หากเปรียบประเทศเป็นคนคนหนึ่ง
ความมั่งคั่งของประเทศ ก็มีวิธีบริหารคล้ายกับการบริหารการเงินส่วนบุคคล

ซึ่งหากเราต้องการให้ความมั่งคั่งของเราเพิ่มขึ้น
ก็คงหนีไม่พ้นการนำเงินของเราไปลงทุน

นี่จึงเป็นที่มาของการจัดตั้ง กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ
ซึ่งเป็นกองทุนที่รวบรวมเงิน มาจากเงินทุนสำรองของประเทศ
หรือรายได้ของประเทศ ที่มาจากการขายทรัพยากรทางธรรมชาติ

โดยเงินก้อนนี้จะถูกจัดสรรโดยผู้จัดการกองทุน เพื่อกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็น หุ้น ตราสารหนี้ สินค้าโภคภัณฑ์ หรือแม้แต่สินทรัพย์ที่อยู่นอกตลาดการเงิน

สินทรัพย์ที่อยู่นอกตลาดการเงิน เช่น หุ้นในบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหุ้น หรือการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เช่น โรงไฟฟ้า รางรถไฟ และทางด่วน

โดยเป้าหมายหลักของการจัดตั้งกองทุนประเภทนี้คือ การบริหารจัดการเงินให้มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับประเทศ และเตรียมรับมือกับรายได้ที่อาจหายไปในอนาคต เมื่อทรัพยากรที่มีค่าหมดลง

เนื่องจากประเทศที่ร่ำรวยหลายประเทศ มักจะร่ำรวยมาจากการขายทรัพยากรทางธรรมชาติที่มีค่า เช่น น้ำมัน ซึ่งเป็นทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไป

โดยกำไรที่ได้จากการลงทุน มักจะถูกนำไปใช้ในการอุดหนุนสวัสดิการให้แก่ประชาชน
หรือลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศ

แล้วรู้หรือไม่ว่า คูเวตเป็นประเทศแรกที่จัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ เมื่อปี 1953 โดยกองทุนนี้มีชื่อว่า Kuwait Investment Authority จัดตั้งขึ้นเพื่อกระจายความเสี่ยง ไม่ให้ประเทศพึ่งพารายได้ จากการขายน้ำมันเพียงอย่างเดียว

แม้คูเวตจะเป็นประเทศขนาดเล็ก ที่มีขนาดพื้นที่เพียง 17,818 ตารางกิโลเมตร
เทียบเท่ากับประมาณครึ่งหนึ่งของพื้นที่ภาคตะวันออกของไทย

แต่กลับมีปริมาณน้ำมันสำรองมากถึง 10% ของปริมาณน้ำมันสำรองของทั้งโลก

โดยในปี 2010 กองทุนความมั่งคั่งของคูเวต มีมูลค่าอยู่ที่ 9.7 ล้านล้านบาท
แต่ในปัจจุบันกองทุนความมั่งคั่งของคูเวต มีสินทรัพย์คิดเป็นมูลค่ามากถึง 25.7 ล้านล้านบาท
และมีสินทรัพย์รวมมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก

ขณะที่อันดับ 1 คือ กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของนอร์เวย์
ซึ่งเป็นประเทศที่ร่ำรวยมาจากการขายน้ำมันเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ประเทศที่ไม่ได้ร่ำรวยมาจากการขายน้ำมัน แต่มีเงินทุนสำรองมาก
ก็สามารถจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ เพื่อบริหารเงินทุนสำรองของประเทศได้
เช่น จีน สิงคโปร์ และเกาหลีใต้

โดยในปัจจุบันมีทั้งหมด 47 ประเทศ ที่มีการจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ

แต่ประเทศไทยที่มีเงินทุนสำรองมากเป็นอันดับที่ 14 ของโลก ยังไม่มีกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติเป็นของตัวเอง

แม้กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ จะเป็นแนวคิดการบริหารความมั่งคั่งของประเทศที่น่าสนใจ แต่เรื่องที่ต้องให้ความสำคัญคือ ความโปร่งใสของผู้บริหารกองทุน และการกำกับดูแลที่เข้มงวด

เพราะเรากำลังนำเงินออม ที่ประเทศของเราสะสมมาหลายชั่วอายุคน เข้าไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง
หากมีการกำกับดูแลที่ไม่เข้มงวดมากพอ ก็อาจเป็นช่องทางให้เกิดการคอร์รัปชันได้

เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับกองทุน 1MDB ของประเทศมาเลเซีย ซึ่งกลายเป็นช่องโหว่ ให้มีการฟอกเงินเข้าบัญชีส่วนตัวของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ทั้งที่ผลประโยชน์ควรตกเป็นของประชาชนทั้งประเทศ

References:
-https://www.bankrate.com/glossary/s/sovereign-wealth-fund/
-https://www.investopedia.com/terms/s/sovereign_wealth_fund.asp
-https://www.investopedia.com/articles/economics/08/sovereign-wealth-fund.asp
-https://kia.gov.kw/about-kia/
-https://www.swfinstitute.org/profile/598cdaa50124e9fd2d05b5f2
-https://www.researchgate.net/figure/Largest-GCC-SWFs-by-Assets-Under-Management_tbl1_228122916