สรุป 5 ไอเดียการลงทุน จากเรื่อง The Match

สรุป 5 ไอเดียการลงทุน จากเรื่อง The Match

29 พ.ค. 2025
นี่คือเรื่องราวระหว่าง อาจารย์และลูกศิษย์คู่หนึ่ง
ทั้ง 2 คนเป็นปรมาจารย์หมากล้อม
ทั้ง 2 คนมีสไตล์ที่แตกต่างกัน
และทั้ง 2 คนแข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
เพื่อเป็นมือหนึ่งในประเทศเกาหลีใต้..
นี่คือเนื้อเรื่องแบบย่อ ๆ ของ The Match ภาพยนตร์ที่เพิ่งออกฉายทาง Netflix ในปีนี้
แม้ภาพยนตร์เรื่องนี้ จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการแข่งขันหมากล้อม แต่ให้บทเรียนที่เป็นประโยชน์ต่อการลงทุนไม่น้อยเลย
และหากสงสัยว่า บทเรียนเหล่านั้น มีอะไรบ้าง ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ
The Match เป็นเรื่องราวการแข่งขันกีฬาหมากล้อม ระหว่างอาจารย์คือคุณโจฮุนฮยอน และลูกศิษย์คือคุณอีชางโฮ ซึ่งแต่ละคน กลับมีแนวทางการเล่นที่ไม่เหมือนกันเลย
คุณโจฮุนฮยอน ผู้เป็นอาจารย์ โดดเด่นในการเล่นเกมรุก
ส่วนคุณอีชางโฮ ลูกศิษย์ โดดเด่นในกลยุทธ์ที่เน้นตั้งรับ
แม้ภาพยนตร์เรื่องนี้ จะเป็นเรื่องราวของวงการหมากล้อมในประเทศเกาหลีใต้ ที่มองเผิน ๆ ก็ดูไม่น่าจะเกี่ยวกับการลงทุน 
แต่แก่นความรู้ที่ได้จากการชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็สามารถนำมาปรับใช้ในการลงทุนได้เหมือนกัน และเพื่อไม่ให้เป็นการสปอยล์เนื้อหาภาพยนตร์ 
เราจึงอาจจะไม่ได้บอกว่า บทเรียนแต่ละข้อเราสรุปมาจากฉากใดบ้าง เผื่อว่าเพื่อน ๆ จะอยากรับชมและตีความด้วยตัวเอง 
1. หาแนวที่เหมาะสมกับเราให้เจอ
การลงทุนก็เหมือนกับการเล่นหมากล้อม คือแม้ในโลกนี้ จะมีนักลงทุนในตำนานที่ประสบความสำเร็จอยู่หลายคน
แต่หากเราสังเกตให้ดี จะพบว่า นักลงทุนเหล่านี้ มีสไตล์การลงทุนที่แตกต่างกันอยู่พอสมควร
บางคนก็เก่งในการลงทุนแบบปัจจัยพื้นฐาน บางคนก็เก่งในการลงทุนแบบเทคนิคัล
และก็มีบางคน เก่งในการลงทุนแบบนำคณิตศาสตร์มาใช้
อย่างในโลกของหมากล้อม นักเล่นบางคนก็ถนัดกับการเล่นแบบเน้นบุก เพื่อชนะคู่แข่งโดยเร็ว
ในขณะที่ก็มีบางคน ถนัดกับแนวทางแบบเน้นตั้งรับ เพื่อหาโอกาสในการสวนกลับ
แม้แนวทางจะแตกต่างกันมาก แต่เป้าหมายของนักเล่นหมากล้อม ก็ล้วนเหมือนกัน นั่นคือ การเล่นเพื่อคว้าชัยชนะ
เฉกเช่นเดียวกับนักลงทุนแต่ละคน ที่ถึงจะมีแนวทางลงทุนแตกต่างกัน แต่เป้าหมายหลักในการลงทุน ก็มักจะมีไม่ต่างกัน นั่นคือลงทุนเพื่อให้พอร์ตเติบโต และเพิ่มพูนความมั่งคั่งให้กับตัวเอง
ดังนั้น หากเราอยากจะลงทุนไปได้ยาว ๆ และประสบความสำเร็จในท้ายที่สุด เราก็ควรจะหาแนวทางที่เหมาะสมกับเราให้เจอ
2. กลยุทธ์สามารถปรับเปลี่ยนได้เสมอ
ในการแข่งขันหมากล้อม หรือแม้แต่กีฬาอื่น ๆ ไม่มีแผนที่จะชนะคู่แข่งทุกคนได้ตลอดฉันใด 
การลงทุนก็ไม่มีกลยุทธ์สำเร็จ ที่ใช้แล้วจะทำให้เราได้ผลตอบแทนที่ดีในทุกยุคทุกสมัยฉันนั้น 
เพราะในอดีต เคยมีกลยุทธ์การลงทุนบางอย่างที่โดดเด่นมาก สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้มหาศาล
แต่เมื่อเวลาผ่านไป เมื่อมีคนส่วนใหญ่รู้จักกับกลยุทธ์แบบนี้ กลยุทธ์ที่เคยใช้งานได้ดี กลับไม่สามารถทำผลตอบแทนออกมาได้ดี อีกต่อไป
เช่น ในยุคหนึ่ง กลยุทธ์การลงทุนแบบเน้นหุ้นคุณค่า ที่มีราคาถูกมาก เคยให้ผลตอบแทนดี
โดยกลยุทธ์นี้ นักลงทุนจะซื้อหุ้นของบริษัทตอนราคาต่ำกว่ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิ แล้วค่อยขายทำกำไร เมื่อราคาหุ้นขึ้นมาสูงกว่า
แต่เมื่อนักลงทุนส่วนใหญ่ ต่างเข้ามาใช้วิธีแบบนี้กัน ก็ส่งผลให้ราคาหุ้นไม่ถูกอีกต่อไป ผลตอบแทนที่ได้รับ ก็จะน้อยลงไปมาก
พอเป็นแบบนี้ หากเรายังอยากได้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่น่าพอใจ เราก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะต้องปรับตัวให้เข้ากับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไป
ด้วยการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนเสียใหม่ หรือลองมองหาตลาดหุ้นในประเทศใหม่ ๆ ที่เรายังพอจะใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบเดิมได้แทน
3. มองให้ยาวกว่าคนอื่น
ในโลกของการลงทุน จะมีข้อมูลมากมาย จากบรรดานักข่าวและนักวิเคราะห์ ออกมาให้เราต้องคอยติดตามกันอยู่ในทุกวัน
ข้อมูลเหล่านี้ ประกอบไปด้วยทั้งข่าวดีและข่าวร้าย ซึ่งหากลองพิจารณาให้ถี่ถ้วน ก็จะพบว่า ส่วนใหญ่ไม่ใช่เรื่องที่สำคัญต่อการลงทุนสักเท่าไร 
แต่พอปล่อยออกมาทีหนึ่ง กลับทำให้ราคาหุ้นเปลี่ยนแปลง เหวี่ยงขึ้นเหวี่ยงลงแรง อยู่บ่อย ๆ
หากเราใส่ใจกับเรื่องเหล่านี้มากจนเกินไป ก็อาจจะทำให้เราตัดสินใจลงทุนผิดพลาดไปได้
เช่น ซื้อขายหุ้นบ่อยเกินไป, ไปขายหุ้นพื้นฐานดีตอนที่มีข่าวร้ายระยะสั้น และไปซื้อหุ้นพื้นฐานแย่ ตอนที่มีข่าวดีแบบปลอม ๆ
ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ มักจะเป็นสิ่งที่นักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดทำเหมือนกัน และได้ผลตอบแทนระดับธรรมดา ๆ เหมือนกัน
ดังนั้น ถ้าเราอยากจะได้รับผลตอบแทน ที่เหนือกว่าค่าเฉลี่ย เราก็จะต้องไม่ทำเหมือนคนส่วนใหญ่
หากคนส่วนใหญ่ มองการลงทุนแบบระยะสั้น
เราก็จะต้องมองมุมกลับ ด้วยการมีมุมมองการลงทุนแบบระยะยาวแทน
ซึ่งการมองให้ยาวกว่าคนอื่นนี้ จะช่วยให้เรายึดมั่นในคุณค่าที่แท้จริงของบริษัท ที่เราลงทุนอยู่ได้ เพราะเราจะสามารถอดทนถือหุ้นของบริษัทไปได้นาน
และในช่วงที่ราคาหุ้นตกต่ำ เราก็จะลงทุนแบบสวนกระแส ด้วยการกล้าซื้อหุ้นดีในราคาถูกได้
ถ้าเราอดทนทำแบบนี้ได้ ในระยะยาว เราจะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าเป็นอย่างมาก
4. ความผิดพลาดเป็นเรื่องธรรมดา
แม้เราจะตั้งอกตั้งใจ พยายามทำสิ่งต่าง ๆ ออกมาให้ดีมากแค่ไหน หลายครั้งเราก็มักจะพบกับความผิดพลาด และความพ่ายแพ้ อยู่บ่อย ๆ
นั่นก็เพราะ ทั้งความผิดพลาดและความพ่ายแพ้ เป็นเรื่องปกติที่จะต้องเกิดขึ้นในชีวิตของเราอยู่แล้ว
อย่างในเรื่องของการลงทุน ที่ผ่านมาเราอาจจะตัดสินใจถูก ทำผลตอบแทนได้หลายเด้ง แต่เมื่อเราตัดสินใจผิดพลาด เราก็อาจจะขาดทุนไปหลายสิบเปอร์เซ็นต์
เวลาเราถูก ได้กำไร เราคงจะดีใจมาก อยากจะให้ช่วงเวลาแบบนี้อยู่ไปนาน ๆ
แต่เวลาเราผิด ขาดทุน เราก็คงจะเสียใจมากเช่นกัน จนอยากจะให้ความทุกข์ที่เกิดขึ้นนี้ รีบผ่านพ้นไปโดยเร็ว
ซึ่งหากเราลองสังเกตตัวเองดู ก็จะเห็นไม่ต่างกันว่า ความสุขเวลาได้กำไร หลายครั้งอาจจะไม่สามารถชดเชย ความทุกข์จากการขาดทุนได้เลย
หากเราจัดการกับความรู้สึก ที่เหวี่ยงขึ้นเหวี่ยงลงแบบนี้ ได้ไม่ดี ก็จะทำให้เราไม่มีความสุขในการลงทุนเลย เพราะเราจะไปมัวแต่กดดันตัวเอง ว่าจะต้องตัดสินใจให้ถูกต้องเท่านั้น
ซึ่งในความเป็นจริงของชีวิตแล้ว แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ที่คนเราจะถูกอยู่ทุกครั้งไป
ดังนั้นแล้ว ทางที่ดีกว่า ก็อาจจะเป็นการยอมรับว่า เราเองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่สามารถทำอะไรผิดพลาดได้ และพร้อมจะเรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น
5. เหนือฟ้ายังมีฟ้า
ถึงแม้เราจะเป็นนักลงทุนที่ขยันมาก หาความรู้ ศึกษาธุรกิจอยู่ตลอด และที่ผ่านมาก็ทำผลตอบแทนได้น่าพอใจ
แต่เราก็คงจะได้พบเจอกับนักลงทุนบางคนอยู่บ้าง ที่เราเองก็รู้ดีว่า เขาเก่งกว่าเรา ถึงเราจะพยายามอย่างหนักแค่ไหน ก็ไม่สามารถเทียบชั้นได้เลย
หากเราทำใจยอมรับเรื่องแบบนี้ไม่ได้ และมัวแต่ไปอิจฉาว่า ในโลกนี้มีนักลงทุนที่เก่งกว่าเรา มีพรสวรรค์มากกว่าเรา
ชีวิตนี้เราก็คงจะหาความสุขความสงบภายใน ไม่เจอเลย เพราะเราจะต้องคอยแต่เอาตัวเอง ไปเปรียบเทียบกับคนอื่นอยู่ตลอด
เพราะฉะนั้น เพื่อให้เรายังมีความสุขในการลงทุนและการใช้ชีวิตต่อไป เราก็ต้องพยายามทำใจยอมรับให้ได้ว่า ในโลกนี้มีคนที่เก่งกว่าเราอยู่
และถ้าทำได้ การลองปรับมุมมองด้วยการเปิดใจเรียนรู้จากคนที่เก่งกว่าเรา
รวมถึงลองปรับความคิดดูว่า ในเรื่องการลงทุนเอง ตัวชี้วัดที่ว่า เราเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จหรือไม่ อาจจะไม่ใช่การที่เราทำผลตอบแทน ได้สูงกว่าคนอื่นแค่ไหน
แต่ควรจะเป็น ผลตอบแทนจากการลงทุนของเรา สามารถเปลี่ยนชีวิต ให้เรามีอิสรภาพทางการเงินได้หรือไม่ต่างหาก
อ่านมาถึงตรงนี้ ก็เชื่อว่า เราคงเข้าใจกันดีขึ้นแล้วว่า บทเรียนการลงทุนที่ได้รับจากภาพยนตร์เรื่อง The Match มีอะไรน่าสนใจบ้าง
ภาพยนตร์เรื่องนี้ แม้จะเป็นเรื่องการประลองปัญญา ระหว่างอาจารย์และลูกศิษย์ ผ่านกระดานหมากล้อม แต่กลับให้บทเรียนอันมีคุณค่าต่อการลงทุนได้
อย่างไรก็ตาม บทเรียนที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้ จริง ๆ แล้ว ก็ไม่ได้มีแค่ด้านการลงทุนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่สามารถมอบมุมมองเชิงลึกของชีวิตในด้านอื่น ๆ ให้กับเราได้ด้วย
หากเราอยากจะใช้เวลาสัก 2 ชั่วโมง ในการชมภาพยนตร์ดี ๆ สักเรื่อง The Match ก็น่าจะเป็นอีกเรื่อง ที่จะมอบทั้งความบันเทิง และข้อคิดสอนใจดี ๆ ให้กับเรา ได้ไม่มากก็น้อยเลย..
#ลงทุน
#หลักการลงทุน
#TheMatch
© 2025 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.