SHR โรงแรมกลุ่มสิงห์ รายได้หมื่นล้าน ที่เพิ่งเริ่มมีกำไร ตั้งแต่เข้าตลาด | MONEY LAB

เมื่อพูดถึง “บุญรอดบริวเวอรี่” หรือ กลุ่มสิงห์ ภาพในหัวของคนส่วนใหญ่ ก็คือกลุ่มธุรกิจ ผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่ของไทย

แต่รู้หรือไม่ว่า นอกจากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มแล้ว กลุ่มสิงห์ยังเป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรมอีกด้วย

โดยธุรกิจโรงแรมของกลุ่มสิงห์ ที่ได้กล่าวไปข้างต้นก็คือ บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR นั่นเอง

ทว่าในตอนที่โรงแรม เพิ่งจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นได้ไม่นาน ก็เกิดโรคระบาด ซึ่งทำให้ที่ผ่านมาบริษัทขาดทุนยับเยิน จนเมื่อช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง ที่บริษัทก็ได้กลับมามีกำไรได้อีกครั้ง

แล้ว SHR ทำอย่างไร ถึงสามารถกลับมาทำกำไรได้อีกครั้งแบบนี้ ?
MONEY LAB จะย่อยเรื่องการเงิน การลงทุน ให้เข้าใจง่าย ๆ

SHR หรือ บมจ.เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท เป็นบริษัทเรือธง ในการประกอบธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ต ของบมจ.สิงห์ เอสเตท

ลักษณะธุรกิจเป็น Holding Company ซึ่งประกอบด้วยโรงแรมและรีสอร์ต 37 แห่ง ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

โดยโรงแรมในต่างประเทศ ก็จะอยู่ในประเทศที่เป็นแหล่งการท่องเที่ยวสำคัญของโลก เช่น มัลดีฟส์, หมู่เกาะฟีจี, มอริเชียส และสหราชอาณาจักร

ข้อดีของการที่มีโรงแรมกระจายตัวในหลายประเทศ ทำให้บริษัทมีรายได้ไม่ผันผวนตามฤดูกาล

เพราะในไตรมาสที่ 2 และ 3 ของปี จะเป็นฤดูท่องเที่ยวของสหราชอาณาจักร และหมู่เกาะฟีจี

ส่วนในไตรมาสที่ 1 และ 4 ของปี ก็จะเป็นฤดูท่องเที่ยวของไทย, มัลดีฟส์ และมอริเชียส

SHR เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2562 แต่ผ่านมาแค่เดือนเดียว ช่วงสิ้นปี
ก็เกิดสถานการณ์โรคระบาดขึ้น

จนนำไปสู่การล็อกดาวน์ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจโรงแรม ทำให้ที่ผ่านมา บริษัทมีผลการดำเนินงานขาดทุนมาโดยตลอด

แต่ปัจจุบันที่สถานการณ์โรคระบาด ได้คลี่คลายลง ผลประกอบการของบริษัทก็ดีขึ้น เห็นได้จากการลองดูผลประกอบการของบริษัทเปรียบเทียบกัน

ปี 2562
รายได้ 4,018 ล้านบาท
ขาดทุน 467 ล้านบาท

ปี 2566
รายได้ 10,097 ล้านบาท
กำไร 86 ล้านบาท

จะพบว่า บริษัทพลิกกลับมามีกำไร และมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 250% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่เป็นช่วงก่อนเกิดโรคระบาด

แต่การคลี่คลายของสถานการณ์โรคระบาด จนทำให้นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา ก็ไม่ใช่เพียงแค่เหตุผลเดียว

เพราะถ้าหากเข้าไปดูในรายละเอียดเพิ่มเติม จะพบว่า
นอกจากรายได้ที่โตขึ้นแล้ว บริษัทยังสามารถควบคุม
ค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้นด้วย

เห็นได้จาก อัตราค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ซึ่งคิดจากการนำค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร มาหารกับรายได้ แล้วคิดเป็นเปอร์เซ็นต์

ตัวเลขนี้จะบอกเราว่า ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการขาย
และบริหาร คิดเป็นสัดส่วนเท่าไรต่อรายได้

ซึ่งโดยปกติแล้ว เมื่อรายได้เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายในการขาย
และบริหารมักจะเพิ่มขึ้นตาม

แต่ในปี 2566 อัตราส่วนการขายและบริหารต่อรายได้
ของบริษัทลดลง จากปี 2562

ปี 2562
อัตราค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร อยู่ที่ 37.98%

ปี 2566
อัตราค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร อยู่ที่ 24.49%

ตัวเลขที่ลดลง ก็แปลความได้ว่า บริษัทมีความสามารถ
ในการบริหารงานที่ดีขึ้น

สาเหตุที่เป็นแบบนี้เพราะว่า ในช่วงที่เกิดโรคระบาด
ที่ผ่านมา กลุ่มโรงแรมเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบหนักสุด
ทำให้โรงแรมต้องควบคุมต้นทุน และลดค่าใช้จ่ายที่
ไม่จำเป็นลง

เมื่อค่าใช้จ่ายลดลงแล้ว ก็เป็นผลดีต่อการฟื้นตัว เพราะการลดค่าใช้จ่ายลง ก็จะทำให้ธุรกิจถึงจุดคุ้มทุนเร็วขึ้น

ซึ่งจากทั้งรายได้ที่เพิ่มขึ้น และการควบคุมค่าใช้จ่าย
ให้ลดลงนี้เอง

จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ SHR สามารถกลับมา
มีกำไรได้ หลังจากเกิดโรคระบาด นั่นเอง..

Sponsored by บล. Zcom
สนใจลงทุนในหุ้น เปิดบัญชีออนไลน์ไปกับ บล. Zcom
เทรดหุ้นด้วยค่าคอมฯ เพียง 0.065%* ไม่มีค่าคอมฯ ขั้นต่ำ เทรดเท่าไร จ่ายตามจริง
พร้อมใช้งานเครื่องมือการเทรด efin/Streaming ทุกฟังก์ชัน ฟรี !!
เปิดบัญชีได้เลยที่ >> https://bit.ly/3VUtOBZ
.
*อัตรานี้ยังไม่รวมค่าธรรมเนียมอื่น ๆ
**การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล ก่อนตัดสินใจลงทุน
.
Facebook: Zcom Securities
Line: @zcomsecurities (http://bit.ly/2TJtaIC)

zcomsecurities

References
-งบการเงินของ บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน)
-https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/172-what-to-consider-before-buying-hotel-stocks
-https://www.finnomena.com/stock/SHR