ผลประกอบการ SCGP ปี 2567 รายได้โต 3% กระแสเงินสดยังคงแข็งแกร่ง ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.55 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 63.8% ของกำไร

ผลประกอบการ SCGP ปี 2567 รายได้โต 3% กระแสเงินสดยังคงแข็งแกร่ง ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.55 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 63.8% ของกำไร

10 ก.พ. 2025
บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP แถลงผลการดำเนินงานปี 2567 เผยปีที่ผ่านมาได้รับมือสถานการณ์ที่ท้าทายและยังคงรักษาตำแหน่งความเป็นผู้นำส่วนแบ่งตลาดบรรจุภัณฑ์ในอาเซียนไว้ได้ โดยการปรับกลยุทธ์การตลาด มุ่งเน้นตลาดประเทศในอาเซียน รองรับความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งได้มีการปรับพอร์ตเพิ่มการลงทุนในกลุ่มสินค้าที่เชื่อมโยงกับผู้บริโภค เช่น อาหารเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มสินค้าที่มีศักยภาพเติบโต อย่าง Healthcare Supplies และมีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิต 
ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ในปี 2567 ความต้องการของตลาดในอาเซียน ปรับตัวดีขึ้นจากการบริโภคภายในประเทศ และการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และภาคการส่งออก อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีหลัง มีปัจจัยค่าเงินบาทและสกุลเงินอื่น ๆ ในอาเซียน และเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ ส่งผลต่อปริมาณการส่งออกและราคาของกระดาษบรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคที่ปรับตัวลดลง
ทำให้ปี 2567 SCGP มีรายได้จากการขาย 132,784 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับปีก่อน EBITDA 16,127 ล้านบาท ลดลง 9% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีกำไร 3,699 ล้านบาท ลดลง 30% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2567 มีรายได้จากการขาย 31,231 ล้านบาท ลดลง 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มี EBITDA 2,845 ล้านบาท ลดลง 35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และขาดทุนสำหรับงวด 57 ล้านบาท ลดลง 105% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาของวัตถุดิบกระดาษรีไซเคิลที่สูงขึ้น และราคาขายของสินค้าที่อ่อนตัวลง รวมถึงการรวมผลการดำเนินงานจากอินโดนีเซีย และผลประกอบการของธุรกิจรีไซเคิลที่ลดลง
จากผลการดำเนินงานของปี 2567 คณะกรรมการบริษัทมีมติ อนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.55 บาท โดยบริษัทได้จ่ายเป็นเงินปันผลงวดระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 และจะจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท ในวันที่ 21 เมษายน 2568 ตามรายชื่อ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 2 เมษายน 2568 โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD หรือวันที่ไม่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 1 เมษายน 2568
มั่นใจปี 2568 ธุรกิจเติบโตรับตลาดบรรจุภัณฑ์ฟื้นตัว วางแผนงบลงทุนรวม 13,000 ล้านบาท และตั้งเป้าเพิ่ม EBITDA เป็น 18,000 ล้านบาท โดยดำเนินงานผ่าน 4 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 
1. รุกตลาดในอาเซียน โฟกัสการขายที่ตลาดภายในประเทศไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และสร้างการเติบโตในสินค้าปลายน้ำต่อเนื่อง รวมถึงเพิ่มโอกาสเข้าตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูงอย่าง Healthcare Supplies
2. เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วย Data Analytic และ Artificial Intelligence (AI) ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและลดต้นทุนได้ประมาณ 600 ล้านบาท 
3. พัฒนานวัตกรรม โซลูชัน และผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำตอบโจทย์ลูกค้า เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไร โดยตั้งงบประมาณและค่าใช้จ่าย เพื่อการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ คิดเป็น 1% โดยประมาณของรายได้ในแต่ละปี ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้ารายได้จาก กลุ่มสินค้านวัตกรรมและโซลูชัน คิดเป็น 37% ของรายได้รวม
4. เดินหน้า ESG โดยวางเป้าหมายเพิ่มการใช้พลังงานทางเลือก 39% ในปี 2568
Tag: SCGP
© 2025 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.