“เครือข่ายไผ่” เบื้องหลังความสำเร็จ ของเศรษฐี เชื้อสายจีน

“เครือข่ายไผ่” เบื้องหลังความสำเร็จ ของเศรษฐี เชื้อสายจีน

6 ก.พ. 2023
“เครือข่ายไผ่” เบื้องหลังความสำเร็จ ของเศรษฐี เชื้อสายจีน - BillionMoney
ถ้าหากเราลองเปิดดู รายชื่อมหาเศรษฐีในไทย จะเห็นได้ว่ารายชื่อเหล่านั้น ประกอบไปด้วยบรรดา “เจ้าสัว” แทบจะทั้งหมด ซึ่งการมีเศรษฐีเชื้อสายจีน เป็นผู้กุมอำนาจทางเศรษฐกิจของประเทศแบบนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในไทยเท่านั้น
เพราะข้อมูลจาก The Economist ในปี 2019 ได้ประมาณการไว้ว่า เหล่าเจ้าสัวทั่วอาเซียนนั้น ถือครองสินทรัพย์รวมกันแล้ว มากถึง 9.4 ล้านล้านบาท เลยทีเดียว
ซึ่งสิ่งที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเจ้าสัวเหล่านี้ ก็คือสายใยทางธุรกิจระหว่างคนเชื้อสายจีน ที่เรียกกันว่า “เครือข่ายไผ่” หรือ Bamboo Network
และถ้าหากคุณสงสัย ว่าทำไมเครือข่ายไผ่ ถึงช่วยให้เหล่าเจ้าสัวทั่วอาเซียน พากันร่ำรวยมหาศาลแบบนี้ ?
BillionMoney จะย่อยให้เข้าใจ
เครือข่ายไผ่ หรือ Bamboo Network เป็นชื่อเรียกของเครือข่ายธุรกิจของชาวจีนอพยพ หรือคนเชื้อสายจีน ซึ่งพบมากในไทย และประเทศอื่น ๆ ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยธุรกิจในเครือข่ายไผ่นั้น มักจะเป็นธุรกิจที่มีเจ้าของ เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ไม่ก็เป็นเครือญาติกัน หรือในบางครั้งถ้าหากไม่ใช่คนที่มีสายเลือดเดียวกัน ก็อาจจะเป็นเพื่อน หรือคนที่อพยพมาจากมณฑลเดียวกันก็ได้
การทำธุรกิจในลักษณะนี้ มีพื้นฐานมาจาก ค่านิยมของขงจื๊อที่เรียกว่า “กวนซี” (Guanxi) ซึ่งเป็นการให้ความสำคัญ กับการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ซึ่งค่านิยมนี้เอง ถือว่าเป็นค่านิยมที่สำคัญที่สุด ของชาวจีนอพยพเลยทีเดียว
เพราะถ้าหากเราเป็นชาวจีนอพยพ ที่ต้องจากบ้านเกิด มาอยู่ในประเทศที่เราไม่รู้จัก การรักษาความสัมพันธ์ กับคนสายเลือดเดียวกัน หรือเชื้อชาติเดียวกัน ที่รู้จักและพูดภาษาเดียวกันกับเรา ก็จะช่วยให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายกว่า การแยกตัวออกไปอยู่คนเดียวอย่างแน่นอน
ซึ่งสิ่งที่ช่วยทำให้ธุรกิจของคนเชื้อสายจีน ซึ่งประกอบธุรกิจในรูปแบบเครือข่ายไผ่ สามารถประสบความสำเร็จ มากกว่าผู้ประกอบการเจ้าถิ่น หรือผู้อพยพเชื้อสายอื่น ๆ ก็คือ
-ต้นทุนการทำธุรกิจที่ต่ำ
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ลักษณะธุรกิจของผู้อพยพชาวจีน จะเป็นการทำธุรกิจครอบครัว ทำให้ต้นทุนในการจ้างแรงงาน สำหรับธุรกิจครอบครัวชาวจีน มีน้อยมาก หรือแทบจะไม่มีเลย
นอกจากนี้ การที่ลัทธิขงจื๊อ มีค่านิยมในการเคารพผู้อาวุโส ทำให้เมื่อเจ้าของธุรกิจ แบ่งความรับผิดชอบให้กับลูกหลานแล้ว การตัดสินใจทำสิ่งต่าง ๆ ก็ทำได้ง่ายกว่า การสั่งผู้จัดการ หรือพนักงาน ที่ไม่ใช่คนในครอบครัว
-การรักษาความลับของธุรกิจ
ความเสี่ยงที่ตามมากับการจ้างพนักงาน ก็คือการที่พนักงานคนนั้น สามารถนำความลับของธุรกิจ ออกไปขายให้กับคู่แข่ง หรือไม่ก็นำความรู้ที่ได้จากการทำงาน ไปเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจที่เป็นคู่แข่ง
เพราะฉะนั้น การที่ธุรกิจของคนเชื้อสายจีน ดำเนินการโดยคนในครอบครัว ก็จะช่วยทำให้ความเสี่ยงตรงนี้หายไปได้นั่นเอง
-เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายกว่า
การที่เจ้าของธุรกิจเชื้อสายจีน มีสายสัมพันธ์อันดี กับคนในครอบครัว, เครือญาติ และมิตรสหายเชื้อสายจีนด้วยกัน ก็ทำให้สามารถระดมทุนมาทำธุรกิจได้ง่ายกว่า แถมยังเผชิญกับต้นทุนทางการเงินที่ต่ำกว่าด้วย
เพราะแทนที่จะต้องไปกู้เงินจากธนาคาร ที่มักจะไม่ปล่อยเงินกู้ให้กับธุรกิจเล็ก ๆ หรือถูกโขกดอกเบี้ย จากเจ้าหนี้นอกระบบ
เจ้าของธุรกิจเชื้อสายจีน จึงหันมาหยิบยืมเงิน จากสายสัมพันธ์ที่ตัวเองมี ซึ่งเสียอัตราดอกเบี้ยน้อย จนถึงไม่เสียดอกเบี้ยเลย หรือถ้าหากไม่หยิบยืมเงิน ก็อาจจะเสนอทางเลือกเป็นการลงหุ้น ในธุรกิจที่ทำอยู่ก็ได้
ด้วยข้อได้เปรียบเหล่านี้ บวกกับความขยันสู้งาน และประหยัดอดออมของชาวจีน ก็ได้สร้างเจ้าสัวเป็นจำนวนมาก ทั้งในประเทศไทย เช่น ตระกูลโสภณพนิช เจ้าของธนาคารกรุงเทพ และตระกูลเจียรวนนท์ เจ้าของเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ CP
รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนของเรา อย่างเช่น Liem Sioe Liong หรือ Sudono Salim ผู้ก่อตั้ง Salim Group ซึ่งมีรายได้คิดเป็น 5% ของ GDP ประเทศอินโดนีเซีย ช่วงก่อนวิกฤติต้มยำกุ้ง และ Robert Kuok ผู้ก่อตั้ง Kuok Group เจ้าของโรงแรม Shangri-La และธุรกิจขนส่งพัสดุ Kerry
และถึงแม้ว่าธุรกิจเหล่านี้ จะเติบโตมาจากธุรกิจครอบครัว จนกลายเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น ที่ต้องทำตามกฎระเบียบที่เป็นสากล ซึ่งให้ความสำคัญกับผู้ถือหุ้น และมักจะใช้ผู้บริหารมืออาชีพ มากกว่าคนในครอบครัว
แต่ถึงอย่างนั้น การทำธุรกิจแบบเครือข่ายไผ่ก็ยังคงไม่หายไปไหน เพียงแต่สมาชิกในครอบครัว ก็จะลดบทบาทในการดำเนินธุรกิจด้วยตัวเองลง และเปลี่ยนไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ที่คอยกำหนดทิศทางของบริษัท ผ่านทางการออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้นแทน
ดังเช่น ตระกูลจิราธิวัฒน์ ที่สมาชิกในครอบครัว มักจะเป็น 1 ใน 10 ผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท CPN, CENTEL, CRC และ ZEN อยู่ตลอด เป็นต้น
จากทั้งหมดนี้เอง จึงทำให้เราได้เห็นว่า สิ่งที่ช่วยให้เจ้าสัวชาวจีนทั้งหลาย สามารถประสบความสำเร็จ ทั้งในประเทศไทย และหลาย ๆ ประเทศในอาเซียนนั้น
ไม่ใช่เพียงแค่ความขยัน หมั่นอดออม และสายตาที่มองหาโอกาสทางธุรกิจอยู่ตลอดเวลาเท่านั้น แต่ยังมีการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัว รวมทั้งคู่ค้าทางธุรกิจ
จนกลายเป็นเครือข่ายไผ่ ซึ่งสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง และโอบอุ้มธุรกิจของเจ้าสัวเหล่านี้ไว้ จนสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง..
© 2025 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.