Marty Schwartz อดีตนักวิเคราะห์ ที่ขาดทุนตลอด สู่ตำนานแชมป์ เทรดเดอร์ระดับโลก

Marty Schwartz อดีตนักวิเคราะห์ ที่ขาดทุนตลอด สู่ตำนานแชมป์ เทรดเดอร์ระดับโลก

18 ส.ค. 2025
ทุกคนที่ก้าวเข้ามาในตลาดหุ้น ล้วนต้องผ่านช่วงเวลาของการลองผิดลองถูก เพื่อค้นหาแนวทางการลงทุนที่เหมาะกับตัวเอง
คุณ Marty Schwartz เองก็ไม่ต่างกัน เขาเคยเป็นนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีต 
ที่ใช้เวลาศึกษาโมเดลธุรกิจ วิเคราะห์แนวโน้มรายได้และกำไร สัมภาษณ์ผู้บริหาร และเขียนรายงานแนะนำหุ้นให้ลูกค้ารายใหญ่ มีรายได้เดือนละหลายแสนบาท 
มองดูเหมือนภาพฝันของใครหลายคน แต่ในชีวิตจริง พอร์ตส่วนตัวของเขากลับขาดทุนซ้ำแล้วซ้ำเล่า
หลังจากลองผิดลองถูกและสั่งสมบทเรียนมานับไม่ถ้วน เขาจึงตัดสินใจเดิมพันชีวิตครั้งสำคัญด้วยการเปลี่ยนสไตล์การลงทุนและลาออกมาเป็นเทรดเดอร์เต็มตัว
ซึ่งนี่คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้เขาสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยกว่า 100% ต่อปี ติดต่อกันถึง 10 ปี และคว้าแชมป์การแข่งขัน U.S. Investing Championship ในปี 1984 
อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในเทรดเดอร์ที่ถูกสัมภาษณ์ในหนังสือระดับตำนานอย่าง Market Wizards อีกด้วย
แล้วอะไรคือหลักการที่ทำให้คุณ Marty Schwartz ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ 
คุณ Marty Schwartz เติบโตมาในครอบครัวชนชั้นกลาง และมีความหลงใหลในการเดิมพันมาตั้งแต่เด็ก
เขาเคยเก็บขวดโซดาไปแลกการ์ด แล้วนำมาพลิกแข่งกับเพื่อนว่าใครได้การ์ดที่เก่งที่สุด ก่อนจะต่อยอดไปเล่นเกมไพ่ โป๊กเกอร์ การพนันแข่งม้า และแม้แต่กาสิโน เขาก็เคยลองเล่นมาหมดแล้ว
ความชอบในความตื่นเต้นท้าทาย ทำให้เขาเป็นคนค่อนข้างบ้าบิ่น 
ในช่วงที่เรียนปริญญาโทที่ Columbia Business School อยู่ ๆ เขารู้สึกเบื่อ จึงตัดสินใจสมัครเป็นกำลังสำรองในนาวิกโยธินแบบไม่ลังเล
และหลังจากเรียนจบ เขาเริ่มทำงานในตำแหน่งนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ตามที่ได้เรียนมา ซึ่งแม้จะมีรายได้ดี แต่ปัญหาคือเขาลงทุนเองแล้วกลับขาดทุนอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งสาเหตุหลัก ก็มาจากการที่เขาไม่มีแผนการ ซื้อขายตามอารมณ์ และยึดติดกับการลงทุนเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองคิดถูก
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะลงทุนแล้วยังขาดทุนเรื่อย ๆ แต่ภรรยาของเขาก็ยังเชื่อมั่นและมองเห็นศักยภาพในตัวเขา 
และแนะนำสิ่งที่เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล นั่นคือ 
การสนับสนุนให้เขาออกมาเทรดเต็มตัวแบบที่เขาใฝ่ฝัน 
โดยมีข้อแม้ว่า จะต้องกำหนดเป้าหมายและวางแผนการเทรดที่ชัดเจน ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายสำคัญนั่นคือ ต้องเก็บสะสมเงินทุนให้ได้ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐก่อนที่จะลาออก
และเน้นย้ำว่า สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ก็แค่การที่เขาล้มเหลวและต้องกลับไปทำงานเป็นนักวิเคราะห์แบบเดิมก็แค่นั้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับคุณ Marty Schwartz การกลับไปทำงานเดิมนั้นเป็นเหมือนฝันร้าย เพราะเขาเบื่อชีวิตแบบเดิม ๆ
เขาจึงตัดสินใจทุ่มสุดตัว ทำงานอย่างหนัก ใช้เวลาวันละ 14 ชั่วโมงทุกวัน ไม่มีวันหยุด เพื่อพัฒนาแนวทางการเทรดของตัวเอง 
ซึ่งความมุ่งมั่นและความมีวินัย ก็ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จักในฐานะแชมป์เทรดเดอร์
หัวใจสำคัญที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่น สามารถสรุปออกมาได้ 3 ข้อหลัก ๆ นั่นคือ 
1. พัฒนาแนวทางการเทรดให้เข้ากับสไตล์ของตัวเอง
จากประสบการณ์ที่ขาดทุนเพราะไม่มีแผน คุณ Marty Schwartz เรียนรู้ว่าการมีระบบการเทรดที่เข้ากับบุคลิกของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
เขาพบว่า ตัวเขาเองเหมาะกับการเทรดเก็งกำไรระยะสั้น ซึ่งเป็นการเทรดแบบที่ต้องอาศัยความแม่นยำสูง 
โดยการเทรด 10 ครั้ง ต้องถูกและได้กำไรประมาณ 7 ถึง 8 ครั้ง เพราะทั้งการตัดขาดทุนและการทำกำไรต้องใช้เวลาสั้นทั้งคู่ 
สาเหตุที่เขาชอบแนวทางนี้ ก็เพราะเขาชอบการชนะบ่อย ๆ และการได้ยินเสียงแจ้งเตือนเงินโอนเข้าบัญชีเรื่อย ๆ เพราะมันเป็นเครื่องยืนยันว่า เขาเป็นผู้ชนะ ที่ชนะอีกครั้ง และอีกครั้ง 
อย่างไรก็ตาม บางคนอาจเหมาะกับแนวทางอื่น อย่างการตัดขาดทุนเร็ว แต่ปล่อยให้กำไรวิ่งยาว ๆ ซึ่งก็จะมีแผนการลงทุนที่แตกต่างกันออกไป 
สิ่งสำคัญคือ ต้องหาวิธีการที่เข้ากับตัวเองและยึดมั่นกับระบบนั้น
2. ใช้เครื่องมือให้เหมาะสมกับสไตล์
หลังจากพบว่าตัวเองเหมาะกับการเทรดระยะสั้น เขาก็เลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะกับแนวทางการเทรดนั้น
นั่นคือ เส้นค่าเฉลี่ย Exponential Moving Average หรือเส้น EMA 10 วัน โดยใช้เพื่อระบุแนวโน้มหลักของตลาด
ความแตกต่างของเส้นค่าเฉลี่ยแบบ EMA กับเส้นค่าเฉลี่ยแบบธรรมดาคือ เส้นค่าเฉลี่ยแบบธรรมดาจะให้น้ำหนักกับราคาปิดทุกวันเท่ากัน แต่ EMA จะให้น้ำหนักกับวันล่าสุดมากกว่า
ทำให้เป็นเครื่องมือที่เหมาะกับการเทรดระยะสั้น เพราะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาได้เร็วกว่า
วิธีการที่เขานำมาใช้งานก็เข้าใจง่ายมาก โดยแบ่งให้เป็นเหมือนสัญญาณไฟเขียว และไฟแดง
ถ้าดัชนีราคาอยู่เหนือเส้น EMA 10 วัน คือไฟเขียว
ควรอยู่ฝั่งซื้อ หรือเปิดสถานะ Long 
ถ้าดัชนีราคาอยู่ต่ำกว่าเส้น EMA 10 วัน คือไฟแดง
ควรอยู่ฝั่งขาย หรือเปิดสถานะ Short 
โดยทุกครั้งที่จะทำการซื้อหรือขาย เขาจะตรวจสอบสัญญาณไฟจากเส้น EMA 10 วันก่อนเสมอ เพื่อไม่ให้ตัวเองอยู่ในสถานะที่ขัดแย้งกับแนวโน้มหลักของตลาดนั่นเอง
3. การมีวินัยและจิตวิทยาการเทรด
หนึ่งในจิกซอว์ชิ้นสำคัญของความสำเร็จของเขา ก็คือ การเข้าไปเป็นนาวิกโยธิน ซึ่งในตอนนั้นดูเป็นการตัดสินใจแบบบ้าบิ่น แต่กลับกลายเป็นรากฐานทางวินัยที่สำคัญ
หลักการสำคัญที่เขาเรียนรู้คือ เมื่อถูกจู่โจมต้องตัดสินใจว่าจะเดินหน้าหรือถอยหลัง ห้ามอยู่เฉย ๆ
เขานำหลักการนี้มาใช้กับการลงทุน เมื่อลงทุนแล้วผิดทางจะต้องมีวินัย ยอมรับว่าตัวเองผิด และตัดขาดทุนตามแผนทันที 
เพื่อรักษาเงินทุนที่เป็นเหมือนกระสุนปืนให้เพียงพอที่จะกลับมาสู้ใหม่ได้อีกครั้ง
ซึ่งสิ่งสำคัญของหลักการนี้ ก็คือการมีวินัย และยอมถอยเมื่อจำเป็น เพื่อรักษาสมดุลและเตรียมตัวสำหรับโอกาสใหม่ที่ดีกว่านั่นเอง
อ่านถึงตรงนี้ ก็น่าจะพอเห็นภาพชัดเจนเลยว่า ทุกประสบการณ์แต่ละช่วงชีวิตล้วนแล้วแต่เป็นชิ้นส่วนจิกซอว์ที่ประกอบกันเป็นตัวตนของเรา
สำหรับคุณ Marty Schwartz เองก็คือการชอบเดิมพันตั้งแต่เด็ก ความมีวินัยจากการเป็นนาวิกโยธิน การสนับสนุนจากภรรยา หรือแม้แต่การทำงานหนักและความมุ่งมั่นในการพัฒนาตนเอง
ทั้งหมดนี้ล้วนประกอบกันและทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่ง
แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของคุณ Marty Schwartz ก็ไม่ได้สะท้อนว่าการเป็นเทรดเดอร์นั้นดีกว่าการเป็นนักวิเคราะห์แต่อย่างใด
เพราะหนทางแห่งการประสบความสำเร็จ ไม่ได้มีเพียงแค่เส้นเดียว 
นั่นก็หมายความว่า ไม่มีทางเลือกใดที่ดีกว่า มีแต่ทางเลือกที่เหมาะกับตัวเราหรือไม่เท่านั้น  
ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุด คือการรู้จักตัวเองและยึดมั่นในเส้นทางนั้นอย่างมั่นคง..
#ลงทุน
#หลักการลงทุน
#MartySchwartz
References
-หนังสือ Pit Bull : Lessons from Wall Street's Champion Day Trader : ตามติดชีวิตโคตรแชมป์เดย์เทรด (2019) โดย Martin Schwartz
-หนังสือ Market Wizards : Interviews with Top Traders : พ่อมดแห่งวอลสตรีท (2012) โดย Jack Schwager
© 2025 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.