“ออมเงินอย่างเดียวไม่ได้ ต้องแบ่งไปซื้อทองด้วย 

เพราะทองเป็น Safe Haven”

ถ้าได้ยินประโยคนี้จากปากของนักลงทุนวัย 40 ปี หรือที่ปรึกษาทางการเงิน ก็อาจจะไม่ได้รู้สึกแปลกใจ

แต่เชื่อหรือไม่ว่า คำพูดนี้มาจากวิน ภาสวิน เด็กชายวัยเพียง 14 ปี ที่ให้สัมภาษณ์ในรายการมนุษย์ต่างวัย Talk 

วินไม่ใช่แค่เด็กที่สนใจเรื่องการเงิน แต่ยังเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ เจ้าของช่อง win_phassawin ที่มีคลิปยอดวิวเป็นล้าน ที่เล่าเรื่องราวชีวิตวัยเรียนและเรื่องเงินวัยเรียน

เบื้องหลังความคิดที่เกินวัยนี้ ไม่ได้มาจากแค่การอ่านหนังสือเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากประสบการณ์ชีวิตจริงที่เขาต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพตั้งแต่วัยเด็ก

จนทำให้เข้าใจว่า ไม่มีอะไรแน่นอนในชีวิต

และการวางแผนการเงิน คือเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้เขามีทั้งหลักประกันและอิสระในการใช้ชีวิตแบบที่ต้องการ

MONEY LAB จะพาไปดูแนวคิดการเงินที่น่าสนใจของวิน ภาสวิน ที่ไม่ว่าเราจะอายุเท่าไร ก็สามารถนำไปปรับใช้ได้ ซึ่งสรุปมาจากรายการ มนุษย์ต่างวัย Talk EP.58 ตอน บริหารจัดการเงินแบบ “วิน-ภาสวิน” กับมายด์เซ็ตทางการเงินที่ไม่แพ้ผู้ใหญ่

วินเล่าว่า ตัวเองเคยป่วยหนักมาก่อน ทำให้รู้ว่าถ้าในอนาคตกลับมาป่วยอีกครั้งจะต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกเยอะ และตัวเขาเองไม่สามารถทำประกันสุขภาพได้ 

นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้วินเริ่มจริงจังกับการวางแผนการเงิน โดยเริ่มหาความรู้ทั้งจากการอ่านหนังสือและการฟังพอดแคสต์

และตัดสินใจเก็บเงินเพื่อเป็นหลักประกันให้กับตัวเอง

โดยมีเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ 

เป้าหมายที่ 1 : เงินสำรองฉุกเฉิน 60,000 บาท

วินตั้งเป้าหมายนี้จากการคำนวณค่าใช้จ่ายต่อเดือนของตัวเอง โดยสังเกตจากบิลค่ารักษาพยาบาลที่ผ่านมา ซึ่งรวมแล้วอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาทต่อเดือน

จากนั้นเขานำหลักการวางแผนการเงินพื้นฐานมาใช้ ที่แนะนำว่าเราควรมีเงินสำรองฉุกเฉินเตรียมไว้อย่างน้อย 3 ถึง 6 เดือน

และวินเลือกตัวเลขสูงสุดคือ 6 เดือน ดังนั้น 6 x 10,000 บาท = 60,000 บาท จึงกลายเป็นเป้าหมายแรกที่เขาตั้งใจอยากเก็บให้ได้

เป้าหมายที่ 2 : ออมทองปีละ 1 บาท

วินมีความคิดว่า อยากส่งเงินไปให้ตัวเองใช้ในอนาคต

และเขารู้ว่า หากเก็บเงินไว้เฉย ๆ อาจถูกเงินเฟ้อกัดกิน จึงต้องหาทางลงทุนต่อยอด

และตัดสินใจเลือกเก็บสะสมในรูปของทองคำ เพราะเชื่อว่าทองคือ Safe Haven ที่จะช่วยรักษามูลค่าเงินในระยะยาว

อีกเหตุผลหนึ่งคือ ด้วยอายุที่ยังไม่ถึงเกณฑ์ จึงไม่สามารถเปิดพอร์ตลงทุนเองได้ ทองคำจึงกลายเป็นทางเลือกการลงทุนที่เหมาะสมในตอนนี้

โดยตั้งเป้าว่า จะเก็บทองปีละ 1 บาท คิดเป็นเงินประมาณ 50,000 บาท และตอนนี้มีทองอยู่แล้ว 2 บาท 2 สลึง

ที่สำคัญคือ เป้าหมายเหล่านี้ไม่ได้ตั้งขึ้นมาลอย ๆ 

เพราะวินรู้ดีว่า..

ถ้าอยากมีรายได้เพิ่มขึ้น มีอยู่เพียง 2 ทางเท่านั้น

นั่นคือ ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มรายได้

สำหรับการลดค่าใช้จ่าย วินทำอยู่แล้ว โดยพกข้าวและน้ำไปกินเองที่โรงเรียน และเมื่อเห็นว่าลดมากกว่านี้ไม่ได้ 

เขาจึงหันมาเน้นที่การเพิ่มรายได้ โดยปัจจุบันรายได้ของเขามาจากค่าขนมที่แม่ให้ สัปดาห์ละ 500 บาท และเขาเพิ่มรายได้จาก

1. การขายขนมในช่วงพัก 

วินสังเกตว่า เพื่อน ๆ หลายคนรีบมาเรียนตอนเช้าโดยยังไม่ได้กินข้าว และแม้จะมีช่วงพักระหว่างคาบ แต่ก็มีเวลาเพียง 10 นาที ทำให้ออกไปซื้อของกินไม่ทัน

เขาจึงใช้โอกาสตรงนี้ซื้อขนมแพ็กใหญ่มาแบ่งขาย ปัจจุบันขายยำยำช้างน้อย ซึ่งถ้าขายหมดจะมีรายได้ประมาณ 200 บาท

นอกจากนี้ ยังมีแผนต่อยอดต่อไปอีกว่า จะนำเงินที่ได้ไปลงทุนซื้อขนมปังเนยกรอบ มาขายเพิ่มในอนาคตอีกด้วย

2. การทำช่องรีวิวสินค้า

วินไม่ได้หยุดแค่การขายขนม แต่ยังเริ่มทำช่องของตัวเองบนโซเชียลมีเดีย ชื่อว่า win_phassawin 

เขาเล่าเรื่องชีวิตวัยเรียนควบคู่กับแนวคิดการเงินที่เขาใช้จริงในชีวิตประจำวัน ซึ่งหลายคลิปมียอดวิวเป็นหลักแสน และบางคลิปก็พุ่งไปถึงหลักล้านวิว

ปัจจุบัน มีหลายแบรนด์ติดต่อเข้ามาจ้างงาน จากตอนแรกที่ได้ค่าตอบแทนเพียงหลักร้อยบาท ตอนนี้ขยับขึ้นมาเป็นหลักพันบาทแล้ว

อ่านถึงตรงนี้ก็จะเห็นว่า เป้าหมายของวินไม่ได้เป็นแค่เพียงความคิดลอย ๆ แต่เขามีแผนลงมือทำจริง 

ผ่านทั้งการขายขนมที่สร้างรายได้หลักร้อยบาท และการทำช่องรีวิวสินค้าที่ปัจจุบันมีค่าจ้างหลักพันบาท

รายได้เหล่านี้ กำลังถูกเปลี่ยนเป็นเงินออมและทองคำ

เพื่อไปสู่เป้าหมายเงินสำรองฉุกเฉิน 60,000 บาท และออมทองให้ได้ปีละ 1 บาท

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ “วินวัย 14 ปี” 

กำลังส่งต่อให้กับ “วินในอนาคต”

และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า การวางแผนการเงินเริ่มได้จากรายได้เล็ก ๆ รอบตัว ไม่ว่าเราจะอายุเท่าไรก็ตาม..

#วางแผนการเงิน

#หลักวางแผนการเงิน

#วินภาสวิน

References

-Manoottangwai : บริหารจัดการเงินแบบ “วิน-ภาสวิน” กับมายด์เซ็ตทางการเงินที่ไม่แพ้ผู้ใหญ่ | มนุษย์ต่างวัย Talk EP.58

-IG : win_phassawin