ้นที่คุณ Warren Buffett น่าจะเข้าซื้อไว้ โดยใช้เกณฑ์ 4 ข้อคือ
-มูลค่าบริษัท 5,000 ล้าน ถึง 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
-กำไรเติบโตเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี มากกว่า 10% ต่อปี
-หนี้สินต่อทุนน้อยกว่า 20%
-กำไรต่อปีมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
แต่อย่างไรก็ตาม เกณฑ์เหล่านี้ก็เป็นในบริบทของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ทำให้เราไม่สามารถนำเกณฑ์เหล่านี้มาใช้แบบตรง ๆ ได้
อย่างเช่น หุ้นที่มีมูลค่าบริษัท 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาแล้ว จะเป็นเพียงแค่หุ้นขนาดกลางเท่านั้น
แต่ถ้าหากแปลงเป็นเงินบาท จะเป็นบริษัทที่มีมูลค่าเกิน 100,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ในตลาดหุ้นไทยเหลือเพียงแค่หุ้นขนาดใหญ่ยักษ์ เท่านั้น
เพราะฉะนั้นทาง BillionMoney จึงต้องปรับเกณฑ์การคัดเลือกหุ้นนี้ ให้เข้ากับบริบทของตลาดหุ้นไทย และยังเพิ่มเกณฑ์ด้านมูลค่าเข้าไปด้วย ทำให้ได้เกณฑ์ดังนี้
-ลงทุนในหุ้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ (มูลค่าบริษัท 10,000 ล้านบาท ขึ้นไป)
-หนี้สินต่อทุนน้อยกว่า 50%
-กำไรเติบโตเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี มากกว่า 10% ต่อปี
-ROE เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี มากกว่า 8%
-กำไรต่อหุ้นเติบโต และเป็นบวก ติดต่อกัน 5 ปี
-อัตราส่วน P/E คูณกับ P/BV ไม่เกิน 22.5
ค่า P/E คูณกับ P/BV ไม่เกิน 22.5 นั้น ก็คือ สิ่งที่เรียกว่า Graham Number ที่คุณ Benjamin Graham อาจารย์ของคุณ Warren Buffett ใช้ประเมินมูลค่าหุ้นแบบเร็ว ๆ
โดยถ้าหากตัวเลขออกมาน้อยกว่า 22.5 แปลว่า หุ้นราคาถูก แต่ถ้ามากกว่า 22.5 แปลว่า หุ้นราคาแพงเกินไปนั่นเอง
จากการนำเกณฑ์นี้ไปคัดเลือกหุ้นในตลาดหุ้นไทยแล้ว โดยใช้ข้อมูลของวันที่ 8 มีนาคม 2566 ก็พบว่า มีหุ้นที่เข้าเกณฑ์ทั้ง 6 ข้อนี้อยู่ 2 ตัว ได้แก่
1.GFPT
บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจฟาร์มไก่ครบวงจร ตั้งแต่อาหารสัตว์, การทำฟาร์ม ไปจนถึงแปรรูปเนื้อไก่
-มูลค่าบริษัท : 15,171 ล้านบาท
-อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน : 41%
-กำไรเติบโตเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี : 14.5% ต่อปี
-ROE เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี : 8.3%
-กำไรต่อหุ้นเติบโตเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี : 14.5% ต่อปี
-Graham Number : 6.8
2.ASIAN
บริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจแปรรูปอาหารทะเลแช่แข็ง เพื่อจำหน่ายและส่งออก
-มูลค่าบริษัท : 10,745 ล้านบาท
-อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน : 27%
-กำไรเติบโตเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี : 21.9% ต่อปี
-ROE เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี : 18.08%
-กำไรต่อหุ้นเติบโตเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี : 21.7% ต่อปี
-Graham Number : 18.7
กล่าวโดยสรุปก็คือ หากเราใช้เกณฑ์การคัดเลือกหุ้นของคุณ Warren Buffett ที่นำมาดัดแปลงเพื่อให้เข้ากับบริบทของตลาดหุ้นไทยแล้ว จะมีหุ้นเพียงแค่ 2 บริษัท คือ GFPT และ ASIAN เท่านั้น ที่ผ่านเกณฑ์ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม บทความนี้เป็นเพียงการจำลองเท่านั้น ในขณะที่เกณฑ์การคัดเลือกหุ้นของคุณ Warren Buffett ก็เป็นเพียงการคาดการณ์ของ CNBC เท่านั้น
โดยนอกเหนือจากการวิเคราะห์บริษัทในเชิงปริมาณแล้ว คุณ Warren Buffett ก็อาจใช้การวิเคราะห์เชิงคุณภาพ เช่น ความแข็งแกร่งของแบรนด์ หรือความสามารถของผู้บริหาร ในการคัดเลือกธุรกิจด้วย..
หมายเหตุ: บทความนี้ไม่ได้ชี้นำให้ซื้อหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน
© 2024 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.