มอนเตเนโกร ประเทศยุโรปที่ติดหนี้ “จีน” จนแทบเอาตัวไม่รอด

มอนเตเนโกร ประเทศยุโรปที่ติดหนี้ “จีน” จนแทบเอาตัวไม่รอด

4 ก.ย. 2022
เมื่อพูดถึงประเทศที่เป็นลูกหนี้ของจีนนั้น ส่วนใหญ่เรามักจะนึกถึงประเทศในแถบทวีปเอเชีย หรือแอฟริกา
ซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นประเทศกำลังพัฒนา และมีรายได้น้อย
แต่อย่างไรก็ตาม ในทวีปยุโรปที่ผู้คนมองว่า เต็มไปด้วยประเทศร่ำรวย และพัฒนาแล้ว ยังมีประเทศหนึ่งที่ติดหนี้จีน แต่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ จนต้องขอความช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป นั่นก็คือประเทศ “มอนเตเนโกร” ที่มีหนี้จีนต่อ GDP มากถึง 18.7% ซึ่งถือว่ามากที่สุดในยุโรปเลยทีเดียว
และถ้าหากคุณสงสัยว่าทำไมเป็นเช่นนี้ ?
BillionMoney จะย่อยให้เข้าใจ
ประเทศมอนเตเนโกร ตั้งอยู่ในคาบสมุทรบอลข่าน มีพรมแดนติดกับโครเอเชีย, บอสเนีย, เซอร์เบีย และแอลเบเนีย โดยเป็นประเทศที่แยกตัวออกจากเซอร์เบีย ในปี 2006 ตามหลังประเทศอดีตยูโกสลาเวียอื่น ๆ ที่ทยอยแยกตัวออกไปก่อนหน้านี้แล้ว
มอนเตเนโกรเป็นประเทศเล็ก ๆ ที่อาจจะไม่ได้ร่ำรวยมากนัก เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในสหภาพยุโรป แต่ถ้าหากเทียบกับอดีตประเทศยูโกสลาเวียด้วยกันแล้ว มอนเตเนโกร นั้นเป็นประเทศที่มีความมั่งคั่งที่สุดเป็นอันดับ 3 ด้วย GDP ต่อหัว ที่ประมาณ 340,000 บาท
หลังจากแยกตัวเป็นอิสระ เศรษฐกิจของมอนเตเนโกรก็เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในช่วงปี 2006-2010 หรือ 5 ปีหลังเป็นอิสระ เศรษฐกิจของมอนเตเนโกร เฉลี่ยแล้วเติบโตมากถึง 8.7% ต่อปี ซึ่งการเติบโตอย่างรวดเร็วนี้ ก็มาจากเงินลงทุนจากต่างประเทศ ที่หลั่งไหลเข้ามาลงทุนในภาคการท่องเที่ยว
การเติบโตที่รวดเร็วนี้เอง ก็ได้ทำให้สหภาพยุโรปที่กำลังมองหาสมาชิกใหม่ในช่วงนั้น แสดงความสนใจในมอนเตเนโกรเป็นอย่างมาก โดยการมอบสถานะว่าที่สมาชิกของสหภาพยุโรปให้แก่มอนเตเนโกร
แต่ในขณะเดียวกัน รัฐบาลมอนเตเนโกรในช่วงนั้น ก็มีความต้องการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งด้วยความที่มอนเตเนโกรมีเศรษฐกิจขนาดเล็ก ก็ได้ทำให้การหาเงินทุนจากในประเทศเป็นเรื่องที่ยาก ส่งผลให้มอนเตเนโกรต้องพึ่งพาการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศเพื่อลงทุน
นั่นจึงทำให้ สัดส่วนหนี้สาธารณะต่างประเทศต่อ GDP ของมอนเตเนโกร พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ปี 2010 สัดส่วนหนี้สาธารณะต่างประเทศ อยู่ที่ 29.2% ต่อ GDP
ปี 2015 สัดส่วนหนี้สาธารณะต่างประเทศ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 47.6% ต่อ GDP
และยังทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะรวมต่อ GDP ของมอนเตเนโกร ในปี 2014 เพิ่มขึ้นเป็น 59.6% ซึ่งเสี่ยงจะขัดกับหนึ่งในเกณฑ์ของการเข้าเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป ที่ได้กำหนดไว้ว่า ห้ามมีสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP เกิน 60% ทำให้กระบวนการเข้าเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปถูกพักไว้ก่อน
ด้วยเหตุนี้ทำให้มอนเตเนโกรยิ่งตกที่นั่งลำบาก เพราะว่ารัฐบาลในขณะนั้น กำลังมีโครงการสร้างทางด่วนเชื่อมต่อระหว่างชายแดนเซอร์เบีย กับท่าเรือที่ชายฝั่งทางใต้ของมอนเตเนโกร ที่รัฐบาลประกาศว่าจะสามารถสร้างงานจำนวนมาก และสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ให้กับประชาชน
แต่ว่าโครงการนี้กลับไม่มีใครให้กู้เงิน เพราะนักลงทุนในประเทศแถบสหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศอย่าง IMF ได้ประเมินว่าโครงการนี้ ไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า อีกทั้งหนี้ที่สูงอยู่แล้ว ก็ได้สร้างความกังวลเรื่องความสามารถในการชำระหนี้ของมอนเตเนโกรด้วย
โครงการนี้อาจจะถูกพับไปแล้ว ถ้าหากมอนเตเนโกรไม่ได้เจอกับนักลงทุนรายใหม่คือ “ประเทศจีน” ที่เสนอเงินกู้ในสกุลดอลลาร์สหรัฐ กว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 36,473 ล้านบาท) ในปี 2014 โดยจีนเสนอให้นำบริษัทเอกชนจากจีน มาทำการก่อสร้างทางด่วนแห่งนี้ให้ ซึ่งคาดว่าทางด่วนช่วงแรกจะเสร็จในปี 2020
ซึ่งสาเหตุที่จีนเข้ามามอบเงินกู้ให้มอนเตเนโกร ก็เพราะว่ามอนเตเนโกรถือเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมาย ในการสร้างเส้นทางสายไหมครั้งใหม่ของจีนนั่นเอง
หลังจากรัฐบาลมอนเตเนโกรตกลงกู้ และเริ่มให้บริษัทเอกชนของจีนขนคนงานจากประเทศจีนเข้ามาเริ่มการก่อสร้าง ก็ได้ทำให้มีเม็ดเงินจากจีนเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมาก โดยในปี 2020 จีนได้กลายเป็นนักลงทุนต่างชาติอันดับ 2 รองจากรัสเซีย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในโรงงานไฟฟ้า และการสร้างรางรถไฟ
แต่เมื่อเวลาล่วงเลยมาถึงปี 2020 ทางด่วนกลับยังไม่เสร็จสิ้นดีตามสัญญา ซึ่งทางบริษัทจากจีนอ้างว่า การก่อสร้างนั้นล่าช้า เนื่องจากการระบาดของโควิด 19 อย่างไรก็ตามหนี้จำนวนมหาศาลของมอนเตเนโกรนั้น กลับใกล้จะครบกำหนดชำระหนี้แล้ว ทำให้มอนเตเนโกรต้องหันไปขอความช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป
ปัญหาครั้งนี้ได้ถูกคลี่คลายลง ในปี 2021 ด้วยการที่ธนาคาร 3 แห่งในยุโรป ได้ตกลงปรับโครงสร้างหนี้ ด้วยการสลับสกุลเงินของหนี้จากดอลลาร์สหรัฐ ให้เป็นสกุลเงินยูโรที่มอนเตเนโกรใช้อยู่ และรีไฟแนนซ์เพื่อให้ดอกเบี้ยต่ำลง
โดยหลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ แม้ว่ามอนเตเนโกรจะสามารถเอาตัวรอด จากการผิดนัดชำระหนี้จีนได้ในที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาหนี้สาธารณะสูงของมอนเตเนโกรก็ยังคงอยู่ โดยในปี 2021 สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ที่ประมาณ 80% ส่วนหนี้สาธารณะต่างประเทศก็ยังสูงมากถึง 63.5% ต่อ GDP
อีกทั้งทางด่วนที่ยังสร้างไม่เสร็จก็ได้ตั้งอยู่เป็นสัญลักษณ์แห่งความล้มเหลว ที่กำลังรอเงินทุนจากรัฐบาลมาต่อเติม ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะหามาเพิ่มได้หรือไม่ เพราะหนี้ที่สูงมากของมอนเตเนโกรทำให้การหาเงินทุนเป็นไปอย่างยากลำบากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ส่วนประชาชนชาวมอนเตเนโกรเอง ก็ต้องแบกรับหนี้ที่รัฐบาลได้ก่อไว้ จากนโยบายที่ผิดพลาด แถมยังไม่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ อย่างที่รัฐบาลเคยสัญญาไว้แม้แต่น้อย..
© 2025 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.