เครื่องจักรเศรษฐกิจ สำคัญของไทย กำลังเจอปัญหา นักท่องเที่ยวหาย

เครื่องจักรเศรษฐกิจ สำคัญของไทย กำลังเจอปัญหา นักท่องเที่ยวหาย

2 พ.ย. 2023
เครื่องจักรเศรษฐกิจ สำคัญของไทย กำลังเจอปัญหา นักท่องเที่ยวหาย | MONEY LAB
รู้หรือไม่ว่า ในปี 2562 ก่อนเกิดโรคระบาด ไทยเคยมีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงถึง 3 ล้านล้านบาท
หรือคิดเป็นสัดส่วนต่อ GDP มากถึง 18%
และเป็นประเทศที่สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก
ขณะที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็สร้างงานได้มากกว่า 7 ล้านตำแหน่ง หรือคิดเป็น 20% ของตำแหน่งงานทั้งหมดในปีนั้น
จึงเรียกได้ว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ถือเป็นบ่อเงินบ่อทองให้กับประเทศไทย
ตัดภาพมาที่ปัจจุบัน เมื่อสถานการณ์โรคระบาดทั่วโลกเริ่มคลี่คลาย การท่องเที่ยวก็น่าจะกลับมาเป็นบ่อเงินบ่อทองให้ประเทศไทยได้เหมือนเดิม
แต่ความจริงที่เกิดขึ้น อาจไม่ใช่แบบนั้น..
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย ? MONEY LAB จะเล่าเรื่องการเงิน ที่โรงเรียนไม่เคยสอน ให้เข้าใจ
ย้อนกลับไปในปี 2562 ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามากถึง 39.9 ล้านคน โดยประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมาไทยมากที่สุด 3 อันดับแรก ก็คือ
1.นักท่องเที่ยวจีน 10.9 ล้านคน
2.นักท่องเที่ยวมาเลเซีย 4.2 ล้านคน
3.นักท่องเที่ยวอินเดีย 1.9 ล้านคน
ซึ่งถ้านับเฉพาะ 9 เดือนแรกของปี 2562 ก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในไทยมากถึง 29.5 ล้านคน
แต่พอมาปี 2566 ในช่วง 9 เดือนแรก มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในไทยเพียง 20 ล้านคนเท่านั้น
หรือคิดเป็นเพียง 68% ของยอดนักท่องเที่ยวในช่วงก่อนเกิดโรคระบาด
แล้วถ้าเราลองเปรียบเทียบกับประเทศที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนมากกว่าเรา อย่างเช่น สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส หรือสเปน ประเทศเหล่านี้ประสบปัญหาแบบเดียวกับเราไหม ?
ถ้าเราอ้างอิงข้อมูลจากองค์การการท่องเที่ยวโลก ก็จะพบว่า ประเทศอื่นประสบปัญหาแบบเดียวกับเราจริง แต่ไม่หนักเท่าเรา
เพราะถ้าลองไปดูยอดนักท่องเที่ยวของประเทศอื่น ๆ ในช่วงครึ่งปีแรกนี้ ก็จะเห็นว่าฟื้นขึ้นมาได้ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 84% ของยอดนักท่องเที่ยวในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 แล้ว
ขณะที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย กลับฟื้นตัวได้ช้ากว่าประเทศอื่น ๆ โดยฟื้นตัวขึ้นมาแค่ 68% เท่านั้น
ซึ่งสาเหตุสำคัญน่าจะเป็นเพราะ นักท่องเที่ยวจีนยังไม่กลับมาเที่ยวไทยมากเท่าเมื่อก่อน
โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวในไทยเพียง 2.5 ล้านคนเท่านั้น เทียบกับ 10.9 ล้านคนในปี 2562 ทั้งปี
สาเหตุที่นักท่องเที่ยวจีนยังไม่กลับมา ก็น่าจะเป็นเพราะตอนนี้เศรษฐกิจจีนเองกำลังเจอปัญหาที่กระทบกำลังซื้อของคนในประเทศ ทั้งเรื่องวิกฤติอสังหาฯ และอัตราการว่างงานของเด็กจบใหม่ที่พุ่งสูงขึ้น
นอกจากนักท่องเที่ยวจีนยังไม่กลับมาแล้ว รู้ไหมว่ามีนักท่องเที่ยวจากอีกประเทศหนึ่งที่หายไปอย่างเงียบ ๆ นั่นก็คือ นักท่องเที่ยวจากประเทศญี่ปุ่น
ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเข้ามาเที่ยวในไทยเพียง 575,000 คนเท่านั้น เทียบกับทั้งปี 2562 ที่มีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเข้ามาเที่ยวในไทย มากถึง 1.8 ล้านคน
สำหรับสาเหตุที่คนญี่ปุ่นไม่ค่อยมาเที่ยวในไทย ก็คือ เรื่องพฤติกรรมการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไปของคนญี่ปุ่น หลังมีเหตุการณ์โรคระบาด
จากผลสำรวจของบริษัท มอร์นิง คอนซัลต์ ซึ่งเป็นบริษัทข่าวกรองธุรกิจระดับโลก ที่สำรวจความคิดเห็นของชาวญี่ปุ่น ต่อการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศในปี 2565
พบว่า ชาวญี่ปุ่นกว่า 35% รู้สึกว่าการเดินทางท่องเที่ยวไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอันดับต้น ๆ ของพวกเขาอีกต่อไป
นอกจากนี้ ค่าเงินเยนที่อ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 10 ปี ก็ทำให้ค่าใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวของคนญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่คนญี่ปุ่นหลายคนจะชะลอแผนการท่องเที่ยวต่างประเทศออกไปก่อน
จะเห็นได้ว่า แม้รัฐบาลไทยจะออกมาตรการฟรีวีซาให้นักท่องเที่ยวจีน แต่ปัญหาด้านเศรษฐกิจของจีนเอง น่าจะมีส่วนทำให้นักท่องเที่ยวจีนอาจยังไม่ฟื้นตัวกลับมาเท่าเดิมในเร็ว ๆ นี้
ดังนั้นโจทย์ที่รัฐบาลต้องแก้ อาจไม่ใช่การกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมาเที่ยวในไทย แต่คือการมองหานักท่องเที่ยวจากประเทศอื่น ๆ ที่มีศักยภาพเข้ามาแทนที่นักท่องเที่ยวจีนที่หายไป..
© 2024 MONEY LAB. All rights reserved. Privacy Policy.