
ทายาท Picasso เสียภาษีมรดก ด้วยงานศิลปะกว่า 3,800 ชิ้น แต่ถ้าเป็นคนไทย ไม่ต้องเสียเลยสักชิ้น
29 ก.ค. 2025
เมื่อพูดถึงคุณ Pablo Picasso หลายคนอาจนึกถึงภาพวาดแนว Cubism ที่เปลี่ยนโลกศิลปะไปตลอดกาล
แต่รู้หรือไม่ว่า นอกจากจะเป็นศิลปินระดับโลกแล้ว
เขายังกลายเป็นกรณีศึกษาระดับโลกจาก
“การไม่เขียนพินัยกรรม”
จนทำให้ครอบครัวต้องจ่ายภาษีมรดกมูลค่ามหาศาล
ด้วยงานศิลปะของเขาเอง
และที่น่าสนใจกว่านั้นคือ รู้ไหมว่าถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในประเทศไทย ครอบครัวของเขาอาจจะไม่ต้องเสียภาษีมรดกเลยแม้แต่บาทเดียว
เรื่องราวนี้เป็นอย่างไร ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
คุณ Pablo Picasso เป็นศิลปินระดับโลกที่ทรงอิทธิพลต่อวงการศิลปะมากที่สุดคนหนึ่งในศตวรรษที่ 20
ตลอดชีวิต เขาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะกว่า 50,000 ชิ้น ตั้งแต่ภาพวาด รูปปั้น และอีกมากมาย รวมมูลค่ามหาศาล
แต่กลับไม่ได้ทำพินัยกรรมทิ้งไว้เลยสักฉบับเดียว
ทำให้เมื่อเขาเสียชีวิตในปี 1973 ปัญหาใหญ่จึงเกิดขึ้น..
ลองคิดภาพตามว่า ศิลปินระดับโลกที่มีมรดกเป็นงานศิลปะมูลค่ามหาศาลนับหมื่นชิ้น และมีลูก 4 คนจากภรรยา 3 คน แต่ไม่มีเอกสารระบุไว้ว่าใครควรได้อะไร
การแก้ปัญหานี้กลายเป็นเรื่องยุ่งยาก และกินเวลานานกว่า 6 ปี ต้องใช้ทั้งทนายความ นักประเมินราคา เจ้าหน้าที่รัฐ แม้แต่ประธานาธิบดีฝรั่งเศสยังต้องเข้ามาช่วยจัดการ
แต่นอกจากความวุ่นวายเรื่องการแบ่งมรดกไม่ลงตัวแล้ว อีกปัญหาใหญ่ก็คือ ทรัพย์สินมรดกส่วนใหญ่ล้วนเป็นงานศิลปะที่แม้จะมีมูลค่าสูง แต่ไม่สามารถขายออกมาเป็นเงินสดได้ทันที
ทำให้เมื่อความมั่งคั่งของเขาถูกตีมูลค่าเป็นภาษีมรดก ครอบครัวของเขาจึงต้องเผชิญกับโจทย์ใหญ่ เพราะไม่มีเงินสดเพียงพอ
สุดท้าย พวกเขาจำเป็นต้องยอมใช้ภาพวาดและผลงานศิลปะกว่า 3,800 ชิ้นเพื่อจ่ายเป็นภาษีมรดกแทน
ผลงานศิลปะเหล่านั้นแทนที่จะตกสู่ทายาท จึงได้กลายไปเป็นสมบัติของรัฐแทน
และถูกนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ Picasso ที่ปารีส ซึ่งปัจจุบันถือเป็นสถานที่ที่รวบรวมผลงานของคุณ Pablo Picasso ไว้มากที่สุดในโลก
แต่รู้หรือไม่ว่า ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในประเทศไทย ผลงานศิลปะเหล่านั้นอาจไม่ต้องตกไปเป็นของรัฐบาล และครอบครัวของเขาก็อาจไม่ต้องเสียภาษีเลยแม้แต่บาทเดียว..
เพราะตามกฎหมายไทย “งานศิลปะ” ไม่ถือเป็นทรัพย์สินที่ต้องเสียภาษีมรดก แม้จะเป็นภาพวาดที่มีมูลค่าหลายล้านบาทก็ตาม
ปัจจุบันประเทศไทยกำหนดให้ทรัพย์สินที่ต้องเสียภาษีมรดก มีเพียง 4 ประเภทหลักเท่านั้น คือ
1. อสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่ดิน บ้าน หรือคอนโดมิเนียม
2. หลักทรัพย์ เช่น พันธบัตร หุ้นกู้ หรือหุ้น
3. เงินฝาก หรือเงินอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายกัน
4. ยานพาหนะที่มีทะเบียน เช่น รถยนต์ เรือ หรือเครื่องบิน
และที่สำคัญ ภาษีมรดกจะเสียก็ต่อเมื่อได้รับมรดกเกิน 100 ล้านบาทเท่านั้น โดยจะเริ่มเสียเฉพาะส่วนที่เกิน 100 ล้านบาทขึ้นไป
พูดให้เข้าใจง่าย ๆ ทรัพย์สินที่ต้องเสียภาษีมรดก มักจะเป็นทรัพย์สินที่มีทะเบียน หรือมีชื่อเราเป็นเจ้าของผูกติดอยู่ และจะเสียก็ต่อเมื่อมีมูลค่าเกิน 100 ล้านบาท
นั่นก็เท่ากับว่า งานศิลปะอย่างภาพวาด ของสะสม เครื่องประดับ ทองคำแท่ง หรือแม้แต่เงินสด ทั้งหมดนี้ไม่เข้าข่ายเป็นทรัพย์สินที่ต้องเสียภาษีมรดกเลย ต่อให้มีมูลค่ามหาศาลแค่ไหนก็ตาม
หมายความว่า หากเราได้รับมรดกเป็นภาพวาดของคุณ Pablo Picasso มูลค่าหลายพันล้านในประเทศไทย ก็ไม่ต้องเสียภาษีมรดกแม้แต่บาทเดียว
เพราะงานศิลปะไม่ใช่ทรัพย์สินที่เข้าข่ายต้องเสียภาษีมรดกตามกฎหมายไทยนั่นเอง
และทั้งหมดนี้คือ เรื่องราวของคุณ Pablo Picasso ที่เริ่มต้นจากการไม่เขียนพินัยกรรม แต่ปัญหาที่ตามมา กลับไม่ได้จบเพียงแค่การแบ่งมรดก
เพราะแม้เวลาจะผ่านมาแล้วกว่าครึ่งศตวรรษ ความขัดแย้งในครอบครัวของเขาก็ยังดำเนินอยู่จนถึงปัจจุบัน จนต้องตั้งเป็นองค์กรชื่อ The Picasso Administration เพื่อจัดการผลประโยชน์โดยเฉพาะ
ซึ่งตอกย้ำชัดเจนว่า แม้จะมีชื่อเสียง มีทรัพย์สินระดับโลก
แต่หากไม่มีการวางแผนล่วงหน้า
สิ่งที่ทิ้งไว้เบื้องหลังอาจไม่ใช่แค่ผลงาน แต่อาจรวมถึงปัญหา ที่คนข้างหลังต้องคอยรับมือไปอีกหลายสิบปี..
#วางแผนการเงิน
#หลักการวางแผนการเงิน
#ภาษีมรดก
References