เงินฝากธนาคารของเรา จะเป็นของใคร ? ถ้าตายไปแล้ว ไม่มีใครรู้ แบบในเรื่อง “ลักกันวันตาย”

เงินฝากธนาคารของเรา จะเป็นของใคร ? ถ้าตายไปแล้ว ไม่มีใครรู้ แบบในเรื่อง “ลักกันวันตาย”

17 ต.ค. 2025
ถ้าเราตายไปแบบไม่มีทายาท เงินที่เหลืออยู่ในบัญชีธนาคารของเรา จะตกเป็นของใคร ?
คำถามนี้ น่าจะเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย หลังจากที่ได้ดูหนังเรื่องใหม่ใน Netflix ที่ชื่อว่า “ลักกันวันตาย”
ซึ่งเป็นเรื่องราวของนายธนาคาร 2 คน ที่วางแผนลักลอบนำเงินในบัญชีของหญิงชราที่ตายไปแล้ว ออกมาใช้จ่าย
อย่างไรก็ตาม บทความนี้จะไม่ได้มาสปอยล์เนื้อหาสำคัญในหนังเรื่องนี้ 
แต่จะนำเสนอข้อเท็จจริงว่า ถ้าเกิดเราตายไปแบบไม่มีใครรู้ เหมือนป้าถนอมจิตในเรื่อง เงินที่เหลืออยู่ในบัญชีธนาคารของเรา จะเป็นอย่างไรต่อไป ?
ถ้าพร้อมแล้ว เรามาเริ่มกันเลย เพราะ MONEY LAB จะมาย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
รู้ไหมว่า ประเทศไทยมีเงินในบัญชีเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นเวลามากกว่า 10 ปี ถึง 10,000 ล้านบาท 
ซึ่งบัญชีเหล่านี้ อาจจะเป็นได้ทั้งบัญชีของผู้เสียชีวิต ที่ไม่เหลือทายาท หรือคนในครอบครัวแล้ว 
หรืออาจจะเป็นบัญชีที่มีเงินฝากไม่มาก ทำให้เจ้าของลืมไปแล้วว่ามีบัญชีนี้อยู่
ตามกฎแล้ว บัญชีธนาคารที่ไม่มีความเคลื่อนไหวเกิน 1 ปี และมียอดเงินฝากไม่เกิน 2,000 บาท มักจะถูกเก็บค่าธรรมเนียมจากธนาคารเป็นรายเดือน เรียกว่าค่าธรรมเนียมการรักษาบัญชี
โดยก่อนที่ธนาคารจะหักเงินค่าธรรมเนียมออกจากบัญชี ธนาคารจะส่งจดหมายแจ้งเตือนเจ้าของบัญชีล่วงหน้า ไม่น้อยกว่า 30 วัน 
เพื่อให้เจ้าของบัญชี หรือทายาท มาปิดบัญชีเงินฝากที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว
ซึ่งในกรณีที่เจ้าของบัญชีตาย แล้วไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ ทายาทโดยชอบธรรมก็สามารถนำใบมรณบัตรของเจ้าของบัญชี และหลักฐานแสดงตัวความเป็นทายาท มาที่ธนาคาร เพื่อเบิกเงินออกจากบัญชีได้
ซึ่งทายาทโดยชอบธรรมในทางกฎหมาย ไม่ได้หมายความถึงแค่ลูกหลานของเจ้าของบัญชีเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงพ่อแม่ พี่น้อง ปู่ย่า ตายาย และลุงป้า น้าอาด้วย
ในกรณีที่เราตายไปแบบไม่มีทายาทจริง ๆ เงินในบัญชีเงินฝากที่มียอดเงินต่ำกว่า 2,000 บาท ก็จะถูกธนาคารหักเงินออกไปเป็นค่าธรรมเนียมไปจนเงินหมดบัญชี
แต่หากในบัญชีธนาคารของเรามียอดเงินฝากมากกว่า 2,000 บาท ก็จะมีความเป็นไปได้สูงมากว่า เงินในบัญชีธนาคารของเราอาจจะยังนอนแน่นิ่งอยู่ในธนาคารต่อไปเรื่อย ๆ
สาเหตุที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า ธนาคารมักจะไม่รู้ว่าเจ้าของบัญชีเสียชีวิตไปหรือยัง จนกว่าจะมีคนมาแสดงหลักฐานให้ธนาคารรับรู้
หรือหากเราตายไปแบบไม่มีทายาท แล้วธนาคารสามารถระบุได้ว่าเจ้าของบัญชีเงินฝากได้ตายไปแล้ว เงินก้อนนั้นจะตกเป็นของรัฐตามกฎหมาย ซึ่งกรณีแบบนี้มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก ๆ
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ก็ทำให้ที่ผ่านมารัฐบาลไทยมีความพยายามที่จะร่างกฎหมาย บังคับให้ธนาคารโอนเงินที่อยู่ในบัญชีที่ไม่มีความเคลื่อนไหวเกิน 10 ปี มาเป็นของรัฐ 
ชื่อว่า พระราชบัญญัติการบริหารจัดการเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวของสถาบันการเงิน
เพื่อที่อย่างน้อยเงินที่ค้างอยู่ในระบบและไม่มีเจ้าของ จะถูกนำมาใช้เพื่อสร้างสาธารณประโยชน์ให้กับสังคม และประเทศชาติ
แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีความคืบหน้าว่าร่างกฎหมายนี้จะออกมาบังคับใช้ได้เมื่อไร
ดังนั้นสิ่งที่เราทุกคนควรทำ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งต่อตัวเอง และคนข้างหลังก็คือ การสำรวจดูว่าเรามีทรัพย์สินอะไรบ้าง
จากนั้นก็ทำรายการทรัพย์สินของตัวเอง ในช่วงที่ร่างกายยังแข็งแรงดี 
และหากมีทายาทเหลืออยู่ ก็ควรทำพินัยกรรม พร้อมกับแต่งตั้งผู้จัดการมรดกเอาไว้ เพื่อให้ทรัพย์สินของเราถูกส่งต่อให้ทายาทของเราอย่างครบถ้วน
แต่ถ้าไม่มีทายาท เราก็สามารถบอกเพื่อน หรือคนรู้จักที่ไว้ใจได้ ให้ไปแจ้งธนาคารหลังเราเสียชีวิต 
เพื่อที่อย่างน้อยเงินในบัญชีธนาคารที่เหลืออยู่ของเรา จะตกเป็นของรัฐ เพื่อใช้พัฒนาประเทศต่อไปในที่สุด..
#วางแผนการเงิน
#หลักวางแผนการเงิน
#ลักกันวันตาย 
References
© 2025 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.